พักนี้เหมือนว่า Samsung จะเจอเข้ากับข่าวดีแบบรัวๆ เพราะก่อนหน้านี้ก็เพิ่งจะคว้าอันดับหนึ่งแบรนด์สมาร์ทโฟนที่ขายดีที่สุดในประเทศอินเดียไป ล่าสุดพวกเขาก็ออกมาประกาศผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 ของปี 2020 เผยรอบนี้มีรายได้ที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ ขายดีทุกตลาด ไล่ตั้งแต่สมาร์ทโฟน, ชิปเซ็ต และชิ้นส่วนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอ OLED หรือ Memory Chips

Samsung เผยว่า ในไตรมาส 3 ที่ผ่านมา ความต้องการของตลาดกับสินค้าจำพวกสมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ ทีวี รวมไปถึงอุปกรณ์อื่นๆ อาทิ หน้าจอ และชิปเซ็ตหน่วยประมวลผล ต่างมีตัวเลขที่เพิ่มขึ้นสูงอย่างมาก ซึ่งทำให้ยอดขายโดยรวมของ Samsung นั้นเพิ่มขึ้นมากถึง 8% จากปีที่แล้ว คิดเป็นตัวเลขก็ราวๆ 5.9 หมื่นล้านเหรียญเลยทีเดียว และได้กำไร (Profit) มากกว่าเดิมถึง 59% หรือราวๆ 1.09 หมื่นล้านเหรียญด้วยกัน โดยยอดกำไรสุทธิ (Net Profit) จะอยู่ที่ 8.2 พันล้านเหรียญ

ยอดขายสมาร์ทโฟนใน Q3 พุ่งสูง 51% เมื่อเทียบกับ Q2 ที่ผ่านมา

หากใครยังจำกันได้เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ยอดขายสมาร์ทโฟนของ Samsung ถือว่าลดหายลงไปอย่างมาก จนทำให้ถูกคู่แข่งอย่าง Huawei แซงขึ้นอันดับหนึ่งแบรนด์สมาร์ทโฟนที่ขายดีที่สุดในโลกไปอยู่พักใหญ่ๆ ก่อนสุดท้ายพวกเขาจะกลับมาวิ่งแซงได้ในช่วงหลัง

Samsung เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาสที่ 3 นั้น หลายๆ ประเทศยังคงอยู่ในช่วง Lockdown จากโรค COVID-19 อยู่ ทำให้สินค้าจำพวกสมาร์ทโฟน และอุปกรณ์ไอทีอื่นๆ ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ซึ่งสาเหตุที่ทำให้ผลประกอบการของ Samsung ในไตรมาสที่ผ่านมาทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์นั้น ก็มาจาก 4 ปัจจัยใหญ่ๆ ได้แก่

  • การจัดการงบประมาณที่ได้ผล
  • การจ่ายเงินไปกับการโฆษณาที่น้อยลง
  • กำไรจากธุรกิจในด้านหน้าจอ และหน่วยประมวลผล
  • ยอดขายจากสมาร์ทโฟนซีรีส์เรือธง Galaxy Note 20 และ Galaxy Z Fold 2

หากนับแต่ยอดขายสมาร์ทโฟนเพียวๆ ก็จะเห็นว่า Samsung ทำผลงานได้ดีกว่าช่วงเวลาเดียวกันเมื่อปีก่อนอยู่ที่ 6.1% คิดเป็นตัวเลขอยู่ที่ 2.63 หมื่นล้านเหรียญ ซึ่งถ้าไปเทียบกับช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ จะพบว่า Samsung นั้น มีการเติบโตที่ก้าวกระโดดมากๆ ถึง 51% เลยทีเดียว ทั้งนี้ก็มาจากการที่ตลาดมือถือทั่วโลกค่อยๆ กลับมาดำเนินการตามปกติแล้ว หลังจากก่อนหน้านี้หลายประเทศต้องประกาศสภาวะฉุกเฉิน ทำให้ห้าง รวมไปถึงร้านขายมือถือไม่สามารถเปิดให้บริการได้

โดยสมาร์ทโฟนระดับกลางๆ อย่างซีรีส์ Galaxy A และ M นั้น ถือว่ามียอดขายที่เพิ่มสูงขึ้นเยอะมากๆ ในประเทศอินเดีย เชื่อว่ามาจากการที่ Samsung เปลี่ยนกลยุทธ์การตลาดแบบใหม่ อัดสเปคมาแบบจัดเต็มกว่าเดิมในราคาที่จับต้องได้ยิ่งกว่า อีกทั้งปัญหากรณีพิพาทระหว่างจีนกับอินเดียด้วย ทำให้คนอินเดียเริ่มแบนสินค้าจีน หวยจึงต้องมาที่ Samsung แทน

ขณะที่ Galaxy Watch 3 และ Galaxy Buds Live เองก็มียอดขายที่ค่อนข้างเป็นที่น่าพอใจเช่นเดียวกัน ไปจนถึง Galaxy S20 FE ที่จะบอกว่าเป็นสมาร์ทโฟน “นักฆ่าเรือธง” สมัยใหม่ ก็ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า เพราะได้ทั้งสเปคเรือธงในราคาไม่แพงมาก

ตลาด Memory Chips และชิ้นส่วนฮาร์ดแวร์อื่นๆ ก็ฮอตไม่แพ้กัน

นอกจากนี้ Samsung ยังพบว่า ความต้องการของ Memory Chips และชิ้นส่วนฮาร์ดแวร์อื่นๆ ก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน เนื่องจากการทำงานอยู่บ้าน (Work from Home) นั้น เริ่มเป็นที่ยอมรับมากยิ่งขึ้น (บางบริษัทก็ออกนโยบายให้พนักงานทำงานอยู่บ้านแบบยาวๆ แม้ว่าจะผ่านช่วง Lockdown ไปแล้วก็ตาม) โดย GPU Nvidia 3000 Series ก็ใช้หน่วยประมวลผลที่ผลิตจากโรงงาน Samsung เช่นเดียวกัน อีกทั้ง Microsoft และ Sony ต่างก็ติดต่อใช้บริการ Samsung ให้ผลิตชิปบางอย่างใส่ไว้ใน Gaming Consoles ของพวกเขาอีกด้วย

ยิ่งตลาดสมาร์ทโฟนบูมมากยิ่งขึ้นเท่าไหร่ ยิ่งหมายความว่า Samsung นั้น จะขายชิ้นส่วนฮาร์ดแวร์อื่นๆ อย่าง RAM, หน่วยความจำ, เซ็นเซอร์กล้อง หรือจอ OLED ได้ดีกว่าเดิมด้วยเช่นกัน โดยที่ผ่านมา Samsung ได้ขายจอ OLED ให้กับ Apple สำหรับใช้ใน iPhone 12 ทั้ง 4 รุ่นไปเยอะมากๆ อีกทั้ง Huawei ก็เป็นลูกค้ารายใหญ่ของ Samsung ในด้าน Memory Chips อื่นๆ เหมือนกัน (ก่อนภายหลังจะโดนแบน ห้ามค้าขายกัน)

ยิ่งไปกว่านั้น ธุรกิจผลิตชิปเซ็ตของ Samsung ก็เติบโตขึ้นมากพอสมควร ยกตัวอย่างล่าสุด Qualcomm ก็หันมาซบอก Samsung ให้ผลิตชิปเซ็ต Snapdragon 875 (5nm) และซีรีส์อื่นๆ ให้

ความต้องการของ QLED TV และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในบ้านก็เพิ่มสูงขึ้นตาม

แถมสินค้าจำพวกอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในบ้านอย่าง QLED TV ก็มีแนวโน้มที่เติบโตสูงขึ้นด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ดี Samsung เผยว่า ในอนาคต ตลาดในด้านนี้ของพวกเขาอาจจะได้กำไรที่น้อยลงกว่าเดิม เนื่องจากแบรนด์คู่แข่งเริ่มทำสินค้าสเปคใกล้ๆ กันออกมาสู้ราคากันมากขึ้น

โดย Samsung แพลนที่จะเปิดตัวหน้าจอที่ใช้เทคโนโลยี Quantum-Dot ในปี 2021 ที่กำลังจะถึงนี้ ซึ่งนั่นอาจหมายถึงเราอาจจะได้เห็น TV ที่ใช้เทคสุดล้ำตัวนี้ อีกทั้งบางทีบริษัทอื่นๆ อาจมาติดต่อขอซื้อหน้าจอ Quantum-Dot ไปใช้บนสินค้าของตัวเองอีกด้วย นอกจากนี้ Samsung ยังวางแผนที่จะเปิดตัว QLED TV และ micro-LED TV ให้มากกว่าเดิมอีกด้วย

แต่ Q4 2020 อาจเหนื่อยหน่อย เพราะ iPhone 12

อย่างไรก็ดี ผลประกอบการของ Samsung ในไตรมาสข้างหน้า อาจจะเหนื่อยหน่อยนึง เนื่องจากการมาของ iPhone 12 Series ยักษ์ใหญ่จาก Apple ที่น่าจะเข้ามาดึงยอดขายสมาร์ทโฟนของพวกเขา อีกทั้ง Samsung ยังคาดการณ์อีกว่าในช่วงสิ้นปีนี้ พวกเขาน่าจะได้รับออเดอร์ Memory Chips น้อยลง แต่ทางบริษัทเองก็ยังมีความหวังว่าปีหน้า ทุกอย่างจะดีขึ้น ถึงกระนั้น ตอนนี้ก็ไม่มีอะไรแน่นอนเอาเสียเลย เนื่องจากไม่มีใครสามารถทราบอนาคตได้ล่วงหน้าว่า COVID-19 นั้นจะหายไป หรือกลับมาเมื่อไหร่นั่นเอง

นอกจากนี้ Samsung ยังคิดๆ เอาไว้ว่าจะขายขนมจีบให้แบรนด์อื่นๆ มาใช้ชิปเซ็ต Exynos 5G ของพวกเขากันมากขึ้นในปี 2021 และเมื่อไม่นานมานี้พวกเขาก็เพิ่งจะเซ็นสัญญาติดตั้งอุปกรณ์ 5G ให้กับผู้ให้บริการต่างๆ ในประเทศญี่ปุ่น และประเทศในแถบทวีปอเมริกาเหนือ อีกทั้งในตลาดเซ็นเซอร์กล้อง พวกเขาก็เตรียมที่จะเปิดตัวเซ็นเซอร์อีกเพียบ หวังท้าชน Sony

 

ที่มา: sammobile