ช่วงเดือนที่ผ่านมา Facebook มีข่าวท็อปฟอร์มอย่างต่อเนื่อง ทั้งการรั่วไหลของข้อมูลผู้ใช้ถึง 87 ล้านราย, แอบอ่านข้อความใน Messenger ของผู้ใช้, และความสามารถในการลบข้อความของเหล่าบรรดาผู้บริหารบริษัท ที่ผู้ใช้ก็จะสามารถลบข้อความตัวเองออกได้เร็วๆนี้ (ถ้าไม่มีข่าวนี้หลุดออกมา ผู้ใช้ทั่วไปก็คงไม่มีสิทธิได้ลบ) ส่งผลให้ Steve Wozniak ผู้ร่วมก่อตั้ง Apple เตรียมโบกมือลาเลิกใช้บริการ พร้อมกับเป็นห่วงที่ Facebook และบริษัทอื่นๆที่นำข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าตัวเองไปใช้อย่างไม่ใยดี
Woz เผยว่าเขายอมที่จะจ่ายเงินให้กับ Facebook แลกกับการที่ไม่ถูกล้วงข้อมูลส่วนตัวและไม่มีโฆษณามากวนใจซะยังจะดีกว่า ซึ่งเมื่อสัปดาห์ก่อน Sheryl Sandberg ซีโอโอของ Facebook ก็แถลงไว้ว่าถ้าหากผู้ใช้ต้องการที่จะเอาโฆษณาที่เลือกแสดงจากข้อมูลการใช้งานของเราก็จะต้องจ่ายเงินเพื่อใช้บริการ
Sheryl Sandberg
นอกจากนั้น Wozniak ยังเห็นด้วยกับคำวิพากษ์วิจารณ์ของ Tim Cook ซีอีโอ Apple ที่พูดไว้ว่าบริษัทของเขาจะไม่มีวันเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องอื้อฉาวแบบ Facebook โดยเด็ดขาดเพราะ Apple จะไม่นำลูกค้าของตัวเองไปเป็นสินค้าขายให้กับบริษัทอื่น (จริงๆ Apple ก็เคยทำ แต่ iAd Network ที่ลักษณะคล้ายๆ กันคือขายข้อมูลเพื่อการแสดงผลโฆษณาแต่สุดท้ายเจ๊งและต้องปิดตัวไปในปี 2016) Wozniak เสริมต่อว่า “Apple ทำเงินเฉพาะจากตัวสินค้าดีๆเท่านั้น ไม่ทำเงินจากตัวคุณ, แต่จากที่ทาง Facebook พูดไว้ คุณคือสินค้าของพวกเขา”
“ผู้ใช้ใส่ข้อมูลรายละเอียดแทบทุกอย่างเกี่ยวกับตัวเองลงไปใน Facebook โดยที่ Facebook สามารถทำเงินจำนวนมหาศาลได้จากการขายพื้นที่โฆษณา ซึ่งกำไรทั้งหมดนั้นได้มาจากข้อมูลของผู้ใช้ แต่ผู้ใช้กลับไม่ได้อะไรกลับมาเลย” -Steve Wozniak
ในสัปดาห์นี้ Mark Zuckerberg มีงานใหญ่ที่ต้องทำหลายอย่างทั้งการไปเป็นพยานระหว่างการพิจารณาคดีของวุฒิสภาเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวของข้อมูลในวันอังคาร ส่วนวันพุธจะต้องไปพูดต่อหน้าคณะกรรมการพาณิชย์และพลังงาน และในวันเดียวกันก็มีการคว่ำบาตร Facebook เป็นเวลา 24 ชั่วโมงเพื่อประท้วงเกี่ยวกับกรณีข้อมูลผู้ใช้ 87 ล้านรายรั่วไหล
ที่มา: USA Today via Phone Arena
ตอนนี้ที่ทำได้คือไม่อนุญาตให้ facebook กับ messenger ใช้ข้อมูลกล้อง/โทรศัพท์/storage
แต่ข้อมูลที่ผ่านมาคงโดนสูบไปหมดแล้ว
เชื่อสิ เฮียแกก็ใช้อยู่แหละ แกจะจ่ายตังค์ให้ face เท่าไหร่ก็ได้แกมีเงินอยู่แล้ว
ติทุกอย่างอ่ะฮะ
เฮียแกสายเกาะกระแสอยู่แล้ว
นั่นสิ
แหม่ๆๆ… .. . เฟซบุค เขาไม่ใช่องค์กรณ์การกุศล เขาต้องหากำไรสิครับ
ส่วนจะพูดเรื่องธรรมาภิบาล อย่างกับว่าแอปเปิ้ลไร้ความด่างพร้อยซะเมื่อไหร่
ตกลงคุณทำงานองค์กรการกุศลจริงเหรอครับ ทั้งที่จิตมีแต่อคติแบบนี้
อคติที่ว่า ถ้าตัวเองทำผิด อย่าหาเรื่องไปว่าคนอื่น ถ้าเช่นนั้นคุณเองก็ไม่มีสิทธิ์ไปว่าใคร เพราะชีวิตนี้เปผ้นไปไม่ได้ที่คุณจะไม่เคยทำอะไรผิด
ส่วน สตีฟ วอซเนียก แยกตัวจากแอปเปิ้ลมานานมากแล้ว ก่อนแอปเปิ้ลจะดังเสียอีก เรียกว่าเป็นแค่ผํ้ถือหุ้นรายใหญ่ ที่ไม่ได้มีอำนาจบริหสร สั่งการใดไม่ แค่นั้น จำใส่สมองที่มีแต่อคติไว้บ้างก็ดีครับ
โอ้ สาวกผลไม้ ถึงกับขุดประวัติ(ผิดๆ)มาเล่น
พร้อมเล่นโวหารเสียดสีมาเต็มทีเดียว
“Apple ทำเงินเฉพาะจากตัวสินค้าดีๆเท่านั้น… โดยการขายราคาแพงๆ เข้าไว้ นวัตกรรมไม่ต้องมีหรอก ที่มีอยู่ก็พอใช้แล้ว อัพสเป็กขึ้นราคาขายปีต่อปีก็พอ นานๆ ทีค่อยมีอะไรใหม่หน่อย เช่น จอแหว่ง แค่นี้สาวกก็กรี๊ดจะแย่ ปีต่อไปเอาจอแหว่งออก สาวกก็กรี๊ดซ้ำแล้วก็พร้อมเปย์แล้ว" นี่คือสิ่งที่ Wozniak กล่าว
ขอลิงค์ต้นทางด้วยครับ
@pureblackheart
ผมพูดเล่นๆ ครับ ของจริงใครมันจะไปกล่าวแบบนั้น
facebook เป็น บ. ที่ใหญ่แต่ข้างในกลวงมาก นวัตกรรมไม่ได้ว้าวอะไรเลย สังเกตได้จาก แอพที่ ไม่พัฒนาเลย กินแบต+ใหญ่ขึ้นๆ แอพอื่นก็ดันไม่ขึ้น ดีแต่เอาเงินฟาดซื้อมา(IG Whatsapp) และใช้จำนวนฐานข้อมูล FB มายัดเยียดให้ลองแอพ นู่น นี่
โฆษณาขายของก็รู้อยู่ว่า โอเคก็ต้องมีรายได้บ้าง
แต่ไอ้ไลฟ์ขายครีม ที่เด้งเตือนก่อน ไลฟ์เพื่อน
การ suggest เพื่อนแบบ แอบเอา email เราไปแสกน หรือ เอาเบอร์โทรศัพท์ในเครื่องไป suggest friends(ถ้ากดข้ามไม่อนุญาติก็จะกลับมาถามใหม่)
Messenger ที่พยายามจะมาแทน SMS บางครั้ง (user ใช้ไปก็ไม่รู้ว่าหลวมตัวมาอยู่จุดนี้ได้ไง)
Default setting ที่มักจะ share location ในโพส
ที่เลวที่สุดคือ การดึงเข้า กลุ่มบ้าบอ ขาวใส ขายของ โดยที่ไม่ต้องขออณุญาติกรูเลยยยย
พวกแกมันเลวมากจริง
ทุกวันนี้ บอกเลย ที่ใช้อยู่เพราะคนรอบตัวใช้ เราเองต้องไป monitor ว่า รูปเราภาพเรา ใครเอาโพสบ้าง แต่กรูไม่โพส ไม่แชร์ ไม่อนุญาติให้ใช้ข้อมูล ใช้เท่าที่จำเป็น