Sundar Pichai แม่ทัพคนสำคัญแห่งกูเกิล ประกาศปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ภายในองค์กรให้สอดรับกับยุคสมัยแห่ง AI ที่กำลังก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว หนึ่งในนั้นคือการรวมทีม Gemini ที่ (เคย) เป็นส่วนหนึ่งของแผนก Knowledge & Information เข้าไปอยู่ภายใต้สังกัด Google DeepMind ที่เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์แทน
สัปดาห์นี้ Alphabet ได้ประกาศเตรียมจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้น และซื้อหุ้นคืน 70,000 ล้านดอลลาร์ ควบคู่ไปกับการแถลงผลประกอบการประจำไตรมาส 1 ปี 2024 โดยที่ตัวเลขทั้งรายรับและกำไรออกมาดูดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ – หุ้นของ Alphabet ดีดตัวขึ้นทันที +16% ในช่วงระหว่างวัน และไปจบที่ประมาณ +10% ตอนปิดตลาด ส่งผลให้มูลค่าตลาดของ Alphabet ทะลุ 2,000,000 ดอลาร์เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมา 25 ปี
Alphabet บริษัทแม่ Google ออกรายงานผลประกอบการประจำไตรมาส 1 ปี 2024 สิ้นสุด ณ วันที่ 31 มีนาคม 2024 มีรายรับรวม 80,539 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 15% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว (YoY) ในขณะที่กำไรสุทธิเองก็เพิ่มขึ้นจาก 15,051 ล้านดอลลาร์ เป็น 23,662 ล้านดอลลาร์ โดยรายได้หลักมาจากธุรกิจ Google Search, YouTube และ Google Cloud เป็นสำคัญ ส่วน Gemini ที่อยู่ในภาคธุรกิจ AI ก็ดำเนินไปได้ด้วยดีเช่นกัน
คณะกรรมาธิการการค้าที่เป็นธรรมของญี่ปุ่น (JFTC) ออกแถลงการณ์เมื่อวันจันทร์ เกี่ยวกับผลการสอบสวน Google ในกรณีกีดกันไม่ให้ Yahoo Japan เข้าถึงเครื่องมือหรือเทคโนโลยีที่ที่จำเป็นในการรับรายได้จากโฆษณาแบบกำหนดเป้าหมาย (targeted advertising) บนมือถือและแท็บเล็ตเมื่อหลายปีก่อน ผลคือ Google ถูกตัดสินว่ามีพฤติกรรมเข้าข่ายผูกขาดทางการค้า และแทรกแซงธุรกิจของคู่แข่ง แต่ Google รอดตัว ไม่โดนปรับเงิน
เมื่อวานนี้ ได้เกิดเหตุวุ่นวายขึ้นที่สำนักงานทั้งสองแห่งของ Google ในนิวยอร์ก และซันนีเวล รัฐแคลิฟอร์เนีย จากการที่พนักงานจำนวน 9 ราย ไม่เห็นด้วยกับแนวทางของบริษัท ที่ไปเซ็นสัญญา Project Nimbus ร่วมกับ Amazon และรัฐบาลอิสราเอล โดยพนักงานกลุ่มนี้ได้บุกเข้ายึดห้องซีอีโอเป็นเวลานานหลายชั่วโมง เพื่อกดดันให้ Google ฉีกสัญญาทิ้ง ก่อนที่ทั้งหมดจะถูกตำรวจรวบตัวในท้ายที่สุด
วันนี้ คณะกรรมาธิการยุโรป (European Commission: EC) ออกแถลงการณ์เดินหน้าสอบสวนบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่หลายรายที่ต้องสงสัยว่ามีพฤติกรรมละเมิดกฎ Digital Markets Act (DMA) อย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกแล้ว หลังกฎพึ่งมีผลบังคับใช้ไปเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2024 ที่ผ่านมา บริษัทที่อยู่ในข่ายโดนตรวจสอบชุดแรกมีทั้ง Apple, Meta (บริษัทแม่ Facebook), Alphabet (บริษัทแม่ Google) และ Amazon
NVIDIA กลายเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงในชั่วพริบตา จากการเป็นผู้นำในด้านชิป AI เพราะล่าสุดได้ปาดทั้ง Alphabet (บริษัทแม่ของ Google) และ Amazon ขึ้นแท่นอันดับ 4 ในบรรดาบริษัทที่มูลค่าสูงที่สุดในโลก โดยคิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 1.83 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ
AI เรียกได้ว่าเป็นปรากฏการณ์ของวงการ Tech โลก 1 - 2 ปีที่ผ่านมา ทำเอานักลงทุนหลากหลายรายต่างกระโดดเข้ามาร่วมลงทุนกันอย่างไม่ขาดสาย แต่ล่าสุดดูเหมือนว่าตลาด AI อาจไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด หลัง Alphabet (บริษัทแม่ Google), Microsoft และ AMD ทำรายได้ Q4 2023 ไม่เป็นไปตามที่นักลงทุนคาดหวังไว้ ทำมูลค่าตลาดบริษัท AI ทั้งหมดร่วงถึง 1.9 แสนล้านเหรียญฯ
หรือว่าปี 2023 นี้จะถึงคราวทรุดของบริษัท Big Tech ยักษ์ใหญ่ระดับโลกแบบจริง ๆ เพราะยังไม่ทันจะพ้นเดือนแรกของปี ก็มีข่าวเลย์ออฟพนักงานกันยกใหญ่รวมหลายหมื่นตำแหน่ง จากทั้งบริษัทอย่าง Amazon, Microsoft, Alphabet (บริษัทแม่ Google) และ Twitter ที่มีแผนจะปลดพนักงานออกอีกระลอกด้วย เหตุผลหลัก ๆ เป็นเพราะภาวะเงินเฟ้อ และรายได้จากโฆษณาที่ลดลง
Alphabet บริษัทแม่ของ Google เปิดเผยรายงานผลประกอบการประจำไตรมาส 3 ปี 2565 ซึ่งจะอยู่ในช่วงระหว่างเดือนกรกฎาคมถึงกันยายน — โดยมีรายรับรวมอยู่ที่ 69,092 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า แต่ในทางตรงกันข้าม รายได้จากการดำเนินงานและกำไรสุทธิต่างลดลง เหลือ 17,135 และ 13,910 ล้านดอลลาร์ ตามลำดับ
