Apple เปิดตัวบริการทางการเงินใหม่ล่าสุด Apple Pay Later ซื้อสินค้าก่อน จ่ายทีหลัง สามารถแบ่งจ่ายแบบ 0% ได้สูงสุด 4 งวดไม่มีค่าธรรมเนียม และในตอนนี้ทาง Apple ก็ได้สุ่มร่อนบัตรเชิญ เปิดให้ผู้ใช้งานกลุ่มเล็ก ๆ ในสหรัฐอเมริกาได้ทดลองใช้กันแล้ว
Apple ประกาศเพิ่มบริการบัญชีออมทรัพย์ผลตอบแทนสูงให้กับผู้ใช้งาน Apple Card โดยความร่วมมือจากธนาคาร Goldman Sachs ที่เป็นพาร์ตเนอร์ — เงินคืนที่ลูกค้าได้รับจาก Daily Cash ทุกการจับจ่ายใช้สอย จะถูกโอนเข้าบัญชีเงินฝากโดยอัตโนมัติ ลูกค้ายังสามารถฝากเงินเพิ่มเติมได้เพื่อรับดอกเบี้ยที่มากขึ้น โดยการโอนเงินจากธนาคารตามที่ผูกไว้ในบัญชี หรือดึงยอดเงินคงเหลือจาก Apple Cash ข้ามมาก็ได้เช่นกัน
Apple เปิดตัวฟีเจอร์ Tap to Pay ให้ร้านค้าสามารถใช้ iPhone เป็นอุปกรณ์รับชำระเงินแบบไร้สัมผัสได้ ซึ่งจะรองรับทั้งการจ่ายเงินผ่าน Apple Pay โดยการนำ iPhone หรือ Apple Watch มาแตะ รวมถึงบัตรเครดิต บัตรเดบิต และแพลตฟอร์มกระเป๋าเงินดิจิทัลอื่น ๆ ด้วย
สำหรับระบบการจ่ายเงินด้วยมือถือ ทางฝั่ง Samsung ก็ได้มี Samsung Pay ให้ใช้มาก่อนกันซักพักแล้ว และคาดว่าอีกไม่นานนี้สาวก Apple จะได้เฮกันบ้างแล้ว เพราะบริการจ่ายเงินผ่าน iPhone อย่าง Apple Pay อาจมาให้แฟน ๆ ชาวไทยได้ใช้บ้าง เนื่องจากมีการอัปเดตข้อมูลเรื่องการใช้งาน Apple Pay ปรากฎขึ้นบนเว็บไซต์ Official ของ Apple ในภาษาไทยแล้ว ทำให้มีการคาดการณ์กันว่าบริการดังกล่าวจะเปิดให้ใช้ในประเทศไทยในเร็ว ๆ นี้
นอกจากตลาดฝั่งตลอดด้านฮาร์ดแวร์ที่ทางฝั่ง Android กับแอปเปิลต่อสู้กันอย่างดุเดือดแล้ว ยังมีอีกฝั่งหนึ่งก็คือด้านซอฟท์แวร์และ Service บริการต่างๆ อีกด้วยที่ดุเดือดไม่แพ้กัน เมื่อเดือนที่แล้วเราทราบข่าวว่า Android Pay ที่เป็นบริการจ่ายเงินผ่านมือถือของ Android นั้นเปิดบริการที่สหรัฐอเมริกาแล้ว ซึ่งถ้าเทียบกับฝั่งของแอปเปิลแล้วถือว่าเริ่มต้นได้ช้ากว่าพอสมควร แต่ล่าสุดดูเหมือนว่าตลาดบริการจะไม่จบอยู่แค่ในสหรัฐฯ แล้ว เพราะมีข้อมูลเพิ่มเติมว่าแอปเปิลก็กำลังเจรจาเตรียมเปิดบริการ Apple Pay ที่ประเทศจีน
ในงาน Google I/O ที่ผ่านมากูเกิลก็ได้เปิดตัวระบบการจ่ายเงินด้วยมือถือของ Android ในชื่อ Android Pay ถ้าหากเทียบกับคู่แข่งอย่างแอปเปิล ที่มี Apple Pay แล้วก็อาจจะบอกได้ว่า Android นั้นเริ่มต้นการใช้ระบบจ่ายเงินด้วยมือถือช้ากว่า แต่มีสิ่งหนึ่งที่ Android Pay ดูจะได้เปรียบกว่าคือกูเกิลจะไม่เก็บค่าธรรมเนียมใดๆ จากการใช้งาน Android Pay เลย
หนึ่งในฟีเจอร์ที่ว้าวที่สุดในงานเปิดตัว iPhone 6 ที่ผ่านมา นั่นก็คือระบบจ่ายเงิน Mobile Payment ที่เรียกว่า Apple Pay นั่นเอง ซึ่งระบบนี้ก็เป็นการนำเอาบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตของเราไปผูกเข้ากับตัวระบบ Apple Pay จากนั้นก็นำไปใช้กับเครื่องจ่ายเงินที่รองรับการใช้งาน NFC และ Apple Pay นั่นเอง และตอนนี้ในประเทศอเมริกาก็เริ่มใช้งานกันแล้ว ถึงแม้ว่าจะมี ปัญหา นิดหน่อยก็เถอะสำหรับในประเทศไทยนั้น ถึงแม้ตอนนี้ยังไม่มีการประกาศแบบเป็นทางการจาก Apple ว่า Apple Pay จะใช้ได้เมื่อไหร่ แต่ทาง siampod ก็ได้นำเอา iPhone 6 ไปทดลองจ่ายเงินกับเครื่องที่รองรับการจ่ายเงินแบบ Tap&Go อย่าง Visa PayWave และ Mastercard PayPass ผลปรากฏว่าสามารถใช้งานได้
กระแสที่มาแรงไม่แพ้ iPhone 6 อีกอย่างนึงนั่นก็คือ Apple Pay บริการ Mobile Payment ที่ใช้ NFC "แตะแล้วตื้ด" เป็นตัวช่วยในกาจ่ายเงินซื้อสินค้าและบริการต่างๆ นั่นเอง ซึ่งการขยับตัวของ Apple บอกเลยว่าเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่สะเทือนวงการได้เหมือนกัน จนหลายๆ คนมองว่า Apple Pay นั้นต้องเกิดแน่นอนส่วนตัวผมเองก็อยากให้ระบบ Mobile Payment มันเกิดมาตั้งนานแล้วครับ ตั้งแต่สมัยปี 2011 ที่ Google Wallet เปิดตัวและใช้ Galaxy Nexus เป็นตัวชูโรงนั่นแหละ แต่ผ่านมาจนถึงปี 2014 แล้วมันก็ยังไม่เกิด ซึ่งหลายๆ คนมองว่าปัญหามันอยู่ที่ระบบของ Android หรือเปล่า ดูไม่ปลอดภัย ไม่สเถียร คนเลยไม่กล้าใช้ หรือไม่ก็บอกว่าพันธมิตรไม่แข็งแกร่งพอ ไม่มีธนาคารหรือบัตรยี่ห้อดังๆ เข้ามาร่วม อะไรแบบนี้แต่เหตุการณ์จริงๆ มันไม่ใช่แบบนั้นเลยสักนิดครับ หนึ่งในสาเหตุที่...
