KBTG บริษัทผู้อยู่เบื้องหลังการพัฒนาแอป K PLUS ได้ออกมาเปิดเผยถึงมูลค่าประเมินของแอป mobile-banking อันดับหนึ่งของไทย ว่าปัจจุบันมีมูลค่าที่สูงถึง 3 พันล้านเหรียญสหรัฐไปเรียบร้อย ด้วยจำนวนผู้ใช้ที่มีจำนวนมากถึง 13 ล้านรายและคาดว่าจะสูงถึง 15 ล้านรายในสิ้นปีนี้ รวมถึงเตรียมเปิดนวัตกรรมการเงินที่จะปล่อยออกมาอีกไม่น้อยกว่า 4 ตัว ตลอดปี 2020 นี้
“พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล” ของไทยถูกประกาศใช้งานไปเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งเนื้อหาภาคบังคับอย่าง การขอความยินยอม (Consent) และการจัดการสิทธิ์ (Data Subject Rights) กำลังจะมีผลบังคับใช้จริงสิ้นเดือน พ.ค. นี้ ทำให้เหล่าธนาคารที่หาประโยชน์จากด้านนี้เป็นพิเศษ ต้องปรับนโยบายกันเป็นการด่วน ซึ่งเราจะพาไปสำรวจ Mobile Banking ทั้งหลายว่าเจ้าไหนพร้อมสุด ซึ่งน่าสนใจว่าส่วนมากส่อแววสอบตกหลังพบนโยบายบังคับยินยอมเพียบ
ใครที่เคยมีประสบการณ์โอนเงินต่างประเทศน่าจะพอรับรู้ถึงความเจ็บปวดจากค่าธรรมเนียม แถมเงินที่ปลายทางได้รับก็ไม่เต็มจำนวน หลายที่ก็ต้องรอนานกว่าเงินจะเข้าบัญชีอีก เมื่อกลางปีที่แล้วทางธนาคารกสิกร ได้เปิดให้บริการโอนเงินข้ามประเทศแบบได้เงินรวดเร็ว ค่าธรรมเนียมต่ำ และเงินที่ปลายทางได้รับก็เต็มจำนวนออกมาผ่าน K PLUS ซึ่ง ณ ตอนนั้นจะรองรับที่ 6 สกุลเงิน และเตรียมจะขยายเพิ่มเป็น 14 สกุลเงินในปี 2563 นี้
ก่อนหน้านี้ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้ออกมาเตือนรอบนึงว่าพวกเขาอาจจะออกมาตรการคุ้มเข้ม ห้ามมือถือที่ใช้ระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่นเก่า เข้าใช้งานแอป Mobile Banking ต่างๆ โดยล่าสุดตอนนี้ ธนาคารกสิกรไทย ก็ออกมาประกาศแล้วว่าให้ลูกค้ารีบอัพเดทเวอร์ชั่นมือถือ หรือซื้อใหม่ เพราะจะหยุดการให้บริการแอป K PLUS กับมือถือที่มีระบบปฏิบัติการต่ำกว่า Android 6.0 รวมไปถึง iOS 10 ด้วย
แอป Mobile Banking ของหลายๆ ธนาคารถือเป็นแอปพื้นฐานที่ต้องมีติดเครื่องกันแทบทุกคน โดยจะคอยช่วยอำนวยความสะดวกกับชีวิตประจำเรามากทั้งการจ่ายบิล โอนเงิน กดเงิน ATM หรือเช็คยอดเงิน ก็สามารถทำได้หมดจบบนแอปที่เดียว เพื่อเพิ่มความปลอดภัยธนาคารแห่งประเทศไทยเลยประกาศให้ทุกธนาคารมีมาตรฐานเดียวกันคือห้ามไม่ให้มือถือรุ่นเก่าๆ ที่ระบบไม่มีความปลอดภัย รวมถึงเครื่องที่ถูก root หรือ jailbreak มานั้นเข้าใช้บริการแอป Mobile Banking ได้
หลังจากการเปิดตัวของ Mate 30 series ซึ่งปราศจาก Google Mobile Services ทำให้เครื่องจะไม่มีหลายแอปจาก Google รวมถึง Play Store ด้วย ทำให้ผู้ใช้ต้องไปพึ่งพาแอปจาก AppGallery ซึ่งเป็นของ HMS แทน ซึ่งปัญหาคือวันนี้อาจจะยังไม่มีหลายแอปยอดนิยมที่ต้องการนัก โดยทาง Huawei ก็ได้คุยกับพาร์ทเนอร์หลายรายเพื่อนำแอปมาลงแล้ว ล่าสุดก็มีข่าวดีว่าแอปธนาคารยอดนิยมอย่าง K PLUS ได้พร้อมเปิดให้ดาวน์โหลดใน AppGallery แล้ว
ปล่อยตัวเต็มของ Android 10 กันไปเมื่อคืนที่ผ่านมา หลายคนที่ใช้สมาร์ทโฟน Pixel และยี่ห้ออื่นๆที่เข้าร่วมโครงการก็ได้รับอัพเดทกันไปอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ดีการใช้แอนดรอยด์เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดอาจจะไม่ได้มีแต่ผลดีสักเท่าไหร่นัก เมื่อแอปยอดนิยมอย่างธนาคารกลับไม่ได้ปรับตัวแอปให้รองรับตาม และทำให้มีปัญหาไม่สามารถใช้งานได้กันไปเลย
เป็นฟีเจอร์ที่หลายคนอาจจะรู้กันบ้างแล้ว แต่ก็น่าจะมีอีกหลายคนไม่รู้ (อย่างน้อยก็ผมคนนึงล่ะ) ว่า K PLUS ได้ใส่ฟีเจอร์ App Shortcut เอาไว้ให้ด้วย สามารถเข้าทำธุรกรรม ถอน โอน รับ จ่าย ได้แบบง่ายๆตั้งแต่หน้า Home หรือ All apps กันไปเลย เพียงแค่แตะไอคอน K PLUS ค้างเอาไว้แป๊บนึงก็จะมีเมนูขึ้นมาให้แล้ว สามารถใช้ได้กับ Android 8.0 Oreo ขึ้นไป หรือเครื่องที่ซื้อมาภายใน 2 ปีน่าจะใช้กันได้หมดนะ
ปัจจุบันจะให้เดินทางไปธนาคารเพื่อทำธุรกรรมทางการเงินหรือไปเปิดบัญชี ก็ดูจะเป็นเรื่องลำบากนิดนึงในยุคนี้ ไม่ว่าจะเป็นรถติด, ไม่มีที่จอด, คิวยาว ฯลฯ แต่ต่อไปนี้เราจะสามารถทำธุรกรรมการเงินได้โดยไม่ต้องไปธนาคารแล้ว ขอแค่มีมือถือเครื่องเดียวเราก็สามารถทำได้ทุกอย่าง ซึ่งล่าสุดธนาคารกสิกรไทยก็กำลังจะเปิดตัวบริการ K-eSavings ให้เราสามารถเปิดบัญชีเงินฝากได้เองผ่านทางมือถืออีกเช่นกัน
เราได้เห็นโครงการเพื่อสตาร์ทอัพเกิดขึ้นมามากมายตลอดช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา มีทั้งโครงการที่ยังดำเนินการต่อได้อย่างดีเยี่ยม ที่ปิดไปก็ไม่น้อย แต่ไม่บ่อยนักที่เราจะเห็นโครงการเกิดใหม่กันในช่วงนี้ โดยกสิกรก็น่าจะเป็นหนึ่งในเจ้าที่สร้างโครงการเกี่ยวสตาร์ทอัพใหม่ขึ้นมาในชื่อ KATALYST เพื่อนสนิทของชาวสตาร์ทอัพ ที่มีทุกสิ่งพร้อมสนับสนุน เพียงแค่มีทีมและผลิตภัณฑ์ที่ดีก็หิ้วเข้าไปพูดคุยได้เลย
