ดูเหมือนว่าที่ Xiaomi เคยประกาศเอาไว้เมื่อต้นปีที่ผ่านมาว่าในปี 2015 จะทำยอดขายสมาร์ทโฟนให้ได้ 100 ล้านเครื่อง จะไม่ใช่เรื่องที่เกินฝัน หรือเพ้อเจ้ออีกต่อไป เมื่อมีการเปิดเผยตัวเลขของยอดการจัดส่งมือถือในไตรมาสที่ 3 และ Xiaomi ได้ไต่อันดับขึ้นมารั้งอันดับ 3 ทำ มากขึ้นจากปี 2013 ในไตรมาสเดียวกันราว 200% ทำให้ปัจจุบันเเป็นรองเพียง Samsung และ Apple ไปเรียบร้อย
ขณะที่ซัมซุงประสบปัญหายอดขายโทรศัพท์มือถือเริ่มไม่โต แต่บริษัทร่วมชาติอย่าง LG กลับมีสถานการณ์ตรงข้าม โดยไตรมาสที่ผ่านมาสามารถขายสมาร์ทโฟน ทำสถิติใหม่ของบริษัทได้ถึง 16.8 ล้านเครื่องครับ โดย LG Mobile ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ LG Electronics รายงานตัวเลขผลการดำเนินงานของไตรมาสที่ 3 ในปี 2014 มียอดขายเพิ่มขึ้นถึง 39% เมื่อเทียบกับปีก่อน และ 16% เมื่อเทียบกับไตรมาสสอง คิดเป็น 4.25 ล้านล้านวอน หรือ 4.14 พันล้านดอลลาร์ และมีกำไร 167,400 ล้านวอน ซึ่ง LG บอกว่าเป็นกำไรสูงที่สุดในรอบ 5 ปี
หลังจากปล่อยให้ค่ายอื่นๆ ออกมาเรียกกระแสประกาศวันออกอัพเดต Lollipop กันไป ตอนนี้ก็ถึงคิวของค่าย LG กันแล้วเมื่อทาง TechTastic เผยว่าตัวแทน LG เนเธอร์แลนด์และเบลเยี่ยมเผยข้อมูลว่าทางค่ายเตรียมจะออกอัพเดตแอนดรอยด์เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด Android 5.0 Lollipop ให้กับรุ่นเรือธงอย่าง LG G3 ให้ทันในช่วงสิ้นปีนี้
สำหรับใครที่กำลังมองหา Android Wear หน้าปัดกลมอยู่ละก็ ตอนนี้คงมีทางเลือกมากกว่า Moto 360 แล้วครับ เมื่อ LG ประกาศว่าพร้อมเริ่มวางจำหน่าย LG G Watch R ในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้แล้ว โดยจะเริ่มในฝั่งของทางยุโรปก่อน จากนั้นก็จะเริ่มกระจายไปยังตลาดสำคัญๆ เช่นอเมริกาเหนือ และเอเชีย
ในปีนี้ LG ได้ทำการเปิดตัวตัวนาฬิกาอัจฉริยะไปสองตัวแล้ว ตัวแรก G Watch ที่ดูเหมือนว่าทำออกมาทดลองตลาด ส่วนตัวที่สอง G Watch R ที่มาในรูปแบบหน้าปัดทรงกลมและแก้ไขข้อผิดพลาดหลายๆ อย่างจากตัวแรก แต่ตัวที่สองยังไม่ทันจะวางขาย ข่าวลือนาฬิกาอัจฉริยะตัวที่สามจาก LG ก็หลุดมาแล้ว โดยจากข้อมูลที่หลุดทำให้เชื่อได้ว่า LG กำลังทำนาฬิกาอัจฉริยะที่สามารถทำงานได้ด้วยตัวมันเองโดยไม่ต้องพึ่งพาสมาร์ทโฟน
LG เปิดสมาร์ทโฟน 2 ซิมรุ่นใหม่ที่มีหน้าตาเหมือนกับรุ่นเรือธง G3 โดยตัวแรกเป็น G3 Stylus สมาร์ทโฟนหน้าจอใหญ่ขนาด 5.5 นิ้ว ที่มาพร้อมกับปากกา Stylus และกล้องหลังความละเอียดสูงถึง 13 MP และยกฟีเจอร์อย่าง Gesture Shot ที่สามารถสั่งถ่ายภาพด้วยเสียงหรือด้วยการกำมือเหมือนในรุ่นพี่อย่าง G3 เปิดตัวขายในราคา 8,990 บาท ส่วนตัวที่สองเป็น L Bello Dual ขนาดจะเล็กลงมาหน่อยมีหน้าจอขนาด 5 นิ้ว กล้องก็มีความละเอียดลดลงเหลือ 8 MP และไม่มีปากกา Stylus เหมือนรุ่นด้านบน แต่ฟีเจอร์ที่เหลือเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็น Gesture Shot, Knock Code, Smart Keyboard หรือ Quick Memo+ เปิดตัวขายในราคาเพียง 6,880 บาทเท่านั้น
หลังจากที่ LG ได้ลองผิดลองถูกกับ Android Wear มาแล้วรุ่นนึงอย่าง G Watch ซึ่งก็ได้กระแสตอบรับกลับมาที่ไม่ค่อยดีเท่าไร ซึ่งทาง LG ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ นำเสียงตอบรับนั้นกลับไปพัฒนาจนกลายออกมาเป็น Android Wear ตัวที่สองของค่ายในชื่อว่า G Watch Rโดย G Watch R เนื้อแท้ด้านในแทบจะยกฮาร์ดแวร์จากตัวเก่ามาใส่ไว้ในตัวใหม่ เพียงแต่ปรับปรุงในจุดด้อยและเพิ่มเติมในสิ่งที่ยังขาดหายไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของหน้าจอที่รุ่นแรกถือว่าสอบตกเมื่อนำเอาไปใช้ในกลางแจ้ง เรื่องรูปลักษณ์ที่ดูไม่ทันสมัย และที่สำคัญที่สุด G Watch รุ่นแรกยังขาดเซ็นเซอร์ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ ซึ่งถือเป็นข้อบกพร่องที่ร้ายแรงมากสุด เพราะกระแสของผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพที่กำลังมาแรงในช่วงนี้
