ย้อนกลับไปเมื่อช่วงต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา มีข่าวที่การจับกุมคนแอบอ้างนำชื่อและภาพของท่านนายยกไปใช้ลงทะเบียนเปิดซิมเติมเงินและนำไปขายต่อให้นักท่องเที่ยว ซึ่งทำให้หลายๆ คนตั้งข้อสังเกตุในเรื่องระบบการละทะเบียนซิมของกสทช.นั้นดูจะมีปัญหาและช่องโหวอยู่ ล่าสุดทางกสทช.ได้มีการประชุมบอร์ดบริหารและมีมติจำกัดจำนวนการลงทะเบียนซิมเอาไว้ โดยให้หนึ่งบัตรประชาชนสามารถเปิดเบอร์ได้แค่ 5 หมายเลขต่อหนึ่งค่ายมือถือเท่านั้น และยังได้บอกอีกว่ามติครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับเรื่องที่มีคนแอบอ้างชื่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีไปลงทะเบียนซิมเลย
กสทช. เตรียมใช้มาตรการยืนยันตัวบุคคลผู้ใช้งานโทรศัพท์มือถือด้วยการสแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint) โดยล่าสุดอยู่ในขั้นตอนการเตรียมประกาศให้ผู้ที่ต้องการเปิดใช้งานซิมการ์ดใหม่ตั้งแต่เดือน พ.ค. 60 เป็นต้นไป ต้องทำการสแกนลายนิ้วมือก่อนเปิดซิมการ์ดทุกคน
หลังจากบังคับให้ผู้ที่เปิดซิมการ์ดใหม่ต้องลงทะเบียนยืนยันตัวตน ผ่านระบบลงทะเบียนของแต่ละเครือข่ายด้วยบัตรประชาชนมาได้หลายปี ล่าสุดทาง กสทช. ก็ได้ออกมาเผยว่า เตรียมที่จะนำระบบสแกนลายนิ้วมือมาใช้ในการยืนยันตัวตนสำหรับการเปิดใช้งานซิมการ์ดใหม่ของผู้ใช้งาน ซึ่งเตรียมจะเริ่มใช้งานภายในปี 2560
กำลังเป็นประเด็นที่โจษจันและถกเถียงกันมาก เกี่ยวกับเครื่องให้บริการอัตโนมัติของ AIS ซึ่งแน่ละว่าเหตุผลในการทำเครื่องนี้ขึ้นมาก็เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับคนที่ต้องการเปิดใช้บริการกับเครือข่าย ลงทะเบียนซิมผู้ใช้งานระบบเติมเงิน เรียกว่ามันทำอะไรได้หลายอย่าง โดยนอกจากจะสะดวกใช้งานง่ายแล้ว ยังไม่เสียค่าบริการเลยซักบาท แต่มีบริการนึงของตู้นี้ที่น่าเป็นห่วง นั่นก็คือบริการขอซิมใหม่ที่ใช้หลักฐานแค่บัตรประชาชนกับเบอร์โทรศัพท์เท่านั้น ด้วยความง่ายในการขอซิมใหม่ของมันนี่แหละ อาจถูกมิจฉาชีพนำไปออกซิมใหม่ได้ ซึ่งอาจะเกี่ยวพันกับธุรกรรมทางการเงินหรือบัตรเครดิตต่างๆ ที่มีการผูกการยืนยันผ่านรหัส OTP ได้นั่นเอง
เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า