เรียกว่ามากันครบทั้ง 4 แบงค์ใหญ่ PLANET SCB, Krungthai Travel Card, TMB All Free, และ Journey จาก KBANK ที่ต่างปล่อยบัตรเดบิตลงตลาดมาช่วงชิงเค้กการใช้จ่ายเงินในต่างประเทศกันอย่างดุเดือด แต่ละบัตรก็จะมีจุดดีจุดเด่นที่ต่างกันออกไป จนดูในรายละเอียดแล้วไม่มีความเหมือนกันเลยก็ว่าได้ มีความยิบย่อยค่อนข้างสูง วันนี้เราเลยจะเอามาเปรียบเทียบให้ทราบกันครับ (*Updated 7 Nov : เพิ่มบัตร YouTrip)
ที่มาบัตรเดบิตเพื่อการท่องเที่ยว
ข้อมูลจากศูนย์วิจัยกสิกรฯ บอกว่าคนไทยมีการเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศที่ราว 11 ล้านคนต่อปี ใช้จ่ายกันที่ราว 390,000 ล้านบาท ซึ่งก่อนหน้านี้นักท่องเที่ยวจำนวนมากได้ใช้บริการแลกเงินจากร้านรับแลกเงินต่างๆ ซึ่งจะมีเรตที่ประหยัดกว่าธนาคารพาณิชย์กันมาโดยตลอด ทางธนาคารก็ทราบดีถึงช่องว่างเรื่องนี้ จนธนาคารกรุงไทยก็ได้ออกบัตร Travel Card มาเป็นรายแรก ตั้งแต่ เมษายน 2561 ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง จากการที่สามารถล็อคเรตค่าเงินตามวันที่แลกได้ เรตดีชนร้านแลกทั่วไป และไม่ต้องจ่ายค่าความเสี่ยง 2.5% อีกด้วย ซึ่งความสำเร็จนี้ก็ทำให้มีธนาคารพาณิชย์อื่นเริ่มตามมา โดยเจ้าแรกก็คือธนาคารทหารไทยเมื่อ พฤศจิกายน 2561 ที่ปรับคอนเซปต์จากกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ เป็นสามารถรูดได้เลยโดยไม่ต้องแลกก่อน จนมาปีนี้เราก็ได้เห็น SCB ตามมาด้วย KBANK ที่ลงมาร่วมแจมในตลาดนี้
สรุปจุดเด่นของบัตรท่องเที่ยวที่ทุกใบมีคล้ายๆกัน
- ใช้จ่ายได้ในต่างประเทศโดยไม่ต้องมีค่าความเสี่ยง 2.5%*
- ได้เรตดีชนร้านรับแลกเงินยอดนิยม
- ไม่ต้องพกเงินสดจำนวนมากเวลาเดินทาง
- อยากใช้เงินสดก็เบิกจากตู้ ATM ประเทศต่างๆได้เลย
- เปิดปิดบัตรเฉพาะเวลาต้องการใช้งาน เพื่อความปลอดภัย
- มีประกันการเดินทางให้ฟรี
*ปกติเวลาเรารูดบัตรเครดิตหรือเดบิตในต่างประเทศ เราจะโดนชาร์จเพิ่ม 2.5% เสมอ เช่น ซื้อสินค้า $100 ก็จะโดนเก็บ $102.5 สาเหตุจากค่าเงินที่มีความผันผวนตลอดเวลา ธนาคารเลยขอเรียกเก็บส่วนนี้ แต่บัตรท่องเที่ยวจะยกเว้นค่าความเสี่ยงนี้ออกไปให้นั่นเอง
Timeline การออกบัตรเดบิตเพื่อการท่องเที่ยว
ในที่นี้จะหาเอาทั้งบัตรเครดิตและเดบิตซึ่งไม่คิดค่าความเสี่ยงของอัตราแลกเปลี่ยน 2.5% มารวมให้ทั้งหมดนะครับ
- Krungthai Travel Card @ April 2018
- TMB All Free @ Nov 2018
- Citibank Global Wallet @ Dec 2018
- TMB Absolute @ Jul 2019
- PLANET SCB @ Aug 2019
- KBANK Journey @ Oct 2019
- YouTrip Powered by KBANK @Nov 2019
โดยตารางด้านล่างนี้ ทางผมจะขอดึงเอามาเปรียบเทียบเพียงแค่ 5 ใบที่เป็นบัตรท่องเที่ยวจากธนาคารพาณิชย์รายใหญ่ของไทยกัน และเราสามารถแบ่งกลุ่มของบัตรออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่
บัตรเติมเงิน : ต้องเติมเงินเข้าไปก่อนใช้งาน
- Krungthai Travel Card
- PLANET SCB
- YouTrip powered by KBANK
บัตรเดบิต : ตัดเงินออกจากบัญชีเราโดยตรง
- KBANK Journey
- TMB All Free
ส่วนแต่ละบัตรมีรายละเอียดอย่างไร มีจุดเด่นที่ต่างกันอย่างไรบ้าง มาดูกันได้เลยครับ
PLANET SCB | Krungthai Travel Card | YouTrip powered by KBANK | TMB All free | Kbank Journey | |
การสมัคร | |||||
ค่าสมัคร | 200 บาท ฟรี ถึง 31 ธ.ค.2562 | 200 บาท ฟรี ถึง 31 ม.ค.2563 | 100 บาท ฟรี ถึง 31 ต.ค.2563 | 500 บาท ฟรี เมื่อสมัครผ่าน Call Center | 700 บาท |
ค่าธรรมเนียมรายปี | ไม่มี | ไม่มี | 200 บาท (ฟรีเมื่อสมัครก่อน 31 ต.ค. 63) | 350 บาท (ยกเว้นตามเงื่อนไข) | 550 บาท (ฟรีปีแรก) |
อายุบัตร | 3 ปี (นับจากวันสมัคร) | 2 ปี (นับจากวันผลิตบัตร) | 3 ปี (นับจากวันสมัคร) | 5 ปี | 5 ปี |
ลักษณะบัตร | |||||
รูปแบบ | บัตรเติมเงิน | บัตรเติมเงิน | บัตรเติมเงิน | Debit Card | Debit Card |
แลกเก็บหรือรูดได้เลย | แลกเก็บไว้ในบัตรเท่านั้น | แลกเก็บหรือรูดได้เลย | รูดได้เลยไม่ต้องแลก | รูดได้เลยไม่ต้องแลก | |
ล็อคเรตได้ | ล็อคเรตได้ | ล็อคเรตได้ | เรตแปรผันตามวันที่ใช้ | เรตแปรผันตามวันที่ใช้ | |
บัตร | VISA | VISA / UNIONPAY | Mastercard | VISA | VISA |
payWave (แตะจ่าย) | ☑️ | ☑️ | ☑️ | ☑️ | ☑️ |
ถอนเงินในไทย | ไม่ได้ | ไม่ได้ | ไม่ได้ | ได้ทุกตู้ทุกธนาคาร | ได้แบบจำกัด |
ปิดบัตรหลังใช้งาน | ได้ ผ่านแอป | ได้ ผ่านแอป | ได้ ผ่านแอป | ได้ ผ่านแอป | ได้ ผ่านแอป |
การใช้งานต่างประเทศ | |||||
สกุลเงินที่ใช้จ่ายได้ | ทุกสกุลเงินทั่วโลก | เฉพาะ 14 สกุลเงินในบัตร ใช้จ่ายในไทยไม่ได้ | ทุกสกุลเงินทั่วโลก | ทุกสกุลเงินทั่วโลก | ทุกสกุลเงินทั่วโลก |
ค่าความเสี่ยง 2.5% | |||||
รูดใช้จ่ายผ่าน EDC ต่างประเทศ | ไม่มีชาร์จ | ไม่มีชาร์จ | ไม่มีชาร์จ | ไม่มีชาร์จ | ไม่มีชาร์จ |
ซื้อสินค้าออนไลน์ | ไม่มีชาร์จ | ไม่มีชาร์จ | ไม่มีชาร์จ | ไม่มีชาร์จ | มี สำหรับการซื้อสินค้าออนไลน์ |
เบิกเงินจากตู้ ATM ต่างประเทศ | ไม่มีชาร์จ | ไม่มีชาร์จ | ไม่มีชาร์จ | ไม่มีชาร์จ | มี สำหรับการเบิกเงินจากตู้ ATM |
เบิกเงินจากตู้ ATM ต่างประเทศ | 100 บาท + fee ธ.ต่างประเทศ | ชาร์จเป็นสกุลเงินต่างประเทศที่กด | 100 บาท + fee ธ.ต่างประเทศ | 75 บาท + fee ธ.ต่างประเทศ | 100 บาท + fee ธ.ต่างประเทศ |
ยกเว้น 100 บาทถึง 31 ธ.ค. 62 | ยกเว้น 100 บาทถึง 31 ม.ค. 62 | ||||
สกุลเงินที่แลกเก็บได้ | USD EUR GBP JPY AUD CHF SGD HKD CAD NZD CNY KRW TWD | USD EUR GBP JPY AUD CHF SGD HKD NZD CAD CNY* SEK NOK DKK RUB *ต้องสมัครบัตรUnion แยกอีกใบ | USD EUR GBP JPY AUD CHF SGD HKD CAD | ไม่ต้องแลกใช้ได้เลยทั่วโลก | ไม่ต้องแลกใช้ได้เลยทั่วโลก |
รูดโดยไม่แลก | ได้ | ไม่ได้ | ได้ | ได้ | ได้ |
เรตอ้างอิง | เรทพิเศษของ SCB | เรทพิเศษของ KTB | เรทพิเศษของ YouTrip | เรท VISA | เรทพิเศษของ KBank + เรท VISA |
วิธีแลกเงิน | เติมเงินเข้าบัตร และแลกผ่าน SCB EASY 100-500,000 บาท/วัน | โอนเงินเข้าบัญชีและแลกผ่าน Krungthai NEXT | เติมเงินและแลกในแอป YouTrip สูงสุด 500,000 บาท/วัน | ไม่ต้องแลก ใช้ได้ตามยอดเงินในบัญชี | ไม่ต้องแลก ใช้ได้ตามยอดเงินในบัญชี |
ถอนเงินในต่างประเทศ | 500,000 บาท ต่อวัน | 50,000 บาท ต่อวัน | 50,000 บาท ต่อเดือน | 200,000 บาท ต่อวัน | สูงสุด 200,000 บาท/บัตร/วัน |
ยอดใช้จ่ายสูงสุดต่อวัน | 500,000 บาท | 500,000 บาท | 300,000 บาท (200K EDC + 100K Online) | 500,000 (ไม่มีชื่อ) / 2,000,000 (มีชื่อ) บาท | 200,000 บาท |
จำนวนการแลกต่อวัน | 5 ครั้ง | 5 ครั้ง | ไม่จำกัด | N/A | N/A |
จำนวนเงินในบัตรสูงสุด | 500,000 บาท | ไม่เกิน 1 ล้านบาท (รวมทุกสกุลเงิน) | 500,000 บาท | ไม่จำกัด | ไม่จำกัด |
ถอน/แลกเงินสกุลอื่นในไทย | ไม่ได้ | ถอนได้ 2 แห่ง (นานาเหนือ และ แอร์พอร์ตลิงค์) | ไม่ได้ | ไม่ได้ | แลกได้จากบูธและสาขาธนาคาร |
☑️ สาขานานาเหนือ/จุดให้บริการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ Airport Link สุวรรณภูมิ | ☑️ สำนักงานแลกเปลี่ยนเงินต่างประเทศและสาขาธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา | ||||
เรตการแลกคืน | ตามที่แสดงในแอป | ตามที่แสดงในแอป | ตามที่แสดงในแอป | N/A | N/A |
อื่นๆ | |||||
ออกบัตรใหม่ | 200 บาท (ฟรี ถึง 31 ธ.ค.62) | 200 บาท (ฟรี ถึง 31 ม.ค.63) | 100 บาท | ฟรี | 550 บาท |
โปรโมชั่นและสิทธิพิเศษ | |||||
ประกันเดินทาง | มี | มี | ไม่มี | มี | มี |
ประกันซื้อสินค้า | ไม่มี | ไม่มี | ไม่มี | คุ้มครองช้อปออนไลน์ 5,000 บาท/ครั้ง | ไม่มี |
SIM | ไม่มี | ไม่มี | ไม่มี | ไม่มี | SIM GO INTER (Asia – Australia – USA) 6 GB 10 วัน มูลค่า 399 บาท |
Lounge | ฟรี Miracle Lounge 1 สิทธิ์ เมื่อลงทะเบียนและแลกเงินตามเงื่อนไข | ไม่มี | ไม่มี | ไม่มี | Miracle Lounge 1 ครั้ง / ปี |
สมัครภายในปี 62 รับ 3 ครั้ง / ปี | |||||
ส่วนลด | จอง ร.ร. ผ่าน Agoda ลดสูงสุด 8% | รับเงิน 200 บาท เมื่อจ่ายครั้งแรกผ่านบัตร | ส่วนลดเรียก Grab ไปสนามบิน 100 บาท | ||
ส่วนลด Grab 50 บาท | |||||
ส่วนลด Grab Food 100 บาท | |||||
จอง ร.ร. ผ่าน Expedia ลด 8% | |||||
จอง ร.ร. ผ่าน Agoda ลด 5% | |||||
ซื้อ Lazada ครั้งแรกลด 20% | |||||
ซื้ือตั๋ว Major / SF ใบละ 100 บาท 2 ใบต่อเดือน | |||||
ลุ้น | ตั๋วไป-กลับญี่ปุ่น พร้อมที่พัก 5 คืน และ Pocket money อีก 10,000 บาท | ไม่มี | ไม่มี | ไม่มี | ไม่มี |
วิเคราะห์จุดเด่น-ด้อยของแต่ละบัตร
PLANET SCB
จุดเด่น
- ใช้ได้ทั่วโลก แม้สกุลเงินที่แลกไม่ได้
- ใช้จ่ายในประเทศไทยได้
- รองรับการแลกสกุลเงินหยวน, วอน, และไต้หวันดอลล่าห์
- ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปีตลอดชีพ
จุดด้อย
- ต้องโอนเงินเข้ากระเป๋าของบัตรก่อน (ซึ่งอาจมองเป็นข้อดีก็ได้)
จากบรรดาบัตรเดบิตเพื่อการท่องเที่ยวทั้งหมด Planet SCB น่าจะเป็นใบที่ตอบโจทย์ได้ครบถ้วนความต้องการที่สุด โดยบัตรอื่นจะเน้นที่เรื่องการใช้งานในไทยควบคู่ไปด้วย แต่ Planet SCB จะค่อนข้างเน้นไปที่การใช้งานต่างประเทศแบบชัดเจน และที่สำคัญคือสมัครฟรี ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี หรือค่าธรรมเนียมอื่นๆหยุมหยิ๋ม และสามารถทำได้ทั้งแลกเงินเพื่อล็อคเรตที่ดีไว้ในบัตรก่อนได้ หรือจะรูดเลยไม่ต้องแลกก่อนก็ได้อีก สะดวกสุดๆตามต้องการ แถมยังมีประกันการเดินทางเอาไว้ให้เรียบร้อย
เรตความน่าใช้ ⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️
Krungthai Travel Card
จุดเด่น
- ไม่มีค่าธรรมเนียม
- แลกสกุลเงิน Norway, Sweden, Denmark และ Russia ได้
จุดด้อย
- ไม่สามารถใช้จ่ายเงินสกุลที่ไม่รองรับได้เลย
- ไม่สามารถรูดได้ทันที หากไม่แลกในสกุลเงินที่รองรับก่อน
- ไม่มีโปรโมชั่นดึงดูด
เป็นบัตรที่ออกมาก่อนใครเพื่อน และทำให้หลายคนเรียกบัตรเดบิตเพื่อการท่องเที่ยวทั้งหมดว่าเป็น Travel Card ได้เลย หลายอย่างเรียกว่าเป็นต้นแบบของ Planet SCB ก็ว่าได้ ล่าสุดก็มีการเพิ่มสกุลเงินที่รองรับเข้าไปอีก แต่ก็จะยังไม่มีรวมเงินหยวน, วอน, และไต้หวัน เข้าไปในบัตรอยู่ดี โดยเงินหยวนหากต้องการใช้งานต้องสมัครบัตรอีกใบเป็น Union เพิ่ม ไม่สามารถใช้งานเสร็จในใบเดียวได้ ทำให้วุ่นวายเล็กน้อย และด้วยความที่ออกมาก่อนใครเพื่อน ฐานลูกค้ามีมากในระดับนึงแล้ว ปัจจุบันจึงไม่ค่อยเห็นการทำโปรสักเท่าไหร่นัก
เรตความน่าใช้ ⭐️⭐️⭐️½
YouTrip powered by KBANK
จุดเด่น
- ใช้ได้ทั่วโลก แม้สกุลเงินที่แลกไม่ได้
- ใช้จ่ายในประเทศไทยได้
- ไม่มีค่าธรรมเนียมใดๆเลย
จุดด้อย
- สกุลเงินที่ล็อคเรตได้น้อยกว่าบัตรอื่น
- ต้องโอนเงินเข้ากระเป๋าของบัตรก่อน (ซึ่งอาจมองเป็นข้อดีก็ได้)
ชูจุดเด่นเรื่องปลอดค่าธรรมเนียมทุกสิ่ง ออกมาเป็นทางเลือกจากบัตร Journey ของธนาคารกสิกรเองที่มีค่าธรรมเนียมมากกว่าทุกใบ เรียกว่าเจาะตลาดคนละทางกันเลยก็ว่าได้ โดยการใช้งานจะแตกต่างจากบัตรใบอื่นเล็กน้อยที่ปกติผูกเข้ากับแอปธนาคารเลย แต่ของ YouTrip จะเป็นแอปแยกออกไป เพราะ YouTrip จะไม่ใช่ของ KBANK โดยตรง แต่มีการใช้หลังบ้านหลายส่วนจาก KBANK จึงเป็นที่มาว่า Powered by KBANK นั่นเอง ภาพรวมดีพอๆกับ Planet SCB แต่ด้อยกว่าในเรื่องจำนวนสกุลเงินที่สามารถแลกเก็บได้ ใช้เป็นบัตร Mastercard แทน VISA และสิทธิประโยชน์ต่างๆ จะน้อยกว่าเล็กน้อย
เรตความน่าใช้ ⭐️⭐️⭐️⭐️
TMB All Free
จุดเด่น
- รูดได้ทั่วโลกโดยตรงไม่ต้องแลกก่อน
- บัตรหายออกบัตรใหม่ฟรี
- มีประกันซื้อของออนไลน์ โดนโกงมีชดใช้
- สิทธิประโยชน์อื่นๆ
- ใช้จ่าย ถอนเงิน ในประเทศไทย
จุดด้อย
- ไม่สามารถล็อคเรตได้
- มีค่าธรรมเนียมแรกเข้าและรายปี
เป็นรายแรกที่ทำบัตรเดบิตให้สามารถรูดใช้ง่ายสกุลเงินต่างประเทศได้โดยไม่ต้องแลกเงินเข้ากระเป๋าอิเล็กทรอนิกส์ (e-wallet) ก่อน ได้เรื่องความสะดวกสบาย เพียงแค่มีเงินในบัญชีก็พร้อมใช้งานได้เลย ด้วยความที่มีการจ่ายค่าแรกเข้าและรายปี เสมือนเป็นบัตรเดบิตทั่วไป ทำให้ตัวบัตรมีโปรโมชั่นและทำได้มากกว่า Travel Card ของ SCB และ KTB ทั้งเบิกเงินสดได้จากตู้ ATM ทุกธนาคารทั่วไทย โดยไม่ต้องมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม และมีส่วนลด-สะสมแต้มสำหรับการใช้จ่ายในประเทศที่มากมาย ซึ่งถ้าไม่มีบัตรเครดิตอยู่แล้วก็ช่วยทำให้ใช้ชีวิตแบบไร้เงินสดได้สบายขึ้น แต่ก็น่าเสียดายที่ไม่สามารถแลกเงินเก็บเอาไว้ได้ ซึ่งจะจำเป็นมากในช่วงที่ค่าเงินผันผวน
เรตความน่าใช้ ⭐️⭐️⭐️⭐️
KBANK Journey
จุดเด่น
- รูดได้ทั่วโลกโดยตรงไม่ต้องแลกก่อน
- โปรโมชั่นและสิทธิประโยชน์เพียบ
- สามารถใช้จ่าย-เบิกเงินสดในไทยได้
- แลกเงินสดสกุลอื่น เรตเท่าแอป ได้จากช่องทางธนาคารกว่า 1,000 แห่ง
จุดด้อย
- ค่าธรรมเนียมที่แพงกว่าคนอื่น
- มีค่าความเสี่ยง 2.5% สำหรับการซื้อของออนไลน์และเบิกเงินสด
ทำเอาหลายคนงงที่ออกมาช้าสุดแต่มีการเก็บค่าธรรมเนียมแรกเข้าและค่าบริการรายปีที่แพงกว่าชาวบ้าน แต่ก็แลกมากับสิทธิประโยชน์ต่างๆ เพียบ คิดซะว่าจ่ายเพื่อซื้อของแถมเหล่านี้ก็อาจจะยังคุ้มได้ และถ้าต้องการจะแลกเงินสดติดตัวก่อนบินก็ไม่ต้องวิ่งวุ่นหาร้านรับแลกแต่อย่างใด เพราะบูธรับแลกของกสิกรที่มีอยู่เยอะก็พร้อมจะให้รับแลกเรตเท่ากับในแอปได้เลยเพียงโชว์บัตรเท่านั้น อย่างไรก็ดีจุดด้อยเรื่องซื้อของ จองที่พัก ในเงินสกุลเงินอื่นยังคิดค่าความเสี่ยงตามปกติ เป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาให้ดี อาจทำให้ต้องมีการถือบัตรมากกว่า 1 ใบเพื่อความคุ้มค่าสูงสุด
เรตความน่าใช้ ⭐️⭐️⭐️
ทั้งหมดนี้ก็เป็นข้อมูลที่เรารวบรวมมาเอาไว้ให้นะครับ ซึ่งอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้ต่อไปจากแต่ละธนาคาร ซึ่งถ้าใครมีข้อท้วงติงอย่างไรสามารถแจ้งมาเพื่ออัพเดทข้อมูลเพิ่มเติมได้ในคอมเม้นต์เลยนะครับ
รีวิวประสบการณ์ใช้งานบัตร
แชร์ประสบการณ์ใช้งานส่วนตัวจากบัตร Travel Card สักเล็กน้อย ส่วนตัวค่อนข้างประทับใจกับการใช้บัตรเดบิตเพื่อการท่องเที่ยวในต่างประเทศมากๆ ด้วยความสะดวก คุ้มค่า และปลอดภัย จ่ายบัตรก็ไม่ต้องกลัวจ่ายแพงกว่าเหมือนแต่ก่อน ปลอดภัยที่ไม่ต้องพกเงินสดเยอะๆ บัตรหายก็กดปิดได้ทันทีผ่านแอป คือแนะนำให้ใช้มากๆๆๆๆๆๆๆ แต่อย่างไรก็ดีแม้ว่าในหลายประเทศทั้งที่พัฒนาแล้วและกำลังพัฒนา จะรับบัตรเครดิต/เดบิต VISA อย่างแพร่หลาย แต่พึงระวังเอาไว้หน่อยว่ามีอีกหลายร้าน พ่อค้าแม่ขายบางเจ้าที่เค้าก็ไม่รับบัตรอยู่ก็มี และยังไม่รวมถึงปัญหาการใช้งานจริงที่บางครั้งอาจเกิดความขัดข้องในการเชื่อมต่อกับ Server ของธนาคารทำให้ไม่สามารถตัดเงินจากบัตรได้ จนทำให้การจับจ่ายใช้สอยในต่างประเทศเกิดความติดขัด แนะนำว่าเดินทางต่างประเทศก็เอาเงินสดติดตัวเอาไว้กันบ้าง โดยประเทศในแถบเอเชียก็อาจจะต้องพกเอาไว้เยอะหน่อย ส่วนในทวีปยุโรป อเมริกา หรือออสเตรเลีย ก็อาจจะน้อยลงมา ตาม Penetration ของการใช้งานบัตรเครดิตในแต่ละประเทศไปครับ
เรตอัตราแลกเปลี่ยนบัตร Travel Card ใบไหนดีที่สุด?
เรตอัตราแลกเปลี่ยนน่าจะเป็นเรื่องที่หลายคนให้ความสนใจกันมากที่สุด เมื่อต้องการจะใช้จ่ายกันสักทีนึง แต่จากการสำรวจ + สังเกตของทีมงาน พบว่าเรตจะเปลี่ยนแปลงในแต่ละวันไม่เท่ากัน ทำให้ไม่สามารถชี้ได้ชัดเจนว่าของบัตรใบไหนดีกว่า โดยเฉพาะบัตรที่เพิ่งออกมาใหม่จะเจอว่าเรตดีมาก แต่พอผ่านไปไม่กี่เดือน เรตกลับแพงกว่าของเจ้าอื่นไปหลายสิบสตางค์เลยก็มี ดังนั้นถ้าต้องการเรตที่ถูกที่สุด ขอแนะนำว่าก่อนจะใช้จ่ายก็เช็คดูอีกรอบเพื่อความชัวร์ เคยเจอมาแล้วว่ารูดจ่ายต่างกันหลักนาที เรตเปลี่ยนไปแล้วก็ยังมีเลย แต่อย่างไรก็ดีถ้าไม่ได้ซื้อของจำนวนมากๆ ก็ไม่ต้องซีเรียสไป เอาความสะดวกไว้ก่อนน่าจะดีกว่าครับ
ยกตัวอย่าง ความแตกต่างของอัตราแลกเปลี่ยนที่ต่างกัน
- ถ้าเราต้องการซื้อของที่ราคา USD10
- เรตราคาบัตร A @ 31.15 บาทต่อดอลล่าห์ คิดเป็นเงินไทย 311.50 สตางค์
- เรตราคาบัตร B @ 31.18 บาทต่อดอลล่าห์ คิดเป็นเงินไทย 311.80 สตางค์
คิดเป็นเงินไทยต่างกันไม่ถึงบาทเลยด้วยซ้ำ ถ้าจะเอาคุ้มแต่ต้องแลกมาด้วยความวุ่นวายที่ต้องสลับบัตร คอยเช็คเรตตลอดเวลา ก็ลองคิดดูละกันครับว่ายอมเสียเวลาเที่ยว เวลาเดินช้อปต่อรึเปล่าครับ
ใช้ TMB อยู่ทั้งเดบิต เครดิต เงื่อนไขน้อยไปซับซ้อนซ่อนเงื่อนดีครับ
เปรียบเทียบเห็นภาพดี 🙂 🙂
ต้องเรียกว่า เรทเปลี่ยนเกือบทุกครั้งที่กดดข้าไปซื้อ บางธนาคาร เสาร์- อาทิตย์ เรทจะนิ่งสนิท
KRUNGTHAI TRAVEL CARD ลืมข้อด้อยอีกอันนะ สำคัญมากด้วย คือออออ ระบบล่มบ่อยมาก ทำให้เข้า app ไปแลกเงินไม่ได้ หรือกดเงินที่ตู้ ATM และรูดจ่ายไม่ได้