ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเราได้เห็นการยกระดับสงครามการค้าระหว่างอเมริกาและจีนกันไปทีนึงแล้ว แต่ดูเหมือนทางสหรัฐจะไม่หยุดแค่นั้นเมื่อทางประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศคำสั่งฉุกเฉิน ห้ามบริษัทต่างๆ ในประเทศใช้อุปกรณ์สื่อสารโทรคมนาคมจากบริษัทต่างชาติ ซึ่งถือว่าเป็นความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของสหรัฐฯ แม้จะไม่ได้ระบุชื่อบริษัทที่แน่ชัด แต่ก็น่าจะหมายถึงบริษัทใหญ่ของจีนที่กำลังมีประเด็นกันมาเนิ่นนานอย่าง Huawei นั่นเอง
ทรัมป์ ได้ลงนามในคำสั่งของผู้บริหาร Executive Order ประกาศเหตุฉุกเฉินระดับชาติ (national emergency) เนื่องจากภัยคุกคามจากอุปกรณ์โทรคมนาคมของต่างประเทศ โดยคำสั่งดังกล่าวอ้างถึงความเสี่ยงของการก่อวินาศกรรมต่อการสื่อสาร ความเสี่ยงด้านความมั่นคงทั่วไป และความเสี่ยงต่อโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของเศรษฐกิจดิจิทัล ซึ่งแม้ว่าคำสั่งผู้บริหารนี้จะไม่ได้กล่าวถึง Huawei หรือประเทศจีน แต่ก็เหมือนเป็นอันรู้กันว่าออกมาทรงนี้เพื่อสกัดใคร และทางสำนักข่าวก็ยังได้รายงานว่าทางกระทรวงพาณิชย์ได้เพิ่ม Huawei ลงไปในรายการที่เรียกว่า “Entity List” ด้วย ซึ่งในรายการนี้จะระบุถึงบริษัทที่รัฐบาลสหรัฐฯ เห็นว่าจะทำลายผลประโยชน์ของประเทศ นั่นหมายถึงว่าบริษัท Huawei จะถูกกีดกันไม่ให้เข้าถึงชิ้นส่วนและส่วนประกอบต่างๆ จากบริษัทของสหรัฐฯ โดยไม่ได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลก่อน
Huawei ปล่อยวางโนสนโนแคร์ เพราะคนเสียประโยชน์คือสหรัฐเอง
ทางด้าน Huawei เองก็มีการเคลื่อนไหวและตอบสนองต่อคำสั่งผู้บริหาร Executive Order ด้วยเช่นกัน โดยทาง Huawei ได้ให้ข้อมูลกับทาง Android Authority ว่า
“การที่สหรัฐฯ ได้กีดกัน Huawei จากการทำธุรกิจในประเทศนั้นไม่ได้ทำให้สหรัฐฯ ปลอดภัยหรือแข็งแกร่งขึ้นเลย แต่สิ่งนี้จะจำกัดให้สหรัฐฯ ต้องไปใช้ตัวเลือกอื่นที่ด้อยกว่า ราคาแพงกว่า และจะไม่ได้ใช้งานเทคโนโลยี 5G ที่มีคุณภาพในราคาที่ถูก ซึ่งจะส่งผลให้สหรัฐฯ ล้าหลังในเรื่อง 5G ด้วย”
แต่น่าสนใจว่าประกาศนี้ทางการจะช่วยเหลือหรือลงโทษบริษัทต่างๆอย่างไร เพราะมีคนสอบถามเรื่องนี้ไปก็ไม่ได้รับการยืนยันว่า รัฐบาลจะช่วยเรื่องค่าใช้จ่ายกับผู้ให้บริการเพื่อถอดอุปกรณ์ของ Huawei ที่มีอยู่หรือไม่ และไม่ได้มีการชี้แจงว่าจะลงโทษกับบริษัทที่ละเมิดคำสั่งอย่างไรเช่นกัน
ข่าวนี้เกิดขึ้นหลังจาก Huawei ได้ประกาศว่ายินดีที่จะลงนามในข้อตกลง “ no spy ” หรือการสัญญาว่าจะไม่มีการสอดแนม หรือแอบเปิดหลังบ้านให้ใครก็ตามเข้าถึงข้อมูลได้ กับรัฐบาลต่างๆ รวมถึงสหราชอาณาจักรที่มีประเด็นในช่วงก่อนหน้านี้ ซึ่งการทำแบบนี้ก็เหมือนเป็นการแสดงถึงความจริงใจและพร้อมที่รับผิดชอบในทางกฎหมายถ้าเกิดปัญหาการอะไรก็ตามจากการใช้อุปกรณ์หัวเว่ย ซึ่งต่างจากทางสหรัฐที่ออกมาแจ้งเตือนรัฐบาลทั่วโลกแต่ไม่มีหลักฐานอะไรมารองรับข้อกล่าวหานี้แม้แต่นิดเดียว
อังกฤษเมินคำเตือนสหรัฐฯ ลั่นไฟเขียวให้ Huawei ร่วมสร้างเครือข่าย 5G ของสหราชอาณาจักร
ที่มา: androidauthority
จากนโยบายพี่หลายๆอย่างนี้ดูละคนซวยแม่งไม่ใช่จีนนะนี่ แม่งคือตัวพี่เองแล้วก็พอร์ทกรูนี่ละ
สงสัย อีกไม่นานภายใต้การบริหารประเทศของ ทรัมป์ อเมริกา จะกลายเป็นประเทศปิด ไปในตัว เพราะอะไรก้อไม่ยอม อะไรก้อไม่ให้ ท้ายจะจะกลายร่างเป็นคอมมิวนิสต์ รึป่าว
ไอ้ทรัมป์นโยบายแต่ละอย่างไม่มีความแนบเนียนเลย ยุคนี้เป็นยุคตกต่ำของมะกันจริงๆ
คนจีน ทุกคนเลิกซื้อของเมกา แค่คนละชิ้น เมกาก็พังแล้วมั้งครับ 🙂 🙂
แล้วอย่างคนที่เดินทางเข้าสหรัฐ ต้องห้ามเอามือถือ ฯลฯ Huawei หรือสัญชาติอื่น ๆ เข้าประเทศด้วยไหม
บริหารประเทศแบบเด็กเอาแต่ใจเพิ่มความเกลียดให้นานาประเทศเข้าไปอีกปกติเค้าก็เกลียดมากอยู่แล้วแต่พูดไม่ออกเพราะมันเป็นมาเฟียและโจรปล้นทรัพยากรของโลกออกกฏต่างๆไว้กดหัวประเทศอื่นอยากทำอะไรก็ได้จีนกับรัสเซียช่วยสั่งสอนที