วันเปิดตัวเลื่อนแล้วก็เลื่อนอีก สำหรับ Red Hydrogen One มือถือสุดล้ำแห่งอนาคตที่มีจุดเด่นอยู่ที่จอโฮโลแกรม 3 มิติ และกล้องหลังที่สามารถใช้งานร่วมกับ Mod ต่างๆ คล้ายกับ Moto Z (อุปกรณ์เสริมของ Hydrogen One จะเน้นการถ่ายแบบมืออาชีพมากกว่า) ซึ่งล่าสุดทาง Red ก็ได้ปล่อยมือถือรุ่นทดลอง หรือที่เรียกว่า Houdini Edition ออกมาให้บล็อกเกอร์รายนึงได้ทดสอบแล้วด้วย
สำหรับใครที่ลืมไปแล้วว่าเจ้า Red Hydrogen One มันมีสเปคคร่าวๆ เป็นยังไงบ้าง ก็มาทบทวนกันหน่อยนึงละกันนะ (จนตอนนี้ก็ยังไม่มีสเปคแบบเต็มๆ ออกมาให้ดูเลย)
สเปค Red Hydrogen One
- หน้าจอขนาด 5.7 นิ้ว ความละเอียด 2560 x 1440 พร้อมนาโนเทคโนโลยี ที่สามารถสลับการแสดงผล 2D, 3D และโฮโลกราฟฟิคได้
- CPU : Snapdragon 835
- กล้องหน้าคู่ หลังคู่ ที่สามารถบันทึกวิดีโอได้แบบ 4V
- รองรับ Mod
- รองรับ MicroSD card
- รองรับ 2 ซิม
- รูหูฟัง 3.5 มม.
- พอร์ท USB-C
- แบตเตอรี่ 4510 mAh
สำหรับมือถือ Red Hydrogen One Houdini Edition ตัวกล่องก็จะเป็นสีดำล้วนไม่มีลวดลายอะไรเลย พอเปิดกล่องมาก็จะเจอกับบัตรแสดงความยินดีที่ได้เป็นเจ้าของมือถือตัวนี้ และมี MicroSD Card ขนาด 128GB แถมมาให้ด้วย ส่วนข้างๆ เป็นเหรียญตรา Hydrogen เอาไว้โชว์เฉยๆ ไม่มีลูกเล่นอะไร
และเมื่อเปิดกล่องออกมาอีกชั้นก็จะพบกับกล่องของตัวมือถือ ซึ่งภายในก็มีตัวเครื่อง, สายชาร์จ และหม้อแปลง 5V / 3A เท่านั้น ไม่มีหูฟังหรืออะไรอื่นๆ แล้ว
มาดูที่ตัวเครื่องกันบ้าง ถ้าใครที่เคยติดตามอ่านข่าวลองเล่นตัวโชว์เมื่อคราวที่แล้ว ก็จะเห็นว่ารูปร่างหน้าตาของมันก็ยังเหมือนเดิม คือตัวเครื่องมีขนาดใหญ่ ขอบเครื่องด้านข้างมีรอยเว้ารองรับนิ้วมือให้จับเครื่องได้แบบมั่นคง ไม่ลื่นหลุดมือเวลาใช้งาน ส่วนด้านหลังข้างล่างเครื่องมีพอร์ทสำหรับเสียบ Mod ต่างๆ
ส่วนหน้าจอก็เป็นไปตามที่เคยบอกไว้ว่า การรับชมคอนเทนท์แบบ 3D หรือโฮโลแกรม มันไม่สามารถแสดงให้เห็นได้จากหน้าจอคอมหรือมือถือทั่วไปที่เราใช้กัน ก็เลยไม่สามารถบอกได้ว่ามันเจ๋งแค่ไหน แต่บล็อกเกอร์คนที่ทำคลิปได้ทดลองชมคอนเทนท์ 3D ก็พบว่ามันดูพุ่งออกมาจากจอจริงๆ แต่ก็ยังไม่ได้รู้สึกว้าวอะไรมากมายนัก (น่าจะต้องรอให้มีคอนเทนท์ออกมามากกว่านี้ก่อน อาจจะมีที่เจ๋งจริงๆ ออกมาอีก)
ส่วนเรื่องกล้อง เนื่องจากในคลิปดังกล่าวยังเป็นแค่การ Unbox เท่านั้น ไม่ได้มีการลงลึกซักเท่าไหร่ว่ามันทำอะไรได้บ้าง และมีลูกเล่นขนาดไหน แต่จากการทดสอบพบว่ามันมีอะไรให้ปรับมากมายไปหมด
คาดว่าในตอนนี้ ที่บล็อกเกอร์ดังกล่าวยังไม่สามารถลองอะไรให้ดูกันมากนัก เพราะทาง Red ได้ให้ผู้ที่ได้เครื่องรุ่น Houdini Edition ไปใช้ ทำสัญญาว่าจะยังไม่ทำการรีวิวหรือเอาข้อผิดพลาดของเครื่องไปโพสท์ในเว็บไหนเลย ไม่งั้น Red จะทำการ Brick เครื่องนั้นซะ และจะไม่สามารถใช้งานเครื่องนั้นได้อีกเลย (โหดจริงๆ พ่อคุณ…)
ก็ต้องรอไปจนช่วงกลางเดือนตุลาคมนี้ ถึงจะได้ดูการรีวิว Red Hydrogen One รุ่นสำหรับขายทั่วไปกันอีกที ว่ามันจะเจ๋ง จะเด็ดขนาดไหน เทียบกับค่าตัวสุดโหดเริ่มต้นที่ 1,295 ดอลลาร์ หรือประมาณ 42,384 บาท เลยทีเดียว
ที่มา : BGR
ก็บ่นในใจตอนดูว่า ไหน 3D
ก็ลืมไปว่าเราดูผ่านจอ 2D อีกทีนิหว่า กล้องที่ถ่ายมาก็ 2D
แบบนี้คงต้องรอจับของจริงเท่านั้น
ราคานี้น่าเล่นกว่า ipX เยอะเลย
อย่างอื่นยังไม่รู้ รู้แต่ชอบที่ finger scan ด้านข้างดูจะใช้งานง่าย เวลาวางไว้บนโต๊ะไม่ต้องยกขึ้นมากด สะดวกกว่าที่อยู่ด้านหลัง
กล้องหลัง เห็นแล้วนึกถึง MOTO จริงๆ
ได้เครื่องมาแล้วครับ ชอบมากในความแข็งแรงของเครื่อง เรื่องการใช้งานก็ลื่นมากเพราะเป็น Pure Android ส่วนกล้องผมว่าดีนะ คงไม่ไปเทียบกับยี่ห้ออื่น ใช้เพราะว่ามันเป็น RED เท่านั้น แต่บอกไว้อย่างเครื่องหนักมาก เหมือนถืออาวุธมากกว่าโทรศัพท์