กลับมาอีกครั้งกับการแนะนำสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์รุ่นน่าสนใจ โดยตอนนี้เวลาก็ผ่านมาแล้ว 3 เดือนจากการแนะนำรอบที่แล้ว ซึ่งในช่วงระยะเวลานั้นก็มีสมาร์ทโฟนที่น่าสนใจถูกเปิดตัวมาหลายรุ่น แถมบางรุ่นที่เคยแนะนำมาก่อนหน้าก็เริ่มราคาลงกันแล้วด้วย ทำให้หลายๆ คนที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนตัวใหม่อยู่เริ่มปวดหัวว่าจะซื้อรุ่นไหนดี เราก็เลยจัดการนำสมาร์ทโฟนที่น่าสนใจในแต่ละช่วงราคาหยิบยกมาแนะนำเผื่อเป็นตัวเลือกให้กับคนที่สนใจครับ

ไม่ต้องลากเยอะ กดที่นี่เพื่อไปดูแต่ละแอนดรอยด์ที่แนะนำในแต่ละช่วงราคา

ราคา 4,000 – 7,000
ราคา 7,000 – 10,000
ราคา 10,000 – 15,000
ราคา 15,000 – 19,000
ราคา 19,000 บาทขึ้นไป

สำหรับในเดือนนี้ เราได้มีการปรับเปลี่ยนช่วงราคาให้เข้ากับราคาของสมาร์ทโฟนในขณะนี้ จะเห็นได้ว่ารุ่นท็อปจะเริ่มต้นที่ 19,000 บาทขึ้นไป

อ่านสักนิดก่อน

เราจะค่อยๆ แนะนำเรียงกันขึ้นไปตามราคา จากถูกไปแพงนะครับ โดยแต่ละตัวนั้นจะไม่ได้นำมาเปรียบเทียบฟันธงว่าตัวไหนดีกว่าตัวไหน เพราะจากการทดสอบของทีมงานที่ได้ลองจับมาแล้ว ทุกตัวที่เลือกมาน่าใช้พอๆ กันในระดับราคาใกล้ๆ กัน แถมบางตัวยังเป็นรุ่นรือธงที่มีราคาลดลงจากเดิมอีกด้วย เลยจะเป็นการดึงจุดเด่นน่าสนใจมาบอกเล่าเท่านั้น ที่เหลือคือคุณเป็นคนตัดสินเองว่าตัวไหนเข้ามือ หน้าตาแบบไหนที่อยากจะถือมันยาวๆ อีกเป็นปีๆ ส่วนข้อมูลลึกๆ ลองไปอ่านต่อจากรีวิวของพวกเราในลิงก์ที่ให้ไว้ได้ครับ

สำหรับใครที่ยังอ่านสเปคไม่เป็น งงๆอยู่ว่ารุ่นไหนจะเหมาะกับเรา ขอเชิญไปอ่านที่

ทุกความสงสัยจะกระจ่างให้บทความเดียวครับ:)

 

4,000 – 7,000 สเปคเล่นลื่นๆในราคาประหยัด
ถึงแม้ว่าจะเป็นช่วงราคาเริ่มต้น แต่สมาร์ทโฟนแต่ละตัวก็มีความน่าสนใจไม่น้อยเลย เพราะแต่ละตัวสเปคก็ถือว่าอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกัน อาจจะไม่ได้สูงมา แต่เมื่อใช้งานจริงก็สามาถใช้งานได้อย่างลื่นไหล
 

Wiko U Feel / U Feel Lite

  • Android 6.0 (Marshmallow)
  • IPS 5.0” (720 x 1280)
  • MediaTek MT6735 Quad-core 1.3GHz
  • RAM 3GB / 2GB
  • ROM 32GB / 16GB + microSD สูงสุด 64GB
  • กล้องหลัง 13MP, 8MP  / กล้องหน้า 5MP
  • รองรับ 3G/4G 2SIMs
  • 2,500 mAh
  • ราคา 5,990 บาท / 4,950 บาท

เป็น 2 รุ่นน้องใหม่จากค่าย Wiko ที่เพิ่งจะเปิดตัวไปได้ไม่นาน ซึ่งหน้าตาก็ถือว่าสวยงามดูดีเกินราคา ถึงแม้ว่าชื่อจะใกล้เคียงกัน แต่หน้าตาก็แตกต่างกันพอสมควร ส่วนขนาดนั้นกำลังพอดีมือ ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป แถมทั้งคู่ยังมาพร้อมกับตัวสแกนลายนิ้วมืออีกด้วย ซึ่งหาได้ยากนักที่สมาร์ทโฟนในช่วงราคานี้จะใส่ฟีเจอร์สแกนลายนิ้วมือเข้ามาด้วยครับ 

 

Lenovo VIBE K5 Plus

  • Android 5.1 (Lollipop)
  • IPS 5.0” (1080 x 1920)
  • Snapdragon 616 Octa-core 1.5GHz
  • RAM 2GB
  • ROM 16GB + microSD สูงสุด 32GB
  • กล้องหลัง 13MP / กล้องหน้า 5MP
  • รองรับ 3G/4G 2SIMs
  • 2,750 mAh
  • ราคา 5,990 บาท

เรียกว่าเปิดวางขายแบบหักหลังคนซื้อ K5 กันเลยทีเดียว เพราะ Lenovo VIBE K5 Plus นั้นเปิดราคาออกมาแค่ 5,990 บาท แพงกว่า K5 ไม่กี่ร้อย แต่สเปคดีกว่าเยอะเลย 

 

Asus ZenFone Go TV

  • Android 5.1 (Lollipop)
  • IPS 5.5” (720 x 1280)
  • Snapdragon 400 Quad-core 1.4GHz
  • RAM 2GB
  • ROM 32GB + microSD สูงสุด 164GB
  • กล้องหลัง 13MP / กล้องหน้า 5MP
  • รองรับ 3G / 4G 2SIMs
  • 3,100 mAh
  • ราคา 5,990 บาท

เหมาะมากๆ สำหรับคนติดละคร และชอบดูรายการต่างๆ เพราะ ZenFone Go TV สามารถดูทีวีดิจิตอลได้ทุกช่องไม่ต้องง้ออินเทอร์เน็ตกันเลยทีเดียว สามารถรับสัญญาณ HD หน้าจอใหญ่ 5.5″ ส่วนการใช้งานก็ประมาณเดียวกับ Zenfone Go รุ่นปกตินั่นหละครับ

 

Acer Liquid Z630S / Liquid Z530S

  • Android 5.1 (Lollipop)
  • IPS 5.5” (720 x 1280) / 5” (720 x 1280)
  • MediaTek MT6753 Octa-core 1.3GHz
  • RAM 3GB
  • ROM 32GB + microSD สูงสุด 64GB
  • กล้องหลัง 8MP / กล้องหน้า 5MP
  • รองรับ 3G/4G 2SIMs
  • 4,000 mAh / 2,490 mAh
  • ราคา 6,990 บาท / 5,990 บาท

หลังจากทำราคามาค่อนข้างแรงกว่าคู่แข่งในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ปีนี้ทาง Acer พร้อมลุยเต็มที่ จัดราคาดุเดือดหลายรุ่น อย่างรุ่น Z530S / Z630S นี่จัดสเปคให้แบบเสี่ยสุดๆ ROM32GB / RAM 3GB ในราคาครึ่งหมื่น ซึ่งประสบการณ์ใช้งานของ Acer นั้นช่วงหลังๆ ทำออกมาได้ลื่นไหลใช้งานได้ดีงามพอสมควร แนะนำให้ไปลองกัน

 

 

7,000 – 10,000 จ่ายแต่พอดี มีเงินเหลือเก็บ
เป็นช่วงที่การแข่งขันเริ่มโหดขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งทั้งสเปคและราคาเรียกได้ว่าจัดเต็มกันแบบสุดๆ ไม่มีกั๊กกันเลยทีเดียว

Moto G Turbo Edition

  • Android 6.0 (Marshmallow)
  • IPS 5.0” (720 x 1280)
  • Snapdragon 615 Octa-core 1.5GHz
  • RAM 2GB
  • ROM 16GB + microSD สูงสุด 32GB
  • กล้องหลัง 13MP / กล้องหน้า 5MP
  • รองรับ 3G/4G 2SIMs
  • 2,470 mAh
  • ราคา 8,290 บาท

แฟนๆ Motorola ที่รอการกลับมาของ Moto อยู่ละก็ บอกตรงๆ จากทั้ง 3 รุ่นที่เปิดตัว รุ่น G Turbo นี่ราคาคุ้มสุดละ เรื่องการใช้งาน ความลื่นไหล และการันตีอัพเดทเร็วนั้นไม่แพ้ใครเพราะ UI เกือบจะ Pure Android อยู่แล้ว แต่ถ้าจะเน้นเรื่องกล้องละก็ยังแค่พอใช้งานได้ ไม่ถือว่าดีเท่าไหร่

 

OPPO F1  

  • Android 5.1 (Lollipop)
  • IPS 5.0” (720 x 1280)
  • Snapdragon 616 Octa-core (Quad 1.7GHz + Quad 1.0GHz)
  • RAM 3GB
  • ROM 16GB + microSD สูงสุด 128GB
  • กล้องหลัง 13MP / กล้องหน้า 8MP
  • รองรับ 3G/4G 2SIMs
  • 2,500 mAh
  • ราคา 8,990 บาท

OPPO F1 เรียกได้ว่าเป็นตระกูล selfie ของค่าย OPPO เลยก็ว่าได้ เพราะกล้องหน้านั้นสามารถถ่ายภาพออกมาได้สวยถูกใจสาวๆ หลายๆ คน และด้วยความที่เป็นบอดี้โลหะ ทำให้ตัวเครื่องนั้นมีความบาง พร้อมกับน้ำหนักที่เบา แถมขนาดนั้นยังพอดีมือไม่ใหญ่จนเกินไป ซึ่งตอนนี้ OPPO F1 ก็มีรุ่นสีชมพูออกมาวางจำหน่ายเอาใจสาวๆ อีกด้วย ใครที่ชอบการ selfie ก็ถือว่ารุ่นนี้น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียวครับ

อ่านต่อ พรีวิว OPPO F1 และ รีวิว OPPO F1

 

Lenovo K4 Note (A7010)

  • Android 5.1 (Lollipop)
  • IPS 5.5” (1080 x 1920)
  • MediaTek MT6753 Octa-core 1.3GHz
  • RAM 3GB
  • ROM 16GB + microSD สูงสุด 128GB
  • กล้องหลัง 13MP / กล้องหน้า 5MP
  • รองรับ 3G/4G 2SIMs
  • 3,300 mAh
  • ราคา 7,590 บาท

ไม่แนะนำไม่ได้เลยกับ K4 Note เพราะว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมกับสเปคที่โดดเด่น แต่จุดเด่นจริงๆ คือ ราคา โดยมาพร้อมกับระบบเสียงสเตอริโอ Dolby Atmos ที่ทำให้ดูหนังฟังเพลงได้อย่างเต็มอรรถรส พร้อมทั้งยังมีตัวสแกนลายนิ้วมือที่ทำงานได้อย่างรวดเร็ว และแถม NFC มาให้อีกด้วย ทำให้ K4 Note นั้นเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่น่าสนใจมากๆ ในช่วงราคานี้

อ่านต่อ พรีวิวแกะกล่อง Lenovo K4 Note

 

vivo V3

  • Android 5.1 (Lollipop)
  • IPS 5.0” (720 x 1280)
  • Snapdragon 615 Octa-core 1.5GHz
  • RAM 3GB
  • ROM 32GB + microSD สูงสุด 128GB
  • กล้องหลัง 13MP / กล้องหน้า 8MP
  • รองรับ 3G/4G 2SIMs
  • 2,550 mAh
  • ราคา 8,990 บาท

เปิดราคาออกมาชน OPPO F1 เลยก็ว่าได้กล้องหน้ากล้องหลัง RAM / ROM ชนกันเป๊ะๆ ดีไซน์ ขนาด น้ำหนัก ความบาง ก็ใกล้เคียงกัน แต่จุดที่ต่างก็คงเป็นซอฟต์แวร์ในตัวเครื่องและกล้องครับ คงต้องไปลองจับตัวจริงเทียบกันดูว่าชอบกล้องของค่ายไหนและคุ้นมือกับการใช้งานค่ายไหนมากกว่ากัน

 

10,000 – 14,000 บาท ของดีราคามิตรภาพ

เป็นช่วงราคาที่คนน่าจะให้ความสนใจกันมากที่สุด เพราะราคานั้นอยู่ในช่วงที่กำลังดี แต่ได้สมาร์ทโฟนที่มีคุณภาพ แถมบางรุ่นยังจัดเต็มจนเกือบเท่าเรือธงของปีก่อนได้เลย

 

vivo V3Max

  • Android 5.1 (Lollipop)
  • IPS 5.5” (1080 x 1920)
  • Snapdragon 652 Octa-core 1.8GHz
  • RAM 4GB
  • ROM 32GB + microSD สูงสุด 128GB
  • กล้องหลัง 13MP / กล้องหน้า 8MP
  • รองรับ 3G/4G 2SIMs
  • 3,000 mAh
  • ราคา 12,990 บาท

กลายเป็นนิยามใหม่ของมือถือระดับกลางเลยก็ว่าได้ เพราะรอบนี้ vivo จัดเต็มกับสเปคมากๆ โดยมาพร้อมกับชิประดับกลางตัวใหม่ Snapdragon 652 ที่แรงพอๆ กับชิปเรือธงของปีที่แล้วเลยทีเดียว แถมยังให้ RAM มาถึง 4GB และถ้าใครรู้จัก vivo ก็คงจะรู้ว่าระบบเสียงของเค้าไม่น้อยหน้าใครเลยจริงๆ ซึ่งรุ่นนี้ก็ชิประบบเสียง Hi-Fi ตัวเครื่องโลหะก็ให้ความรู้สึก เรียกได้ว่าเป็นรุ่นที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียวครับ

อ่านต่อ รีวิว vivo V3Max 

 

Samsung Galaxy A5 / A7 (2016)

  • Android 5.1 (Lollipop)
  • sAMOLED 5.2” / 5.5” (1080 x 1920)
  • Exynos 7580 Octa-core 1.6GHz
  • RAM 2 / 3GB
  • ROM 16GB + microSD สูงสุด 128GB
  • กล้องหลัง 13MP / กล้องหน้า 5MP
  • รองรับ 3G/4G 2SIMs
  • 2,900 / 3,300 mAh
  • ราคา 13,900 / 15,900 บาท

ถึงแม้ว่าจะมีดราม่า.. แต่ Galaxy A5/A7 (2016) ก็ยังเป็นรุ่นที่น่าสนใจไม่น้อย เพราะวัสดุที่เปลี่ยนมาเป็นกระจกและโลหะ แถมยังมาพร้อมกับตัวสแกนลายนิ้วมือ แบตเตอรี่ก็ถือว่าอึดใช้ได้ พร้อมรองรับ fast charge แต่จะติดก็ตรงไม่มี haptic feedback ทำให้บางคนอาจจะไม่ชอบ แต่โดยรวมแล้วก็เป็นรุ่นที่น่าสนใจไม่ใช่น้อย

ไปอ่านต่อ Galaxy A5/A7 (2016) ส่วน รีวิว Galaxy A5 (2016) ก็มีให้อ่านแล้ว

 

 

Moto X Play

  • Android 6.0 (Marshmallow)
  • IPS 5.5” (1080 x 1920)
  • Snapdragon 615 Octa-core 1.7GHz
  • RAM 2GB
  • ROM 16GB + microSD สูงสุด 128GB
  • กล้องหลัง 21MP / กล้องหน้า 5MP
  • รองรับ 3G/4G 2SIMs
  • 3,630 mAh
  • ราคา 12,990 บาท

เป็นการกลับมาที่หลายๆ คนรอคอยกับ Moto ถึงแม้ว่า Moto X Play รุ่นนี้สเปคอาจจะไม่ได้สูงมาก แต่ก็สามารถใช้งานได้อย่างลื่นไหลไม่แคร์สเปคกันเลยทีเดียว โดยซอฟท์แวร์ที่ติดมากับเครื่องก็ออกแนว Pure Android จ๋า มีเสริมฟีเจอร์ที่ใช้งานได้จริงอย่าง Active Display เข้ามาด้วย แบตเตอรี่ก็สามารถใช้งานได้นานเต็มวันสบายๆ แถมเมื่อซื้อก็ยังมีสิทธิได้รับส่วนลดในการซื้อ Moto 360 อีกด้วย ใครที่รอ Moto อยู่ละก็ Moto X Play ก็ไม่ทำให้ผิดหวังครับ

อ่านต่อ รีวิว Moto X Play

Asus Zenfone 2 Deluxe

  • Android 5.0 (Lollipop)
  • IPS 5.5” (1080 x 1920)
  • Intel Atom Z3580 Quad-core 2.3GHz
  • RAM 4GB
  • ROM 128GB + microSD สูงสุด 128GB
  • กล้องหลัง 13MP / กล้องหน้า 5MP
  • รองรับ 3G/4G 2SIMs
  • 3,000 mAh
  • ราคา 12,990 บาท

ก็ยังคงความน่าสนใจอยู่ ถึงแม้จะเปิดตัวมานานแล้ว โดยรุ่น ZenFone 2 Deluxe มีจุดเด่นที่ให้ ROM มาถึง 128GB แถมยังสามารถเพิ่ม microSD ได้อีก 128GB เหมาะมากๆ กับคนที่เก็บข้อมูลไว้เยอะๆ ไม่ว่าจะเป็นหนังหรือเพลงก็เก็บได้หายห่วงครับ

อ่านต่อ Zenfone 2 หรือไปดู เปรียบเทียบสเปค Zenfone 2 แต่ละรุ่นอย่างละเอียด ถ้ามึนๆ เลือกไม่ถูก

 
15,000 – 19,000 บาท รุ่นขั้นก่อนเป็นเรือธง

ช่วงราคาที่เหล่าแบรนด์จีนจับเอาตัวท็อปมาหย่อนทำราคาดักแบรนด์ดังๆ ปล่อยของกันเพียบ และจะเจอรุ่นที่เคยเด่นแต่ราคาร่วงลงมาให้สามารถจับต้องได้อยู่พอสมควร

Huawei P8 Max

  • Android 5.1 (Lollipop)
  • IPS 6.8” (1080 x 1920)
  • Kirin 935 Octa-core (Quad 2.2GHz + Quad 1.5GHz)
  • RAM 3GB
  • ROM 64GB + microSD สูงสุด 64GB
  • กล้องหลัง 13MP / กล้องหน้า 5MP
  • รองรับ 3G/4G 2SIMs
  • 4,360 mAh
  • ราคา 18,990 บาท

เป็นรุ่นเดียวในการแนะนำครั้งนี้ที่มีหน้าจอใหญ่เกิน 6″ แต่ด้วยตัวเครื่องที่บาง เลยทำให้ไม่รู้สึกใหญ่จนเกินไป แต่เอาใส่กระเป๋ากางเกงก็คงจะไม่ไหว และเมื่อหน้าจอใหญ่ แบตก็ใหญ่ด้วย ซึ่งมาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาด 4,360 mAh ใครที่ไม่อยากซื้อทั้งแท็บเล็ทและสมาร์ทโฟนก็ไม่ต้องกังวลแล้วครับ เพราะซื้อ P8 Max ตัวเดียวก็ได้ทั้งแท็บเล็ทและสมาร์ทโฟนพร้อมกันเลย

 

OPPO F1 Plus

  • Android 5.0 (Lollipop)
  • IPS 5.5” (1080 x 1920)
  • MediaTek MT6755 Octa-core 2.0GHz
  • RAM 4GB
  • ROM 64GB + microSD สูงสุด 128GB
  • กล้องหลัง 13MP / กล้องหน้า 16MP
  • รองรับ 3G/4G 2SIMs
  • 2,850 mAh
  • ราคา 15,990 บาท

ปรมาจารย์สาย Selfie ของแท้ สมกับฉายา Selfie Expert ของแท้ เพราะว่ากล้องหน้านั้นมีความละเอียดสูงถึง 16 ล้านพิกเซล มากกว่ากล้องหลังที่มีความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ซะอีก ถูกใจสาวๆ อย่างแน่นอน ตัวเครื่องใช้วัสดุเป็นโลหะ และมาพร้อมกับตัวสแกนลายนิ้วมือด้านหน้า แถมยังมีสีชมพูอีกด้วย 

อ่านต่อ พรีวิวแกะกล่อง OPPO F1 Plus

 

 

Lenovo VIBE X3

  • Android 5.1 (Lollipop)
  • IPS 5.5” (1080 x 1920)
  • Snapdragon 808 Hexa-core 1.2GHz
  • RAM 3GB
  • ROM 32GB + microSD สูงสุด 128GB
  • กล้องหลัง 21MP / กล้องหน้า 8MP
  • รองรับ 3G/4G 2SIMs
  • 3,600 mAh
  • ราคา 15,990 บาท

เป็นรุ่นที่ตอบโจทย์สำหรับคนชอบดูหนังฟังเพลง ด้วยลำโพงคู่หน้า Dolby Atmos และยังมีฟีเจอร์ที่เปิดใช้งานโหมด VR ได้อีกด้วย การใช้งานทั่วไปนั้นลื่นไหล ไม่มีติดขัดอะไร แถมยังมาพร้อมกับตัวสแกนลายนิ้วมือด้านหลังที่ทำงานได้อย่างรวดเร็ว แตะปุ๊บ ติดปั๊บ 

อ่านต่อ รีวิว Lenovo VIBE X3

 

Huawei P9

  • Android 6.0 (Marshmallow)
  • IPS 5.2” (1080 x 1920)
  • Kirin 955 Octa-core
  • RAM 3GB
  • ROM 32GB + microSD สูงสุด 128GB
  • กล้องหลัง 12MP / กล้องหน้า 8MP
  • รองรับ 3G/4G 2SIMs
  • 3,400 mAh
  • ราคา 16,990 บาท

เรียกว่าเป็นตัวที่ได้รับความสนใจสูงมากหลังจากเปิดตัวมา ด้วยราคาที่ไม่แพงอย่างที่คิด และสเปคที่จัดมาให้ค่อนข้างเต็ม มีเทคโนโลยีใหม่ในเรื่องกล้องที่ร่วมกับ Leica ทำขึ้นมา นั่นคือกล้องสองตัวที่มีเซนเซอร์รับภาพเป็น monochrome + RGB ทำให้เก็บรายละเอียดของภาพได้ดียิ่งขึ้น การใช้งานทั่วไปก็ลื่นไหลดี ตอนนี้ทางเรายังไม่มีรีวิวแบบเต็มๆ ไปดู preview Huawei P9 ไปพลางๆก่อนหรือไปดูเปรียบเทียบภาพที่ได้จากกล้อง Huawei P9 กับรุ่นเรือธงอื่นๆไปก่อนนะ

 

 

19,000 บาทขึ้นไป สเปคจัดเต็ม นวัตกรรมมาครบ เพราะนี่คือเรือธง
เรือธงช่วงนี้มีเปิดตัวมาไม่เยอะมาก แต่ตัวเก่าๆ ก็ยังน่าสนใจอยู่ แถมราคาก็เริ่มมาไม่แรงอย่างที่คิดอีกแล้ว ส่วนสเปคก็ยังคงจัดเต็ม พร้อมกับนวัตกรรมใหม่ๆ มาให้น่าลองเล่นลองใช้กันเหมือนเดิม 

Samsung Galaxy Note 5

  • Android 5.1 (Lollipop)
  • Exynos 7420 Octa-core (Quad 2.1Ghz + Quad 1.5 GHz)
  • Ram 4GB
  • Mem 32 /64GB
  • sAMOLED 5.7” (2560×1440)  
  • กล้องหลัง 16MP/หน้า 5MP
  • รองรับ 3G/4G 1sim
  • 3,000 mAh
  • ราคา 22,900 / 26,900 บาท

Galaxy Note 5 ก็ยังถือว่าเป็นรุ่นที่น่าสนใจอยู่ไม่ใช่น้อย ถึงแม้ว่าจะเป็นรุ่นที่เปิดตัวมานานกว่าเจ้าอื่นๆ แต่การใช้งานก็ไม่ได้น้อยหน้าใคร สามารถใช้ได้อย่างลื่นไหล และด้วยฟีเจอร์ที่โดดเด่นกว่ารุ่นอื่นๆ อย่างปากกา S-Pen ที่เขียนได้ติดมือ ตรวจวัดการลงน้ำหนักของลายเส้นได้ ทำให้ Galaxy Note 5 ก็ยังคงเป็นรุ่นที่ต้องแนะนำและน่าใช้อยู่

อ่านต่อ ข่าวและข้อมูลการใช้งาน Galaxy Note 5 

Samsung Galaxy S7 / S7 edge

  • Android 6.0 (Marshmallow)
  • sAMOLED 5.1” (1440 x 2560) / 5.5” (1440 x 2560)
  • Exynos 8890 Octa-core 2.3GHz
  • RAM 4GB
  • ROM 32GB + microSD สูงสุด 200GB
  • กล้องหลัง 12MP / กล้องหน้า 5MP
  • รองรับ 3G/4G 2SIMs
  • 3,000 mAh / 3,600 mAh
  • ราคา 23,900 บาท / 26,900 บาท

ไม่แนะนำไม่ได้กับ Galaxy S7 และ S7 edge สองเรือธงที่โดดเด่นที่สุดในตอนนี้ โดยตัวเครื่องของทั้งคู่นั้นใช้เป็นวัสดุที่ผสมผสานกันระหว่างกระจกและโลหะ แถมยังนำฟีเจอร์ที่ขาดหายไปจากรุ่นก่อนกลับมา ไม่ว่าจะเป็นการรองรับ microSD การ์ด และการกันน้ำ ส่วนกล้องก็เป็นจุดเด่นของทั้งสองรุ่นนี้ด้วย เพราะว่าสามารถถ่ายภาพออกมาได้สวยทั้งตอนกลางวันและตอนกลางคืน ส่วน S7 edge ก็ยังมีการพัฒนาฟีเจอร์ต่างๆ ให้ใช้งานกับขอบโค้งได้ดีขึ้นอีกด้วย

อ่านต่อ พรีวิว และ รีวิว ของ Galaxy S7/S7 edge

 

Sony Xperia Z5 / Z5 Premium

  • Android 5.1.1 (Lollipop)
  • IPS 5.2” (1080 x 1920) / 5.5” (2160 x 3840)
  • Snapdragon 810 Octa-core (Quad 2.0GHz + Quad 1.5GHz)
  • RAM 3GB
  • ROM 32GB + microSD สูงสุด 200GB
  • กล้องหลัง 23MP / กล้องหน้า 5MP
  • รองรับ 3G/4G
  • 2,900 / 3,430 mAh
  • ราคา 21,990 / 24,990 บาท

เปิดตัวมาพร้อมกับเสียงตอบรับที่ดี โดยตัวเครื่องยังคงยึดความเป็นเอกลักษณ์ของ Sony ไว้อย่างเหนียวแน่น แต่ดูดีมากขึ้น พร้อมทั้งยังใส่สแกนลายนิ้วมือตางปุ่ม Power ทำให้พอวางนิ้วแล้วปลดล็อคได้อย่างรวดเร็ว แถมยังกันน้ำอีกด้วย ส่วน Z5 Premium นั้นเป็นรุ่นแรกที่มาพร้อมกับหน้าจอ 4K และล่าสุดก็ได้ทำการเปิดตัวสีชมพูมาเอาใจสาวๆ แล้วด้วย

ลองไปอ่านข่าวและสรุปเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Xperia Z5 Series นี้ต่อได้ มีเรื่องน่าสนใจอีกเพียบ

Huawei Mate 8

  • Android 6.0 (Marshmallow)
  • IPS 6.0” (1080 x 1920)
  • Kirin 950 Octa-core (Quad 2.3GHz + Quad 1.8GHz)
  • RAM 4GB
  • ROM 64GB + microSD สูงสุด 128GB
  • กล้องหลัง 16MP / กล้องหน้า 8MP
  • รองรับ 3G/4G 2SIMs
  • 4,000 mAh
  • ราคา 19,990 บาท

หลายๆ คนเห็น Huawei Mate 8 แล้วชื่นชอบตั้งแต่ตอนเปิดตัวแล้ว และตอนนี้ทาง Huawei ก็ได้ปรับลดราคาลงมาให้น่าสนใจมากขึ้นกว่าเดิม กล้องถ่ายภาพนั้นทำงานได้อย่างรวดเร็วด้วยระบบ Hybrid Autofocus กดปุ๊บถ่ายปั๊บ การใช้งานแน่นอนว่าลื่นไหล ไม่มีสะดุดแต่อย่างใด แบตเตอรี่ก็ทั้งใหญ่ทั้งอึด ไม่ต้องกลัวว่าจะหมดกันง่ายๆ ครับ

อ่านรีวิวประกอบการตัดสินใจได้ที่ รีวิว Huawei Mate 8

LG G5 SE

  • Android 6.0 (Marshmallow)
  • IPS 5.3” (1440 x 2560)
  • Snapdragon 652 Octa-core 1.8GHz
  • RAM 3GB
  • ROM 32GB + microSD สูงสุด 200GB
  • กล้องหลัง 16MP + 8MP / กล้องหน้า 8MP
  • รองรับ 3G/4G 2SIMs
  • 2,800 mAh
  • ราคา 21,900 บาท

ถึงแม้ว่ารุ่นที่นำเข้ามาจำหน่ายในเมืองไทยจะเป็นรุ่น SE ที่ใช้ชิป Snapdragon 652 แต่ก็ยังมีจุดเด่นที่แหวกแนวกว่าชาวบ้านเค้าก็คือ การที่เป็นสมาร์ทโฟน modular ตัวแรกของโลก โดยที่เราสามารถจะถอดเปลี่ยน module ด้านล่างได้ แถมยังมาพร้อมกับกล้องตัวที่สองที่เป็นเลนส์กว้าง (กว้างจริงๆ) ถึง 135 องศา ทำให้สามารถเก็บภาพวิวได้แบบอลังการงานสร้างสุดๆ 

อ่านต่อ พรีวิว LG G5 แต่ว่าเป็นรุ่น Snapdragon 820 นะ

 
 
และนี่คือรุ่นแนะนำทั้งหมดจากทุกช่วงราคานะครับ ใครมีอยากจะเสริมตัวไหนสามารถมาบอกเพิ่มเติมหรือชี้เป้ากันได้ใน Comment เลยครับ 😀