ย้อนไปเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2007 ชายที่ชื่อ Steve Jobs ได้นำทีม Apple เปิดตัวผลิตภัณฑ์ชิ้นน้อยๆที่พลิกโฉมทั้งอุตสาหกรรมโทรศัพท์มือถือไปตลอดกาลอย่าง “iPhone” จนกระทั่งเวลาผ่านไปเกือบ 12 ปีเต็มๆ เราได้เห็นพัฒนาการในทุกด้านที่เรียกได้ว่ามาไกลมากๆ หากเทียบกับ iPhone ในวันแรกที่ทุกคนรู้จัก อย่างไรก็ตาม ณ ตอนนี้ดูเหมือนว่ายักษ์ใหญ่แห่ง Cupertino ได้หันมาเอาดีด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์เสียมากกว่าการนำเสนอนวัตกรรมให้แก่โลกใบนี้อย่างที่เคยเป็น…
ล่าสุด คำครหาที่ว่านี้ก็ดูเหมือนจะกลายเป็นที่ประจักษ์ให้โลกได้เห็นชัดเจนมากขึ้นแล้วจาก Magazine ชื่อดังอย่าง the Fast Company ที่ทำหน้าที่จัดอันดับโลก 50 อันดับ ให้แก่องค์กรระดับนานาชาติที่นำเสนอนวัตกรรมให้แก่โลกใบนี้ โดยพวกเขาจะทำการจัดอันดับจากผลงานของแต่ละองค์กรตลอดปีที่ผ่านมา Apple เองนั้นยังอยู่ในอันดับที่ 1 สำหรับการจัดอันดับปี 2018 จากผลงานการนำเสนอ AirPods และ iPhone X ในปีก่อนหน้านั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง iPhone X ที่นำเสนอดีไซน์ใหม่หมดอย่าง “The Notch หรือ ติ่งหน้าจอ” และรวมถึง “FaceID หรือ ระบบแสกนใบหน้าที่มีความแม่นยำและปลอดภัยสูงสุด” เข้าสู่อุตสาหกรรมนี้ ถึงแม้ว่าส่วนหนึ่งของผู้บริโภคอย่างเราๆ อาจจะไม่ได้ยอมรับว่ามันคือสิ่งที่สวยงามสักเท่าไหร่นัก แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าสุดท้ายแล้ว Apple ก็ยังเป็นหนึ่งในผู้นำเทรนด์ เพราะเราก็ได้พบกับสมาร์ทโฟนนับร้อยรุ่นที่พร้อมใจกันจัดติ่งหน้าจอและระบบปลดล็อคด้วยใบหน้ามาให้เราเลือกสรรกันในที่สุดนั่นเอง
ปี 2018 ที่เพิ่งผ่านพ้นไป Apple ดูเหมือนจะเน้นไปที่การเพิ่มประสิทธิภาพ ความสเถียร และพัฒนาการเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้นสำหรับซีรี่ย์ iPhone XS แสดงได้ให้เห็นถึงการไร้ซึ่งนวัตกรรมที่ชื่อชั้นอย่าง Apple ได้สร้างเอาไว้มาโดยตลอด ทำให้ Apple ตกไปอยู่ในอันดับที่ 17 ของโลกสำหรับการเป็นผู้นำด้านนวัตกรรม จากการจัดอันดับประจำปี 2019 โดยทาง The Fast Company Magazine ได้เลือกเอาชิปประมวลผล A12 Bionic ขึ้นมาเป็นผลิตภัณฑ์ที่ Innovative ที่สุดสำหรับ Apple ในปี 2018 ซึ่งก็ดูไม่ได้พิเศษเท่าไหร่นักถึงแม้ว่าจะเป็นชิปที่ทรงพลังมากนับจนถึงตอนนี้ก็ตาม อันที่จริงเซ็นเซอร์ ECG (Electrocardiogram) ที่ถูกนำเสนอเอาไว้ใน Apple Watch Series 4 นั้นดูน่าดึงดูดและเป็นนวัตกรรมสำหรับผู้บริโภคด้านสุขภาพมากกว่าเสียอีก แต่ก็ไม่เพียงพอที่จะถูกให้คะแนนว่าเป็นที่สุดจาก Apple ในปี 2018 อยู่ดี
โดยในอันดับต้นๆ ขององค์กรที่เป็นที่สุดทางด้านนวัตกรรมนั้น แชมป์ตกเป็นของ “Meituan Dianping” ที่ชื่ออาจไม่คุ้นหูเท่าไหร่ แต่ถ้าบอกว่าเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มแอพพลิเคชั่นคล้ายๆ Grab บ้านเรา จากยักษ์ใหญ่อย่าง Tencent Group ล่ะก็เราคงไม่ต้องแปลกใจกันมากนัก และที่น่าสนใจไม่แพ้กันก็คืออันดับ 2 นั้นตกเป็นของ Grab ที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดีนี่แหละ! สำหรับอันดับ 3 นั้นมาค่อนข้างแปลก โดย NBA ได้ไปครอง (ใช่แล้วลีก Basketball อันดับ 1 ของโลกจากสหรัฐอเมริกานั่นแหละ) ผลพวงมาจากการก้าวเข้าสู่อุตสาหกรรม Esports และนำเสนอระบบสตรีมมิ่งออนไลน์เป็นของตัวเอง นอกจากนั้นแล้ว 50 อันดับโลกเหล่านี้ก็เต็มไปด้วย Startup และ องค์กรชื่อดังด้านเทคโนโลยีทั่วโลก ตามไปดูทั้ง 50 อันดับได้จาก The Fast Company
ดูเหมือนว่า Apple จะสูญเสียทิศทางอันชัดเจนในด้านนวัตกรรมและการเป็นผู้กำหนดเทรนด์ของโลกเทคโนโลยีใบนี้ไปพอสมควร โดยมีคู่แข่งจากจีนแผ่นดินใหญ่ที่พร้อมจะพุ่งชนอย่าง Huawei, Xiaomi พร้อมกับอีกหลายๆแบรนด์ และนอกจากนั้นแล้ว คู่แข่งตัวฉกาจอย่าง Samsung ก็ดูจะจัดใหญ่ จัดเต็มกันต่อเนื่องไปไม่หยุดหย่อน เราคงต้องติดตามกันต่อไปอย่างใกล้ชิดว่า Apple จะหันมาเอาดีด้านคอนเท้นท์และบริการเป็นหลักแทนอย่างที่มีแนวโน้มมา หรือ จะกลับมาพลิกเกมส์ของผลิตภัณฑ์ที่เต็มไปด้วยนวัตกรรมได้อีกครั้งในช่วงหลังของปี 2019 นี้…
ที่มา: Gizchina
ตั้งแต่จ็อบจากไป แล้วติ๋มขึ้นมาแทนไม่มีอะไรให้ว้าวเลย
ต้องดู list 16 อันดับแรก จะพบว่า มันไม่เกี่ยวกับการสร้างโทรศัพท์เลย หมายความว่าในบรรดาโทรศัพท์ทั้งหมด Apple ยังเป็นผู้นำ innovation อยู่ดี
ให้คะแนนด้านนวัตกรรม tencend มาอันดับ 1 เพราะใช้
Wechat เชื่อมต่อเชื่อมต่อทุกสิ่งอย่างในจีน ส่วน Apple
ยังทำแค่ ecosystem เชื่อมทุกสิ่งอย่างในบ้าน
คนละสเกลกันมั้งครับ
รอดู XI
อาจจะมาแนวติ๊กต่อกแบบ Intel รุ่นนวัตกรรมใหม่ กับรุ่นแก้ไขปรับปรุงเพื่อความเสถียร
ต้องรอดูรุ่นหน้าต่อไป
แต่อะไรที่ออกมาว้าวในปี 2018 ของ apple สำหรับผมมันยังไม่ตอบโจทย์การใช้งานจริงเท่าไหร่
ในการใช้งานจริง ชิปใหม่ที่ไม่ว้าวในปี 2018 กลับมีประโยชน์กว่านวัตกรรม ติ่ง และ แสกนหน้านะ
แน่นอนครับ คงตายไปกับสตี้ฟจ้อบ หมดแล้วรับ
ถ้าจะร่วงซะขนาดนี้