รัฐบาลจีนร่างกฎหมายใหม่ที่ทำเอาบริษัทนักพัฒนาในจีนปวดหัวกันอีกครั้ง โดยในรอบนี้บังคับให้นักพัฒนาเกมจำกัดการซื้อไอเทมในเกม รวมถึงจำกัดปริมาณการเติมเงินในเกม ซึ่งหลังจากมีการประกาศร่างกฎหมายออกมา ส่งผลให้มูลค่าของบริษัทเกมยักษ์ใหญ่อย่าง Tencent และ NetEase หายไปกว่า 1 หมื่นล้านเหรียญฯ ภายในวันเดียว

โดยร่างกฎหมายใหม่ที่ว่านี้ รัฐบาลจีนระบุว่ามีไว้เพื่อส่งเสริมการเติบโตในอุตสาหกรรมเกมให้เป็นไปในทางที่ดี ซึ่งในร่างกฎหมายก็มีข้อจำกัดเพิ่มเข้ามาใหม่ และส่งผลกระทบต่อรายได้ของบริษัทเกมในจีนโดยตรง เช่น

  • ห้ามมีระบบ Daily Login Bonus หรือแจกไอเทมเมื่อล็อกอินประจำวันในเกม แต่สามารถเปลี่ยนเป็นระบบเควสประจำวันได้
  • ห้ามมีโปรโมชั่นโบนัสเติมเงินครั้งแรกภายในเกม
  • จำกัดปริมาณเงินในการเติมเกม หากมีการเติมเงินเป็นจำนวนมาก ต้องมีการขึ้นข้อความแจ้งเตือนถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม
  • ห้ามมีการประมูลซื้อขาย หรือเก็งกำไรไอเทมภายในเกม ในราคาที่สูงจนเกินไป

ซึ่งหลังจากมีการประกาศร่างกฎหมายใหม่ออกมา หุ้นของ Tencent ได้ตกลงกว่า 16.8% ในตลาดฮ่องกง เช่นเดียวกับ NetEase ที่ตกลงกว่า 28% ทำให้มูลค่าสูญหายรวมกว่า 1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ

เมื่อเกิดผลกระทบตามมาอย่างใหญ่หลวง ทางการจีนก็ได้ออกมาเผยว่า จะทำการศึกษา และฟังความเห็นของสาธารณชนอย่างจริงจังเพื่อพัฒนาให้ตัวร่างกฎหมายให้ดีที่สุด โดยจะเปิดให้บุคคลทั่วไปได้เสนอความคิดเห็นภายในวันที่ 22 มกราคม 2024

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่รัฐบาลจีนเคยออกกฎที่ส่งผลกระทบต่อวงการเกมในจีน ย้อนกลับไปเมื่อปี 2021 ก็เคยออกกฎจำกัดเวลาการเล่นเกมให้เหลือเพียง 3 ชั่วโมงต่อวัน สำหรับเยาวชนที่อายุไม่ถึง 18 ปี รวมถึงหยุดออกใบอนุญาตวางจำหน่ายให้กับเกมออนไลน์ใหม่ ๆ จนวงการเกมต้องหยุดชะงักไปถึง 8 เดือน

นักวิเคราะห์จาก Omidia อย่าง Cui Chenyu ยังระบุด้วยว่า หากร่างกฎหมายที่ว่านี้ถูกนำมาใช้งานอย่างจริงจัง จะส่งผลกระทบครั้งใหญ่ต่อตลาดเกมออนไลน์ในจีน เพราะระบบในเกมที่สั่งแบน เป็นระบบที่แทบทุกเกมออนไลน์ในยุคนี้ใช้เป็นเครื่องมือทางการตลาดนั่นเอง

ที่มา: Reuters, Forbes