หลังออกนโยบายควบคุมการเล่นเกมของเยาวชน รวมถึงกุมเข้มธุรกิจกลุ่มเกมให้พัฒนาสื่อตามที่รัฐกำหนดไว้อย่างเคร่งครัด ในที่สุดทางการจีนก็ได้ออกมาประกาศ ‘ชัยชนะ’ เหนือปัญหาเยาวชนติดเกมแล้ว โดยระบุว่าเด็กจีนราว 70% นั้นปฏิบัติตามข้อบังคับ ไม่เล่นเกมเกินเวลา จึงถือว่าเป้าหมายของโครงการสำเร็จเสร็จสิ้นตามเป้าประสงค์

จีนเป็นประเทศที่เข้มงวดในเรื่องกิจกรรมบันเทิงภายในประเทศ และแต่ก่อนก็มีท่าทีไม่เห็นด้วยกับอุตสาหกรรมเกม โดยมองว่าเป็นการมอมเมาเยาวชนภายในประเทศ ทำให้ติดเกมจนเสียการเรียนและไม่ได้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ถึงขั้นเปรียบเปรยเทียบเกมว่าเป็นเหมือน ‘ฝิ่นมอมเมาเยาวชน’ เลยด้วย พร้อมออกกฎหมายกำหนดให้เด็กสามารถเล่นเกมได้ 3 ชั่วโมงต่อสัปดาห์เท่านั้น แถมยังบังคับห้ามเล่นเกมในวันธรรมดา

แต่หลังจากที่ดำเนินงานตามกฎหมายใหม่มานานหลายปี ในที่สุดจีนก็พูดได้เต็มปากว่า สามารถจัดการปัญหาเด็กติดเกมได้แล้ว พร้อมทั้งยังออกมาชื่นชมเหล่าผู้พัฒนาเกม ที่สร้างระบบยืนยันตัวตนผู้เล่น และปรับเนื้อหาในเกมให้เป็นไปตามความต้องการของรัฐด้วย

ในรายงานยังมีพูดถึงความยิ่งใหญ่ของอุตสาหกรรมเกมของจีน ว่านอกจากจะเติบโตได้อย่างดีในประเทศแล้ว ยังสามารถไปกอบโกยเม็ดเงินมหาศาลจากต่างประเทศได้อีก ยิ่งเป็นการเสริมความมั่งคั่งให้กับจีน

ท่าทีมองวงการเกมในแง่บวกแบบนี้ ได้แพร่ขยายไปสู่ช่องทางอื่นด้วย อย่างสื่อหลักของจีน China Daily ก็ได้รายงานเกี่ยวกับเกมว่าเป็นอุตสาหกรรมที่สร้างเทคโนโลยีดี ๆ ให้เกิดขึ้นมากมาย ไม่ได้เกิดมาแค่สร้างความบันเทิงเท่านั้น จึงควรที่จะส่งเสริมกันต่อไป

แต่ในรายงานก็ไม่วายระบุถึงสิ่งมอมเมาอย่างอื่นที่เด็กอาจหลงไปติดกับดักได้ คือพวก ‘วิดีโอสั้น’ ตามโลกออนไลน์นั่นเอง แต่แพลตฟอร์มพวกนั้นก็มีการเซนเซอร์และการควบคุมจากรัฐบาลหนักอยู่แล้ว เค้าจึงไม่ค่อยเป็นกังวลอะไรกันมากครับ

 

ที่มา : voicetv, theregisterscmp