เคยเจอบ้างมั้ยเล่นๆ Facebook ไถดูหน้า feed ไปเรื่อยๆ ดันเจอเข้ากับโฆษณาสินค้าที่เราพึ่งจะพูดคุยถึงเรื่องนั้นไปหยกๆ แล้วก็ได้แต่คิดว่า เอ…ทำไมมันรู้ใจเราจังเลยหว่า? ถ้าเคยล่ะก็.. คุณไม่ได้เป็นคนเดียว เพราะมีหลายฝ่ายที่แอบสงสัยอยู่ว่าแอป Facebook ในมือถืออาจกำลังดักฟังบทสนทนาของเราอยู่เบื้องหลังก็ได้

ล่าสุดมีรายงานข่าวมาจากประเทศอังกฤษว่านักข่าวสาว Tyler Mears จากสำนักข่าว Wales Online สงสัยว่าตัวเองจะถูกดักฟังจากแอป Facebook ในมือถือ หลังจากเลื่อนหน้า feed ไปเจอเข้ากับโฆษณาสินค้าที่เธอพึ่งจะคุยกับเพื่อนๆ ไปเมื่อวาน และดูไม่น่าจะเป็นความบังเอิญซะด้วย เพราะสินค้าดังกล่าวเป็นของแปลกๆ ที่ไม่น่าจะเอามาโฆษณาให้คนทั่วไปได้เห็น

Tyler Mears

โดยเรื่องมันเริ่มจาก Tyler คุยกับเพื่อนสาวของเธอถึงเรื่องการฉี่ของผู้หญิง ว่าถ้าเราฉี่ได้ง่ายๆ แบบผู้ชายมันก็คงจะดี แล้วเธอก็พูดถึงเรื่องอุปกรณ์ที่ช่วยให้ผู้หญิงยืนฉี่ได้ขึ้นมา แล้วก็หัวเราะคิกคักกันไปตามเรื่อง แต่พอหลังจากบทสนทนาจบไปได้ 1 วัน เธอก็เปิดแอป Facebook เล่นตามปกติ ปรากฎว่าเลื่อนไปเจอเข้ากับโฆษณาอุปกรณ์ที่ช่วยให้ผู้หญิงยืนฉี่ได้เฉยเลย (มันก็ไม่น่าจะเป็นสินค้าที่คนทั่วไปตามหา จนต้องเอามาโฆษณาบน Facebook จริงๆ นั่นแหละ)

อุปกรณ์ยืนฉี่

ถ้าจะคิดในแง่ดีว่ามันเป็นความบังเอิญรึเปล่า? มันก็ยิ่งแปลกไปอีก เมื่อเพื่อของ Tyler ได้เอาเรื่องอุปกรณ์ยืนฉี่ไปพูดคุยกับเพื่อนสาวอีกคนของเธอ และหลังจากนั้น 1 วัน ทั้งคู่ก็เจอกับโฆษณาอุปกรณ์ดังกล่าวในหน้า feed ของแอป Facebook ด้วยเหมือนกัน โดยทั้งหมดที่เจอโฆษณานี้บอกว่าไม่เคยเข้าไปค้นหาในเน็ตเลยด้วยซ้ำ แค่พูดคุยกันขำๆ เท่านั้นเอง

ยังไม่หมด.. ตอนแรก Tyler ก็ (พยายาม) คิดว่ามันอาจจะเป็นเรื่องบังเอิญก็ได้ แต่หลังจากนั้นไม่กี่วัน มีเพื่อนของเธอส่งคลิปวิดีโอตำรวจโดนผู้ร้ายใช้มีดแทงแต่ไม่เป็นอะไร เธอก็เลยพูดกับเพื่อนว่า “โชคดีนะที่ตำรวจคนนั้นใส่ชุดเกราะกันมีดเอาไว้…ไม่งั้นต้องเจ็บหนักแน่” เวลาผ่านไปจนถึงเที่ยงคืน เธอก็หยิบมือถือขึ้นมาเปิด Facebook เล่น ทายซิว่าเธอเจอโฆษณาอะไร?

ใช่เลย.. อยู่ๆ ก็มีโฆษณาเสื้อเกราะกันมีดโผล่ขึ้นมาแบบ (โคตร) บังเอิญอีกแล้ว ทำให้ตอนนี้เธอเริ่มสติแตกจริงๆ ว่ากำลังโดนแอป Facebook ดักฟังบทสนทนาของเธออยู่แน่นอน เพราะมันไม่น่าจะบังเอิญอะไรได้ขนาดนี้ (ถ้าเจอโฆษณาเครื่องสำอาง เสื้อผ้า เครื่องใช้ไฟฟ้า ก็ว่าไปอย่าง..) เธอไม่เคยค้นหาเรื่องเกราะกันมีดเลย แถมคลิปวิดีโอที่ดูก็ไม่มีการพูดถึงเรื่องเสื้อเกราะอะไรเลยด้วย

ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีหลายๆ คนที่เคยเจอเหตุการณ์ Facebook รู้ใจเราได้แบบแปลกๆ เกิดขึ้นมากมายอย่างเช่นคู่รักจากอเมริกาได้ตกลงหมั้นกันเงียบๆ รู้กันแค่ 2 คน แบบทั้งญาติทั้งเพื่อนไม่มีใครรู้เลย แต่วันถัดมากลับมีโฆษณาบริการจัดงานแต่งโผล่ขึ้นมาบนหน้า feed ซะนี่ โดยทางว่าที่เจ้าบ่าวบอกว่ามันเป็นการขอหมั้นที่เร่งรีบจนเค้าไม่ได้มีเวลาจะค้นหาข้อมูลอะไรในเน็ตด้วยซ้ำ

หรือจะเป็นเรื่องของหญิงสาวชาวอังกฤษคนนึงพึ่งลาออกจากงาน และนั่งคุยกับเพื่อนว่าอาจจะไปสมัครงานที่ Starbuck เพราะจะได้กินกาแฟฟรี และหลังจากนั้นไม่นานเธอก็พบโฆษณาประกาศรับสมัครงานของ Starbuck ในกรุงลอนดอนอยู่บนหน้า feed อย่างสุดจะพอเหมาะพอเจาะ

และอีกสักเรื่อง อันนี้จากพวกเราเองที่เจอโฆษณาหลังจากคุยเรื่องเสาเข็มแบบไมโครไพล์ คือเจาะจงแบบสุดๆ ไม่เคยค้นหาใน Google หรือคุยใน Messenger มาก่อน และก่อนหน้านี้ไม่เคยจะพูดถึงเรื่องการก่อสร้างเลย มีการเอ่ยถึงเพียงครั้งเดียวแค่ 2-3 นาที เมื่อตอนบ่ายๆ เย็นก็โผล่มาเป็นโฆษณาใน facebook เรียบร้อย

Facebook แอบฟังเราคุยกัน

ซึ่งจริงๆ แล้วเรื่องราว แบบนี้มีให้เห็นมาได้ประมาณ 2 – 3ปี แล้ว และก็ไม่ใช่แค่ในต่างประเทศเท่านั้น เพราะในบ้านเราก็เคยมีคนมาโพสท์ลงโซเชียลหรือตามเว็บบอร์ดต่างๆ อยู่หลายราย ว่ารู้สึกเหมือนโดนแอป Facebook ดักฟังอยู่ว่าเรากำลังพูดคุยเรื่องอะไร และจะจับคีย์เวิร์ดเหล่านั้นให้ตรงกับโฆษณาเพื่อเอามาแปะบนหน้า feed ของเรา แต่ถึงยังไงก็ไม่มีใครรู้อยู่ดีว่า Facebook ดักฟังเสียงจากผู้ใช้จริงรึเปล่า

เนื่องจากทาง Facebook ก็ได้ออกมาแก้ต่างอยู่เรื่อยๆ ว่าไม่เคยทำแบบนั้นเลย ทั้งเหตุผลที่ว่าการดักฟังผู้ใช้งานทั่วโลกต้องใช้ต้นทุนที่สูงมาก และไม่คุ้มค่ากับเงินที่ได้จากโฆษณาแน่นอน แถม Facebook ยังอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ ซึ่งการดักฟังลูกค้าจะถือว่าเป็นการละเมิดสิทธิอย่างหนักและมีโอกาสโดนฟ้องร้องได้สูง

นอกจากนี้ Facebook ยังได้ใส่ฟีเจอร์ที่จะเข้ามาช่วยหาสาเหตุว่าทำไมโฆษณานี้ถึงได้เด้งขึ้นมาให้เราได้เห็นกันด้วยการกดไปที่ปุ่มเมนู (3 จุด) ที่มุมขวาบนของโพสท์โฆษณาดังกล่าว แล้วเลือกที่ Why am I seeing this ad? (ทำไมฉันจึงเห็นโฆษณานี้?) จากนั้นก็จะมีคำอธิบายขึ้นมาว่าโฆษณาที่เราเห็นเนี่ย มันโผล่ขึ้นมาเพราะเราอาจจะเคยเข้าไปดูโพสท์ หรือโฆษณาอื่นๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกัน (แต่จากตัวอย่างที่ยกมามันก็ดูไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับโฆษณาอื่นๆ ได้เลย อุปกรณ์ยืนฉี่งี้ เกราะกันมีดงี้ เสาไมโครไพล์งี้..)

เคยมีคนวงในของ Facebook ให้ข้อมูลว่าตัวแอปอาจจะไม่ได้ทำการดักฟังเอง ด้วยความเสี่ยงด้านกฎหมายที่สูง ข้อมูลเหล่านี้ Facebook จึงไปขอรับจากแอปตัวอื่นที่อยู่ในเครื่องเราทำการดักฟังแทน และประมวลผลส่งให้กับ Facebook อีกที เพื่อค่าตอบแทนในการส่งมอบข้อมูลการโฆษณาเหล่านี้ ซึ่งถ้าเป็นเรื่องจริง Facebook ก็น่าจะเป็นคนผิดด้วยกันกับแอปนั้น เพราะน่าจะเข้าข่ายรับซื้อของโจรนั่นเอง

สุดท้ายเราก็ยังไม่สามารถหาเหตุผลหรือหลักฐานแบบเป๊ะๆ ตราบใดที่ตัว Facebook ยังไม่ออกมายอมรับว่าเหตุใดถึงได้ข้อมูลเหล่านี้มาด้วยตัวเอง แต่ถ้าใครที่ไม่ไว้ใจเจ้าแอป Facebook นี้จริงๆ ว่ามันจะแอบฟังอะไรเราอยู่รึเปล่า ก็สามารถเข้าไปกดปิดการอนุญาต (permission) ให้เข้าถึงไมโครโฟนมือถือของเราได้ โดยปัจจุบันทั้ง Android และ iOS ต่างก็เปิดให้ตั้งค่าส่วนนี้ได้ทั้งคู่แล้ว หรือถ้าเกิดขี้เกียจจะวุ่นวาย และไม่ได้ชอบเล่น Facebook เป็นการเดิม จะลบทิ้งออกไปเลยก็ไม่ผิดนัก เพราะปัจจุบันมีกระแส #deleteFacebook เชิญชวนให้คนลบบัญชีของ facebook ทิ้งไปเลย จากปัญหาการรับผิดชอบในข้อมูลผู้ใช้มีปัญหามาตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา และตัวแอปเองก็แสดงเนื้อหาได้น่าสนใจน้อยลงกว่าเดิมอีกด้วย

ก็ถือว่าเป็นอีกข่าวที่ช่วยยืนยันและรวมคนที่สงสัยว่า Facebook แอบฟังเราอยู่ ว่าแต่ใครที่เคยมีประสบการณ์แบบนี้กับ Facebook ก็อย่าลืมมาเล่าให้ฟังบ้างนะ

https://droidsans.com/tech-worlds-on-surveillance-capitalism/

ที่มา : The Sun, Mirror