ปกติแล้วเวลาเราเข้าเว็บไซต์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเพื่อหาข้อมูล หรือเข้าไปดูนู่นดูนี่เพื่อความบันเทิง Google ก็จะตามเก็บประวัติของเว็บที่เราเข้าไปเยี่ยมชม จากนั้นก็จะนำข้อมูลเหล่านั้นไปขายให้กับเหล่าผู้โฆษณา (Advertiser) เพื่อที่จะได้ยิงโฆษณาสินค้าหรือบริการซึ่งอาจมีความเกี่ยวข้องกับสิ่งที่เราสนใจโดยวิเคราะห์จากเว็บที่เราเข้าไปดูนั่นเอง…แต่ล่าสุดไม่รู้ว่า Google นึกอะไรขึ้นมา เพราะได้ประกาศว่ากำลังจะเลิกติดตามประวัติการเข้าเว็บของผู้ใช้งานแบบรายบุคคลเพื่อการโฆษณาซะแล้ว
จากประเด็นร้อนแรงที่เกิดขึ้นในกระทู้บน Pantip กับข้อสงสัยที่ว่า Shopee แอปขโมยรูปในเครื่องหรือป่าว เพราะมีผู้ใช้พบว่ามีไฟล์รูปอยู่ในโฟลเดอร์ของ Shopee ทั้งๆที่ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องแต่อย่างใดเลย จึงทำให้เกิดคำถามต่างๆนานามากมาย จนกระทั่งทาง Shopee ชี้แจง รวมไปถึงเพจ nuuneoi.com ได้อธิบายถึงปัญหาที่เกิดขึ้นจากคำตอบของนักพัฒนาแอปจาก Shopee เองเลย ถ้าผู้อ่านคิดว่าพลาดเหตุการณ์ช่วงไหนไปบ้างก็สามารถอ่านข่าว Shopee ยอมรับ กรณีแอปดึงรูปเข้าโฟลเดอร์ Sharing...
ในที่สุดเราก็กำลังจะมีกฎหมายที่มุ่งคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของพวกเราอย่าง พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) ประกาศใช้ไปเมื่อเดือน พ.ค. 2562 และจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 27 พ.ค. 63 นี้เป็นต้นไป แต่ทว่าล่าสุด ! ดันเกิดการชงเรื่องเข้าสู่ ครม. ที่มีมติไปแล้วเรียบร้อย ประกาศเลื่อนการบังคับปรับโทษสำหรับผู้ละเมิดกฎหมายนี้ออกไปก่อน หลังเชื่อว่าหน่วยงานจำนวนมากยังไม่พร้อมโดยเฉพาะจากสถานการณ์ Covid-19 งานนี้ไม่แน่ใจว่าใครได้ประโยชน์บ้าง แต่ที่ปฏิเสธไม่ได้เลยคือชาวเน็ตอย่างพวกเราอาจเสียประโยชน์จากการคุ้มครองสิทธิ์ไปเต็ม ๆ...
Instagram ได้มีการประกาศเงื่อนไขการสมัครใช้งานสำหรับผู้ใช้รายใหม่ออกมาเพิ่มเติมในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยจะกำหนดให้ผู้สมัครต้องระบุอายุลงในข้อมูลผู้ใช้งานเบื้องต้นสำหรับการเปิดบัญชีกับ Instagram ทั้งนี้ เพื่อการจัดการเนื้อหาที่เหมาะสมมากขึ้นตามอายุของผู้ใช้แต่ละราย แถมลดความเสี่ยงด้านการละเมิดสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลของเยาวชนอายุอีกด้วย
งานประลองฝีมือ Hacker สายขาว หรือ White Hat Hacker มาอีกแล้ว เมื่อ Google ประกาศยกระดับให้กับงานวิจัยและพัฒนาด้านความปลอดภัยไซเบอร์ เพิ่มรางวัลให้กับใครก็ตามที่สามารถเจาะระบบความปลอดภัยของชิป Titan M ซึ่งฝังอยู่ใน Google Pixel 4, Pixel 3 และ Pixel...
ในขณะที่บรรดา Tech Giants ชั้นนำอย่าง Facebook กับ Apple นั้นได้นำร่องไปก่อนแล้วกับการตบเท้าก้าวเข้าสู่โลกของแพลตฟอร์มให้บริการทางการเงินในปีนี้ ล่าสุดมีข่าวลือว่าทาง Google เองก็น่ากลัวว่าจะตกรถไฟ กำลังเร่งดีลพาร์ทเนอร์ธนาคารรายใหญ่นำโดย Citibank เพื่อหวังเปิดตัวบริการ บัญชีธนาคารแบบออนไลน์หวัง Disrupt ธุรกิจสถาบันการเงินกับเขาด้วยอีกราย
นึกว่าจะเป็นแค่คดีมิจฉาชีพทั่วไป ให้พอได้เล่ากันติดตลกเท่านั้น กับข่าวดราม่าเมื่อช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา ในความสัพเพร่าของ Apple Store อเมริกา ที่พลาดท่าปล่อยให้ 2 นักศึกษาแสบ หลอกเคลมเอา iPhone ปลอมเกรดทำเหมือนไปแลกเครื่องแท้ได้ฟรี ๆ ไปนับพัน เสียหายไปกว่า 1 ล้านเหรียญ ที่ไหนได้ ดูท่าว่ามิจฉาชีพรายดังกล่าวเป็นเพียงแค่ส่วนเล็ก ๆ ของขบวนการเท่านั้น...
ข่าวนี้อาจทำให้สาวกแอนดรอยด์ได้ความมั่นใจในการโหลดแอป เพราะเกี่ยวกับเรื่องความปลอดภัยในแอปพลิเคชั่นทั้งหลาย ที่ช่วงหลังมีข่าวมัลแวร์และการละเมิดสิทธิ์กันไม่เว้นแต่ละวัน หลังจาก Google ประกาศยกระดับความปลอดภัยให้กับแอปพลิเคชั่นไปอีกขั้น โดยร่วมงานกับ 3 บริษัทด้านความปลอดภัยดิจิทัลชื่อดัง ให้ร่วมกันตรวจสอบโดยละเอียดและรับรองแอปพลิเคชั่น ว่าปลอดภัยมากพอก่อนที่จะนำเข้าสู่แพลตฟอร์มให้ดาวน์โหลดได้บน Google Play Store
งานนี้เรียกได้เลยว่า ทำเองใช้กันเองก่อนไม่รอชาวโลกแล้วนะ สำหรับประเทศจีน ที่ประกาศเริ่มเดินหน้าเปิดให้บริการเครือข่าย 5G เพื่อการพาณิชย์สำหรับประชาชนทั่วไปอย่างเป็นทางการแล้วตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา โดยเป็นการเริ่มให้บริการทีเดียวพร้อมกันทั้ง 3 เครือข่ายใหญ่ของรัฐบาลจีนเองเลย ราคาเริ่มต้นสุดย่อมเยาว์แค่ราว ๆ 549 บาทเท่านั้น
ดูเหมือนงานจะเข้า Huawei อีกระลอกเบา ๆ หลังจากช่วงสัปดาห์ก่อน ที่ประชุมสหภาพยุโรปได้ออกแถลงการณ์เตือนประเทศสมาชิกให้ระมัดระวังการใช้งานเทคโนโลยี 5G จาก Suppliers ในประเทศที่อาจมีสถานะเป็นปรปักษ์ต่อความมั่นคงโดยไม่ได้เอ่ยนามบริษัทใด แต่ทุกสายตาล้วนจับจ้องไปยัง Huawei Technologies อย่างแน่นอน ! เพราะเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี 5G ของโลกในปัจจุบันแถมเป็นชื่อเดียวในธุรกิจกลุ่มนี้ที่เต็มไปด้วยข้อครหาเรื่องความปลอดภัยในอุปกรณ์ของพวกเขานั่นเอง