Play video

เผยโฉมหน้าที่แท้จริงออกมาแล้ว สำหรับ Samsung Galaxy S6 และ S6 edge ที่เรียกได้ว่าไม่มีเซอร์ไพรส์อะไร เพราะเหมือนกับที่หลุดออกมาก่อนหน้านี้เป๊ะๆ แต่ที่ผมเซอร์ไพรส์มากๆ คือมันตัวจริงมันดูดีกว่าในภาพหลุด และผมกล้าชมว่าสวยโดยไม่กระดากปากเลยแม้แต่น้อย สำหรับ blog นี้คงยังไม่ใช่การพรีวิว Galaxy S6 และ S6 edge เพราะในงานเปิดตัว Unpacked นั้นคนเป็นแสน (จริงๆ แค่หลายร้อย) แล้วแต่ละคนก็มาจากเวปชื่อดัง จากสำนักข่าวต่างประเทศทั้งสิ้น มีเวลาลองจับลองเล่นกันไม่ได้นาน เลยจัดคลิปแบบ Hands-On ลองสัมผัสและบรรยายความรู้สึกมาให้ชมกันก่อน 

บรรยากาศในงานอลังการด้วยเครื่อง Galaxy S6 และ S6 edge เรียงรายอยู่ในตู้โชว์ ซึ่งเดาไม่ออกว่ามันเรียงเป็นรูปอะไร แต่คล้ายๆ ว่าจะเป็นตัว S

Samsung Galaxy S6 รุ่นพระเอก ที่โดนขโมยซีนโดย S6 edge คือบอกตรงๆ ว่าน้องเค้าไม่ได้ทำอะไรผิด หน้าตาก็สวยดูดีมีสกุล แต่ดันมาเจอที่สวยกว่า เลยแอบเศร้าเล็กๆ 

พระเอกของงานตัวจริง Galaxy S6 edge ทุกคนไปลองเล่นเครื่องนี้เป็นเครื่องแรกทั้งนั้น ปล่อยให้ S6 ต้องนอนรอเก้อ

สเปคของทั้ง 2 รุ่นมันเเหมือนกัน และผมคงไม่ทวนซ้ำใน blog นี้ (ไปอ่านได้ที่ Samsung Galaxy S6 และ S6 Edge : การกลับมาอย่างสมเกียรติของ S Series ) แต่แค่จะบอกว่าภาพมันอาจจะสลับไปมาระหว่าง S6 กับ S6 edge เพราะฉะนั้นไม่ต้องตกใจ อย่างภาพข้างบนนี้ก็กล้องกลังความละเอียด 16MP f1.9, มีกันสั่น OIS, มี LED flash และ heart rate sensor วัดการเต้นหัวใจเช่นเดิม และฟีเจอร์ใหม่ เพิ่มความนูนของเลนส์กล้องขึ้นไปอีก  :p

กล้องหน้าของทั้ง S6 และ S6 edge อัพเกรดขึ้น ไม่ได้ใส่แค่กล้อง 5MP แบบ A5, A7 แต่ยังมีโหมด realtime HDR และค่า f1.9 ยังคงมี wide selfie และ gesture selfie ยกมือถ่ายรูป เช่นเดิม

สำหรับ S6 edge มีฟีเจอร์นอนคว่ำ ที่เราสามารถดูแสงที่ลอดมาข้างๆ จอได้ว่าเป็นสีอะไรใครโทรมา แบบไม่ต้องพลิกเครือ่งขึ้นมาดู โดยเราสามารถไปตั้งค่าสีได้เอง

ส่วนนี้อาจจะไม่ค่อยมีการพูดถึง นั่นก็คือ IR blaster หรือรฟังก์ชั่นอินฟราเรดรีโมทยังมีอยู่นะ ใช้คู่กับ smart remote ควบคุมทีวี แอร์ สเตอริโอ ดีวีดี ในบ้านได้เหมือนเดิม

ตัว fingerprint scan นั้นอาจะอยู่ที่ปุ่มโฮม แต่ตัว fingerprint magnet นั้นอยู่ที่ฝาหลัง กระจก gorilla glass 4 นี่ไม่รู้เป็นอะไร ชอบเก็บรอยนิ้วมือชะมัด

เรื่องรอยนิ้วมือบนฝาหลังนี่ ผมเดินไปตรงไหนก็เห็นคนบ่นกันทั้งงาน จนเมื่อวานได้มีโอกาสคุยกับผู้บริหารของ Samsung เห็นว่ามีการส่งเรื่องไปแล้ว ว่าจะมีการปรับเปลี่ยนใหม่ ต้องทำให้เป็น fingerprint free หรือไม่มีคราบรอยนิ้วมือ หรือมีก็ให้น้อยที่สุดให้ได้ ไม่ใช่แตะไปปุ้บขึ้นครบ 5 นิ้วเลย อันนี้ไม่เอา

หน้าตา ToucWiz เวอร์ชั่นใหม่ดูใสขึ้น ปรับมาเป็น Material Design เต็มที่ (เท่าที่จะทำได้) ลื่นและเนียน

เห็นคนข้างๆ ทำเทส Antutu อยู่ ผมก็แอบขโมยถ่ายเลยครับ คะแนนโหดมาก 69,217 เกือบ 7 หมื่น :O  

กล้องหลังเปิดง่ายเปิดไวสมราคาคุย กดปุ่ม Home 2 ครั้ง กระพริบตา 1 ทีก็มาละ (ตรงกระพริบตานี้ไม่ได้เกี่ยวกับการเปิดกล้องนะครับ แค่เปรียบเทียบว่ามันเปิดได้ไวเฉยๆ) 

การเลือกโหมดถ่ายภาพต่างๆ UI / UX ทำได้ดีขึ้นเยอะ กดปุ้บขึ้นมาให้เลือกหมดเลยว่ามีโหมดอะไรบ้าง ไม่ต้องถูไปถูมา (แอบแซะว่ามันคล้ายกับของ HTC เลย) 

ลองกล้องหน้าสักนิด 

เลนส์กว้างจริง  🙂

นี่ไง หน้าเมนูโหมดกล้อง ที่บอกว่ามันกลมๆ คล้ายของ HTC  :p

 แท่นชาร์จไร้สาย ในงานเค้าไม่เปิดให้ลอง บอกแบตมันเต็มแล้ว.. เออ อ้าว มันใช่เหรอ?

เลิกถูเลิกแซะกันได้แล้ว เพราะตอนนี้ระบบสแกนลายยนิ้วมือของ Galaxy S6 และ S6 edge เป็นแบบแตะแล้วจ้า ไม่ต้องถูให้ข้อนิ้วเคล็ดอีกต่อไป (แต่แม่นยำแค่ไหน ยังไม่ได้ลอง พนักงานบอกเอาไว้ลองทีหลัง เดี๋ยวเค้าปลดล็อคไม่ได้จะยุ่ง)

นี่ไงๆ วิธีการสแกนนิ้ว เค้าบอกให้วางแล้วยกออกก็พอ ไม่ต้อง slide หรือถูนิ้วแล้ว 

สำหรับ Samsung Galaxy S6 และ S6 edge นั้นมีวางจำหน่ายด้วยกันถึง 5 สีครับ เงิน ดำ ฟ้า เขียว ทอง แต่ 2 สีที่ผมไปหยิบมาถ่ายคู่กันนี้มันเงาสะท้อนได้ใจ เหมือน Gold Cloth กับ God Cloth ในเรื่องเซย่าเลยเอาจริงๆ นะ  :bigsmile:

ขอจบการลองจับลองเล่นไว้เท่านี้ก่อนนะครับ นี่ยังไม่ได้นอนเลย แต่เดี๋ยวต้องออกไปงาน Mobile World Congress ต่อแล้ว ไว้เดี๋ยวจะไปเก็บภาพเก็บคลิปมาฝากกันเยอะๆ