ปลายปีนี้ HUAWEI Mate 60 Series เตรียมกลับมาอีกครั้ง พร้อมกับข้อมูลที่หลุดออกมาแบบรายวัน โดยในรอบนี้ได้มีการปรับดีไซน์นิดหน่อย กลับไปใช้โมดูลกล้องวงกลมคล้าย ๆ กับในรุ่น Mate 40 Series นอกจากนี้ยังมีสเปคจอแสดงผลหลุดออกมาให้ทราบกันบางส่วนแล้วด้วย ส่วนวันเปิดตัวคาดว่าจะจัดขึ้นใน 1 – 2 เดือนข้างหน้านี้แหละ

หลุดเรนเดอร์ดีไซน์ HUAWEI Mate 60 Series

Digital Chat Station ออกมาปล่อยภาพเรนเดอร์ของ HUAWEI Mate 60 Series เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งดีไซน์โมดูลกล้องจะมีการปรับเปลี่ยนไปใช้ดีไซน์แบบวงแหวนเหมือนใน Mate 40 Series ส่วนฝาหลังเครื่องจะเป็นวัสดุเงางาม โค้งรับกับมือ ส่วนสีตัวเครื่องในภาพเป็นสีดำ ตัดกับขอบเฟรม และโลโก้สีทองดูหรูหราพรีเมียม

HUAWEI Mate 40 Series

ตอนนี้ถึงแม้จะยังไม่มีภาพหลุดดีไซน์ด้านหน้าออกมา แต่คาดว่าตัวมาพร้อมกับดีไซน์กล้องหน้าแบบเจาะรูเป็นรูปทรงแคปซูลเหมือนใน Mate 40 Series เช่นกัน แต่จะเปลี่ยนตำแหน่งจากมุมซ้ายบน เป็นตรงกลางหน้าจอ โดยจะมีฟีเจอร์ใหม่ที่สามารถแสดงผลการแจ้งเตือนต่าง ๆ เป็นดีไซน์คล้าย ๆ กับ Dynamic Island ของฝั่ง Apple นั่นเอง

หลุดสเปคจอ และกล้อง HUAWEI Mate 60

HUAWEI Mate 60 รุ่นมาตรฐานคาดว่าจะมาพร้อมกับจอพาเนล OLED ขนาด 6.7 นิ้ว บนความละเอียด 1.5K โดยตัวจอจะมาในดีไซน์แบนเรียบ และมีขอบจอที่บางมาก ๆ หากสเปคเป็นไปตามนี้จริง น่าจะยังไม่แตกต่างจาก Mate 50 สักเท่าไหร่ เพราะรุ่นที่แล้วก็มาพร้อมจอ OLED ขนาด 6.7 นิ้ว มีความละเอียดอยู่ที่ 2700×1224 พิกเซล รองรับรีเฟรชเรทที่ 90Hz

ส่วนด้านการถ่ายภาพนั้น คาดว่ากล้องหน้าจะมีด้วยกัน 2 ตัว มีเซนเซอร์วัดระยะตื้นลึกแบบ 3D ส่วนกล้องหลังจะมีทั้งหมด 3 ตัว ประกอบไปด้วยกล้องหลัก + กล้องซูม Periscope เซนเซอร์ใหม่ที่ถ่ายในสภาวะแสงน้อยได้ดีกว่าเดิม ส่วนกล้องอีกตัวอาจเป็นกล้อง Ultrawide โดยกล้องทั้งหมดนี้จะมีระบบภาพ XMAGE ที่ทาง HUAWEI พัฒนาเองมาช่วยในเรื่องการปรับจูนคุณภาพรูปเหมือนเดิม

ด้านประสิทธิภาพในรอบนี้คาดว่า HUAWEI จะเริ่มแยกทางกับ Qualcomm เลิกใช้ชิป Snapdragon และเปลี่ยนไปใช้ชิปที่พัฒนาเองซึ่งอาจรองรับ 5G เป็นครั้งแรกหลังโดนสหรัฐฯ สั่งแบน นอกจากนี้ยังจะติดตั้งมาพร้อมกับ Harmony OS 4.0 เวอร์ชั่นใหม่ที่เตรียมเปิดตัวในเดือนสิงหาคมนี้ด้วย ส่วนกำหนดการเปิดตัวนั้น ยังไม่ออกมาเปิดเผยอย่างเป็นทางการ แต่คาดการณ์ว่าจะได้เปิดตัวในจีนช่วงเดือนกันยายน – ตุลาคมปี 2023 

 

ที่มา: GizmoChina