หลังจากช็อคโลกเปิดตัว iPhone 12 Series ไปแบบไม่แถมหัวชาร์จและหูฟังมาในกล่อง ล่าสุดก็มีข่าวออกมาว่าปีหน้า Apple อาจจะไม่แถมสายชาร์จมาในกล่อง iPhone 13 Series ด้วย… แต่ยังมีข่าวดีว่าฟีเจอร์สุดมีประโยชน์อย่าง Touch ID อาจกลับมาอีกครั้ง

เอาจริงๆ ก่อนหน้าจะเปิดตัว iPhone 12 ทาง Apple ก็ออกแบบสำรวจสอบถามว่าผู้ใช้งานเอาของแถมในกล่องไปใช้งานกันแบบไหน ไม่ว่าจะเป็นขายให้คนอื่น ทำหาย ใช้เฉพาะที่บ้าน หรือใช้ที่ทำงานหรือโรงเรียน ฯลฯ สุดท้าย Apple ก็ตัดหัวชาร์จและหูฟังออกจากกล่อง iPhone 12 ไปจริงๆ

ล่าสุด Apple ก็ได้ทำการสำรวจอีกครั้งเกี่ยวกับการใช้งานระบบสแกนใบหน้า Face ID ของผู้ใช้งาน iPhone 12 บางส่วนว่าพึงพอใจหรือเปล่า ถ้าคำตอบเป็นไม่ ก็ให้ผู้ใช้งานระบุถึงเหตุผลของคำตอบ โดย Apple ให้ตัวเลือกมาทั้งหมด 8 รายการ ได้แก่

  • ปัญหาด้านความปลอดภัย หรือ ความเป็นส่วนตัว
  • ฉันไม่ชอบที่ต้องหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อปลดล็อคด้วย Face ID
  • การทำงานช้า
  • ไม่สามารถสแกนใบหน้าได้ในบางสถานการณ์ (เช่น แสงน้อย, หน้าไม่ตรงตำแหน่ง, หน้าจออยู่แนวราบ, สวมแว่นกันแดด)
    ฉันชอบใช้ Touch ID มากกว่า
  • ไม่น่าเชื่อถือ; ปลดล็อค iPhone ไม่ได้ในบางครั้ง
  • อื่น ๆ
  • ไม่แน่ใจ

น่าเสียดายที่ Apple ไม่ได้ถามผู้ใช้งานโดยตรงเกี่ยวกับปัญหาที่ Face ID ไม่สแกนใบหน้าผู้ใช้งานเวลาใส่หน้ากากอนามัย แต่ดูเหมือนว่าจะได้ถามมาแล้วเป็นนัยๆในตัวเลือกที่ Face ID ตรวจจับใบหน้าไม่ได้ในบางสถานการณ์ นอกจากนี้ Apple ยังได้สอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้งานอุปกรณ์ที่แถมมาในกล่องอย่างสติ๊กเกอร์โลโก้แอปเปิ้ล, เข็มจิ้มถาดรองซิมการ์ด และสาย USB-C Lightning

คาดว่าการสำรวจนี้ Apple จะไม่แถมอุปกรณ์เหล่านี้มาให้ในอนาคต และอาจนำ Touch ID กลับมาใช้อีกครั้ง ใน iPhone 13 หรือ รุ่นที่เปิดตัวในปี 2021 ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดีสำหรับระบบความปลอดภัยของเครื่อง เพราะ Face ID ยังไม่ใช้ระบบที่มีความสเถียร และยังคงมีปัญหาในบางกรณีทำให้ผู้ใช้งานบางรายต้องปลดล็อคเครื่องด้วยรหัสผ่านแทน แต่เป็นเรื่องที่น่าเสียถ้าหากสาย USB-C Lightning ถูกนำออกไปจากกล่องอุปกรณ์ นั่นอาจจะทำให้เราต้องเสียเงินซื้อสายชาร์จเพิ่มเองหรือเปล่า

เราก็คงต้องรอติดตามกันต่อไปครับ เพราะกว่า iPhone 13 หรือ iPhone รุ่นใหม่จะเปิดตัวก็ประมาณปลายๆปี 2021 ซึ่งยังคงอีกยาวไกลกว่าจะถึงตอนนั้น แต่นี่ก็จะเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าอยากที่จะซื้อ หรือ ลองสัมผัส iPhone หรือเปล่า

 

ที่มา : 9to5mac 1, 2