ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าความยิ่งใหญ่ของแบรนด์อย่าง Apple ส่งผลกระทบต่อโลกทั้งใบไม่ใช่แค่ด้านเทคโนโลยี แต่ยังเป็นผู้ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมขนาดใหญ่อย่างสมาร์ทโฟน หากธุรกิจจะสะดุดหรือยอดขายถดถอยลงแต่ละที เล่นเอาธุรกิจและผู้ผลิตชิ้นส่วนใน Supply Chain นั่งกุมขมับปรับตัวแทบไม่ทันไปตามๆ กัน ยิ่งผนวกกับปัญหาสงครามทางการค้าสหรัฐ – จีนที่ถึงแม้จะเบาลงแต่ยังไม่จบง่ายๆ และยังส่งผลกระทบอย่างต่อเนื่อง
Apple ยอมรับยอดขาย iPhone พลาดเป้าในรอบ 15 ปี
เรียกว่าช็อคกันทั้งตลาดหุ้นรอบโลกเลยหลังจากเมื่อวันปีใหม่ Apple ออกมายอมรับกันดื้อๆ (เรียกว่าส่งสัญญาณเตือนกันแมนๆไปก่อนเลย 😕 ) ว่ายอดขาย iPhone ในไตรมาสนี้น่าจะถดถอยลงไปเยอะมากจนคาดว่า ยอดรวมของไตรมาสนี้ Apple จะพลาดเป้าเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ 15 ปี ทำเอานักลงทุนพากันตกใจจนเทกระจาดหุ้น Apple กันระนาวเริ่มจากตลาดหุ้น New York เองก่อนเป็นที่แรก
ผู้ผลิตเห็นแววหลัง Apple สั่งลดการผลิตหลายรอบ
กลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วน (Suppliers) ทั้งหลายที่ทำงานร่วมกับ Apple ในผลิตภัณฑ์ต่างๆ โดยเฉพาะ iPhone ไล่ตั้งแต่ผู้ผลิตชิปเซ็ตจนแผงหน้าจอได้มีการพยายามปรับตัวกันเนิ่นๆ ตั้งแต่ช่วงปี 2018 ที่ผ่านมาแล้วหลังจากเห็นสัญญาณบางอย่างจาก Apple มาร่วมหลายเดือน รวมถึงความไม่มั่นใจต่างๆ ทั้งการต่อรองขอลดปริมาณการล็อตการผลิตลงหลายรอบ ถึงแม้ผู้ผลิตชิปเซ็ตทั้งหลายเพิ่งจะสร้างสถิติสูงสุดทางผลกำไรเอาไว้เมื่อปี 2017 ต่างก็พากันกังวลใจ กับยอดขายอันน่าผิดหวังของ Apple (โดยเฉพาะ iPhone) ที่ค่อยๆ แย่ลงเรื่อยๆ จนกระทั่งปัจจุบัน
เราเห็นความต้องการของผู้บริโภค (demand) หายไปตั้งแต่ช่วงไตรมาสที่ 3 ของปีที่แล้ว (2018) และก็พบกับการปรับฐานราคากันอย่างต่อเนื่องในไตรมาสนี้ ยอดขายของสมาร์ทโฟนไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง ยังดีที่ตลาดของอุปกรณ์เซิฟเวอร์นั้นช่วยดึงสินค้าคงคลังของพวกเราไปได้บ้าง ส่วนอุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์อื่นๆ ก็แย่ลงเช่นกัน – Lee Pai-Ing | President of Nanya Technology
แม้แต่ผู้ผลิตชิพ DRAM รายใหญ่ของโลกอย่าง Nanya Technology (คู่แข่งสำคัญของ Samsung Electronics, SK Hynix และ Micron) ยังแสดงความกังวลอย่างชัดเจนว่าตลาดสมาร์ทโฟนอยู่ช่วงหดตัวถึงแม้แบรนด์ยักษ์ใหญ่ต่างๆ ยังคงพากันนำเสนอเทคโนโลยีใหม่ๆ กันอย่างต่อเนื่อง ส่วนนึงก็เป็นผลพวงมาจากความกังวลที่มีต่อผู้นำอย่าง Apple นั่นเอง เพราะเป็นลูกค้าหลัก ซึ่งทาง Nanya Technology นี้ถึงขนาดประกาศว่าจะลดภาระค่าใช้จ่ายและการลงทุนในปี 2019 นี้ลงถึง 50% ไปอยู่ที่ราวๆ 323 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ ประมาณ 9,800 ล้านบาท
เจอพิษ iPhone ยังไม่ซา… ดันมีสงครามทางการค้าซ้ำเติมไปอีก
อันที่จริงสำหรับผู้ผลิตทั้งหลายทั่วโลก (โดยเฉพาะกลุ่มเอเชียซึ่งนับเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็คทรอนกส์กลุ่มใหญ่สุดของโลก) เรียกว่าเจอเคราะห์ซ้ำกรรมซัดก็ว่าได้ เพราะยังไม่ทันจะปรับตัวกันได้จากยอดขายที่ตกกันแบบฮวบฮาบและต่อเนื่องของ iPhone ยังต้องมาเจอผลพวงของสงครามทางการค้าระหว่างพี่ใหญ่สองซีกโลกอย่าง สหรัฐอเมริกาในมุมน้ำเงิน และ พี่จีนในมุมแดง ซ้ำเติมไปอีก จากรายงานล่าสุดคือ ปี 2018 เนี่ยยอดขายสมาร์ทโฟนทั้งโลกลดลงอีกเป็นปีที่ 2 ติดต่อกันโดยลดลงไป 4.1% โดยหนักกว่าเพื่อนก็คือพี่ใหญ่อย่างจีนที่ตกลงทีเดียวถึง 10%
หากมองย้อนไปในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2018 นักวิเคราะห์ได้คาดการณ์เอาไว้ว่าธุรกิจกลุ่ม Asia300 (ผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และกลุ่มโทรคมนาคม เช่น Samsung Electronics, SK Hynix, TSMC, LG Display, SK Telecom, Vodafone Idea เป็นต้น) จะมีผลประกอบการณ์ร่วมกันที่ค่อนข้างสดใสถึงขนาดที่ผลกำไรของธุรกิจกลุ่มนี้ (แบบไม่นับรวมธุรกิจกลุ่ม Nekkei ของตลาดญี่ปุ่น) จะโตได้อีก 14.9% เลยทีเดียวหลังจากที่ปี 2017 ทำเอาไว้ที่ 21 % อย่างไรก็ตาม ปี 2019 นี้ถูกประเมินว่าจะอยู่ที่ระดับ 4.4% เท่านั้น จากปัจจัยหลายๆ อย่างของปีนี้ไม่สู้ดีนัก เช่นการแกว่งตัวของผลประกอบการรวมตั้งแต่ก่อนสิ้นปี 2018 ที่เกิดจากผลงานอันย่ำแย่ของผู้นำกลุ่มอย่าง Apple ไปถึงปัญหาคาราคาซังเรื่องสงครามทางการค้านั่นเอง
ถึงแม้ว่าปี 2018 ในภาพรวมจะยังดูสดใสอยู่ในครึ่งปีแรกที่มีอัตราการเติบโตของผลกำไรกันอยู่ที่ราวๆ 17% และ 13.1% ใน 2 ไตรมาสแรก แต่จะเห็นได้ว่าไตรมาส 3 นั้นลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญโดยที่ยังคงเติบโตอยู่ที่ระดับ 4.1% เท่านั้น จนกระทั่งไตรมาส 4 ที่เพิ่งผ่านพ้นไปไม่นานนักปัจจัยหลายๆอย่างที่กล่าวถึงไว้ข้างต้นส่งผลให้ตัวเลขผลกำไรของธุรกิจกลุ่มนี้เรียกได้ว่า ร่วงลงเหวมาลดลงถึง 14.6% เลยทีเดียว
ตลาดใหญ่อย่างจีนทุลักทุเลเป็นพิเศษ
เรียกได้ว่าอาการสาหัสสำหรับกลุ่มผู้ผลิตสมาร์ทโฟนทั้งหลาย รวมไปถึงผู้ผลิตชิ้นส่วนต่างๆ ของสมาร์ทโฟนอีกที ส่วนใหญ่ๆ จุดนึงเลยก็มาจากผลงานสวยหรูของยอดขายสมาร์ทโฟนในจีนที่อุปสงค์และกำลังซื้อหายไปพร้อมๆ กันจากหลายปัญหาที่ถาโถมกลุ่มประเทศเอเชีย แถมทาง IDC เองก็ยังคาดการณ์การว่ายอดขายมือถือในปี 2019 นั้นจะหดลงอีก 0.8% ทำให้หลายๆ ค่ายพยายามนำเอาเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาเสริมไม่ว่าจะเป็นมือถือจอพับ หรือการมาของ 5G ซึ่งงานนี้ก็ต้องรอติดตามดูกันต่อไปว่าค่ายมือถือต่างๆ รวมถึง Apple เองจะเอาอะไรมาฉุดตลาดของสมาร์ทโฟนที่กำลังอิ่มตัวให้กลับมาอีกครั้งหนึ่ง
ที่มา: Nikkei Asian Review
iphone ยิ่งทำ ยิ่งแพง รุ่นก่อนๆเปิดตัว 2หมื่น 3หมื่น มาปีที่แล้ว4หมื่น ปีนี้คง5หมื่น อนาคตคง เปิดตัวมือถือ iphone 15 ราคาเป็นแสนละมั้ง
ขนาด 6s ยังใช้ได้ดีอยู่เลย ถ้ากล้องดีๆ android ราคาถูกๆ ถ่ายได้ดีกว่าเยอะ ไอโพนไว้เล่นเกม
กระทบผู้ผลิตชิ้นส่วน แต่ไม่กระทบ apple เท่าไหรหรอก กำไรเผื่อไว้โคตรรรรรรรรรรเยอะ และมันจะไม่ยอมลดราคา หรือออกรุ่นถูกๆคุ้มๆมาชน แน่นอน
ต่อให้ยอดขายหายไป50% ตัว apple เองก็ไม่แย่ มีแต่จะเพิ่มราคาเข้าไปอีก ป่านนั้นคงยิ่งทำตัวเป็น louis vuitton แห่งโลกมือถือ เหมือนที่ vertu พยายามเป็น
ตราบใดที่ ยังมีคำว่า "iOS เสถียรสุดละ" "ซื้อทั้งที ถอย iphone ไปเลยดิใช้ยาวๆ" "งาน graphicต้อง Mac เท่านั้นเว้ย"
และตราบใดยังมีข่าวคนซื่อ iphone ตัวล่าสุดหลังเปิดตัวในราคา 100,000+ มาอวด
ต่อให้แช่งด้วยวิธีไหนๆ มันไม่ตายง่ายๆ และ ราคามันจะหนักข้อขึ้น และแยกออกชัดเจนจากการซื้อมาใช้ กับการซื้อมาอวดรวยชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ
พยามปลอบใจตัวเองสุด สงสารติ่งผลไม้จังเลยแหะ ออกมาจากกะลาได้แล้วลูก
คำว่าสเถียรให้มันตายไปกับไอโฟนเหอะ เหอๆ แค่ลื่นๆมันก็ใช้ได้ยาวๆละ ทำไมต้องสเถียรอะไรเบอร์นั้น
ฝั่งแอนดรอยด์ ก็ยิ่งขายยิ่งถูกลงๆ ขายแบบไม่เอากำไรเเล้ว
เน้นตัวเลขยอดขายไว้อวดกันอย่างเดียว
ไม่เอากำไรก็ดีแล้วเป็นผลดีกับผู้ซื้อ บริษัทเค้าจะกำไรหรือไม่ก็ไม่ได้เดือดร้อนกับเค้าอยู่แล้วเพราะไม่ได้ถือหุ้นส่วนผลิตภัณฑ์จะดีหรือไม่ก็อยู่ที่คนซื้อตัดสินใจเลือกอันไหนไม่ดีคนก็เลิกใช้กันไปเองแหละครับ
อยากจะอวดตัวเลขก็เรื่องของเขา สินค้ากำไรน้อยก็เป็นคุณต่อผู้บริโภค ตัวเลือกในตลาดเยอะได้ใช้ของดีในราคาคุ้มค่ามันก็ดีต่อคนรู้จักเลือก
ประสาท ทำไม่ต้องอวดก็ยาดขายจริงๆ สเปคดีขายถูก กำไรคือคนซื้อเยอะไง คิดมั่งสมอง
โง่เหมือนลืมสมองไว้ในท้องแม่
ควายควาย มากกว่า coolcool นะครับ
ตั้งราคาบ้าบอแบบนี้ ไม่ต้องโทษใคร โทษตัวเองเถอะจ้า
APPLE ยอมรับยอดขาย IPHONE พลาดเป้าในรอบ 15 ปี
พาดหัวแบบนี้ไอโฟนมีขายมา 15 ปีแล้วเหรอครับ?
ยัง12ปีอยู่เลยครับ
พื้นฐาน apple เปลี่ยนจากจุดแข็งเรื่องเทคโนโลยีกลับแพ้จีน + เศรษฐกิจยุโรปแย่, มือถือถึงจุดอิ่มตัว คล้ายโน๊ตบุ๊คระดับกลางก้ตอบโจทย์ ซึ่ง oppo,vivo ฉลาดที่มาเล่นจุดนี้จนได้ market share บ้านเรา ไม่ต้อง overinvestment เพื่อแข่งกับ huawei Samsung Apple
Xiaomi ฉลาดที่เริ่มปรับตัว เพราะถ้ายังขายมือถือราคาถูกในตลาดมือถือที่อิ่มตัว แย่แน่ๆ (แต่ samsung ฉลาดเพิ่มราคาก่อนใครเพื่อน55)
น่าห่วงคือ บริษัทมือถือจีนเล็กๆจะทนกับวิกฤตยอดขายได้รึป่าว supple chain จะอยู่รอดมั้ย
ยิ่งขายยิ่งแพง สมควรแล้ว
คนฉลาดอย่างเราต้องไปสอย iphone 6s plus จาก AIS ราคา 5900 มาใช้อย่างชิลๆ
แอนดรอยเครื่องละหมื่นได้เปลี่ยนใหม่ทุกปี
ถ้าจอมันยังจะแหว่งหรือมีรูกันต่อไป ผมก็ทนใช้เครื่องเก่าต่อไป
อีกอย่างยังชอบ 16:9 ยังไม่อยากไปใช้จอรีโมท T_T
ใช้แอนดรอย.เครื่องดีๆ ราคากลางๆ
เบื่อก็เปลี่ยน ไม่ต้องเสียดายมาก มือถือใหม่ๆดีๆแย่งกันออกทุกปี
เขียนข่าวเวอร์มาก iphone ขายยังไม่ถึง15ปีเลย
ข่าวมั่วจริงๆ