นึกว่าจะเป็นแค่คดีมิจฉาชีพทั่วไป ให้พอได้เล่ากันติดตลกเท่านั้น กับข่าวดราม่าเมื่อช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา ในความสัพเพร่าของ Apple Store อเมริกา ที่พลาดท่าปล่อยให้ 2 นักศึกษาแสบ หลอกเคลมเอา iPhone ปลอมเกรดทำเหมือนไปแลกเครื่องแท้ได้ฟรี ๆ ไปนับพัน เสียหายไปกว่า 1 ล้านเหรียญ ที่ไหนได้ ดูท่าว่ามิจฉาชีพรายดังกล่าวเป็นเพียงแค่ส่วนเล็ก ๆ ของขบวนการเท่านั้น หลังล่าสุด FBI ประกาศขยายผลคดี ประเมินความเสียหายไปแล้วราว 6 ล้านเหรียญ หรือเกือบ ๆ 200 ล้านบาทเลยทีเดียว

หลังจากมีข่าวดราม่าตลกร้ายไปช่วงกลางปีที่ผ่านมา จากกรณีนักศึกษาจีน 2 คน ในอเมริกาที่เอา iPhone ปลอมมาขอเปลี่ยนเครื่องใหม่เพื่อเอาไปขายต่อจนทำเงินไปได้เกือบ 1 ล้านเหรียญ! ล่าสุดปรากฎว่าเจ้านักศึกษา 2 รายดังกล่าว เป็นเพียงแค่ทีมงานส่วนเล็ก ๆ ส่วนหนึ่งของขบวนการมิจฉาชีพข้ามชาติที่ประกอบไปด้วยชาวจีน เวียดนาม และรัสเซียผู้ถือสัญชาติอเมริกันทั้งหมด 14 ราย โดยมีชาวจีน 3 พี่น้องเป็นระดับหัวหน้าแก๊งค์ตามรายงานเบื้องต้นของ FBI ที่แถลงขยายผลในคดีเกี่ยวเนื่องกันกับกรณีที่เกิดขึ้นจากนักศึกษาตัวแสบทั้ง 2 รายก่อนหน้านี้นั่นเอง

โดยงานนี้ถูกประเมินว่า Apple สูญเสียให้กับขบวนการข้ามชาติรายนี้ไปแล้วกว่า 6.1 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยร่วม 200 ล้านบาท จากจำนวนเครื่องปลอมที่ถูกเคลมไปแล้วเกิน 10,000 เครื่อง ซึ่งวิธีการที่สุดแยบยลแต่น่าจะผิดกฎหมายได้อีกหลายกระทงเลย เพราะนอกจากจะลักลอบสั่งทำและนำเข้าผลิตภัณฑ์ iPhone หลากรุ่นที่ทำเหมือนชนิดที่บ้านเราชอบเรียกว่า “สินค้ามิเรอร์ทำเหมือน ก้อประดับเกรด A+++” แถมมีการลักลอบไปดึงเอาข้อมูล IMEI (ซึ่ง Apple จะใช้ตรวจสอบเครื่องแท้ในการทำเคลมเครื่องใหม่ให้) มาจากเครื่อง iPhone แท้ที่มีผู้ใช้งานจริง ๆ งานนี้ทั้งละเมิด หลอกลวง ฝั่ง Apple แล้ว ยังนับเป็นการโจรกรรมข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชนทั่วไปอีกด้วย

ขบวนการนี้ได้คัดสรรไปดึง IMEI มาได้อย่างไร ทาง FBI ยังไม่มีการแจงรายละเอียดออกมาเพราะกลัวจะตกเป็นเยี่ยงอย่างให้มิจฉาชีพต่อไป แต่มีการเผยว่า IMEI จำนวนนับหมื่นจากเครื่องที่มีผู้ใช้งานแท้ ๆ จาก สหรัฐอเมริกา และ แคนาดา ถูกขโมยมาแล้วหมดอายุไปแล้วโดยวันนี้เจ้าตัวเองก็ยังอาจจะไม่รู้ตัวเสียด้วยซ้ำ ซึ่งเครื่องปลอมที่นำไปเคลมได้มานั้น จะถูกส่งออกไปขายยังประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกในราคาเครื่องใหม่เคลมศูนย์ หรือใกล้เคียงกับราคาเครื่อง Refurbished ซึ่งได้เครื่องใหม่ในราคาถูกมาก ๆ นั่นเอง

ทั้งกระบวนการตั้งแต่การผลิต ลักลอบนำเข้า และฉ้อโกงบริษัทอเมริกัน (Apple) นับเป็นการบ่อนทำลายตั้งแต่สิทธิในผลิตภัณฑ์ทางเทคโนโลยี และรวมไปถึงตลาดในภาพรวม (เพราะมีการนำเครื่องเคลมไปขายตัดราคาตลาด) นอกจากนั้นยังเป็นการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลในส่วนข้อมูลระบุตัวตนทางโทรคมนาคม (IMEI) โดยเป็นการทำให้ได้มา ถือครอง และนำไปใช้ประโยชน์อย่างผิดกฎหมายโดยชัดแจ้ง – Robert Brwer | อัยการรัฐแคลิฟอร์เนีย

โดยในการแถลงผลการขยายผลคดีในเบื้องต้นนั้น FBI ชี้แจงว่าเข้าจับกุมขบวนการนี้ได้ 11 คนจากทั้งหมด 14 คนแล้ว โดยมี 3 หัวหน้าแก๊งค์ชาวอเมริกันเชื้อชาติจีนพร้อมกับภรรยาโดนรวบนำไปก่อนตั้งแต่ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาในมลรัฐแคลิฟอร์เนียพร้อมเงินสดกว่า 250,000 เหรียญ (~7.5 ล้านบาท) และ iPhone ปลอมรอเคลมล็อตล่าสุด 90 เครื่อง ซึ่งคดีนี้ FBI เผยว่า ที่จริงได้มีความพยายามเร่งรัดและสืบสวนกันมานานหลายปีแล้ว หลังจาก Apple เริ่มระแคะระคายเข้าแจ้งความตั้งแต่ปี 2017 โดยความเริ่มแตก เป็นที่รู้จัก ทำให้มีมูลคดีและหลักฐานพร้อมทิศทางในการจับกุมที่ชัดเจนขึ้นหลังจากคดีที่เกี่ยวเนื่องกันของ 2 นักศึกษาแสบเมื่อกลางปีที่ผ่านมาดันโป๊ะแตกโดนจับเข้าให้

 

ที่มา: CNN Business | Tech Spot