ผลคะแนน DxOMark ของมือถือกล้องความละเอียดสูง 108 ล้านพิกเซลอย่าง Motorola Edge+ มาแล้ว โดยรุ่นนี้สามารถคว้าคะแนนรวมไปทั้งหมด 113 คะแนน มาเกาะอยู่ที่อันดับ 11 ของมือถือทั้งหมดที่ทดสอบโดย DxOMark โดยมีจุดเด่นอยู่ที่งานวิดีโอดีเยี่ยม สู้กับตัวท็อปๆ ในตลาดอย่าง Samsung หรือ Apple ได้แบบสูสี

สเปคกล้อง Motorola Edge+

  • กล้องหลัก: 108 ล้านพิกเซล ขนาดเซ็นเซอร์ 1/1.33 นิ้ว ระยะโฟกัส 26 มม. ค่ารูรับแสง f/1.8 ระบบโฟกัส PDAF และกันสั่นแบบ OIS
  • กล้อง Telephoto: 8 ล้านพิกเซล ระยะโฟกัส 81 มม. ค่ารูรับแสง f/2.4 ระบบโฟกัส PDAF และกันสั่นแบบ OIS
  • กล้อง Ultra-Wide: 16 ล้านพิกเซล ระยะโฟกัส 13 มม. ค่ารูรับแสง f/2.2
  • Laser Focus ช่วยในเรื่องของการโฟกัส ให้ทำงานแม่นและดียิ่งขึ้น
  • ไฟแฟลชแบบ Dual-LED
  • ถ่ายวิดีโอได้สูงสุด 6K 30fps พร้อมระบบกันสั่นแบบ gyro-EIS (ตอนเทสจะปรับเป็นแบบ 4K 30fps)

Motorola Edge+ กวาดคะแนนจาก DxOMark ไปได้ที่ 113 คะแนน ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง อยู่ในอันดับ 11 ของตารางคะแนนกล้องสมาร์ทโฟนที่ทาง DxOMark ได้เคยทดสอบมา โดยคะแนนจะแบ่งออกเป็น 2 หมวด คือหมวดถ่ายภาพนิ่งได้ไป 119 คะแนน และหมวดวิดีโอได้ไป 101 คะแนน จุดเด่นของ Motorola Edge+ จะอยู่ที่ภาพมีรายละเอียดที่ชัดเจน ดีเทลครบ, จัดการ noise ได้ค่อนข้างดี มีค่า exposure และระบบโฟกัสที่แม่นยำ

กล้องหลัก

ด้วยขนาดเซ็นเซอร์ที่ใหญ่ และความละเอียดสูงถึง 108 ล้านพิกเซล ทำให้ภาพที่ถ่ายจาก Motorola Edge+ จะถือว่าทำออกมาได้ค่อนข้างดี มีรายละเอียดของภาพ หรือดีเทลต่างๆ แบบครบๆ รวมไปถึง noise ที่น้อยมากๆ แม้กระทั่งถ่ายในที่ร่ม ก็แทบไม่มีปัญหา ส่วนระบบ Autofocus ของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ก็แม่นยำ และสม่ำเสมอ ไม่โฟกัสติดๆ หลุดๆ ขณะที่ค่า White Balance ก็ตรง แต่บางทีเวลาถ่ายท้องฟ้า ก็อาจจะเกิดอาการ undersaturated ไปบ้าง นอกจากนี้ยังมีข้อติตรง Dynamic Range ที่ค่อนข้างจำกัด

กล้อง Ultra-Wide

จุดเด่นอีกหนึ่งจุดของ Motorola Edge+ จะอยู่ที่กล้อง Ultra-Wide โดยภาพที่ได้จากกล้องถือว่ามีดีเทลค่อนข้างโอเค แต่จะเกิดอาการ texture หาย และมี noise มารบกวน เมื่อถ่ายในที่แสงน้อยๆ หรือตอนกลางคืน เลนส์มีมุมค่อนข้างกว้าง อย่างไรก็ตาม เมื่อนำไปเทียบกับมือถือในระดับเดียวกัน Motorola Edge+ ยังถือว่าเป็นรองอยู่หน่อยๆ และยังจัดการกับความเบี้ยวตรงขอบภาพได้ไม่ดีนัก

กล้อง Telephoto

เรื่องซูมไม่ถือว่าเป็นจุดขายของ Motorola Edge+ มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว และผลคะแนนของ DxOMark ก็ออกมาในทิศทางนั้นจริงๆ แม้ว่าสมาร์ทโฟนรุ่นนี้จะมากับความสามารถในการซูมแบบ Optical 3x แต่เมื่อดันระยะซูมไปมากกว่านั้น ก็พบว่ารายละเอียดของภาพหายไปค่อนข้างเยอะพอสมควรเลย

โหมดถ่ายภาพบุคคล (Portrait)

การถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอของ Motorola Edge+ ถือว่าทำผลงานออกมาเป็นที่ยอมรับได้ แต่ไม่ได้ดีเด่นอะไร เพราะยังมีการตัดขอบวัตถุกับพื้นหลังไม่แม่นเท่าที่ควร อีกทั้งยังมีดีเทลรายละเอียดต่างๆ น้อยมาก และมี artifacts ขึ้นมาบ้างประปราย

โหมดถ่ายภาพตอนกลางคืน (Night Mode)

ส่วน Night Mode ของ Motorola Edge+ ต้องบอกว่า ภาพที่ได้ค่อนข้างจะอันเดอร์อยู่หน่อยๆ (underexpose) อย่างไรก็ตาม รายละเอียดของภาพก็ยังถือว่าให้มาครบๆ อยู่ ส่วน Dynamic Range ยังคงจำกัด โดยถ้าถ่ายแบบใช้ไฟ Flash (ไม่ได้เปิด Night Mode) ค่า Exposure และ White Balance ตรง แต่พื้นหลังกลับดำมืดไปเลย

การถ่ายวิดีโอ

แม้ว่า Motorola Edge+ จะสามารถถ่ายวิดีโอที่ความละเอียดสูงสุด 6K 30fps แต่ในผลการทดสอบครั้งนี้ ทาง DxOMark จะทดสอบเฉพาะแบบ 4K 30fps เท่านั้น โดย Motorola Edge+ คว้าคะแนนไปทั้งหมด 101 คะแนน น้อยกว่ามือถือตัวท็อปๆ ในตลาดอย่าง Galaxy S20 Ultra และ iPhone 11 Pro Max อยู่เพียงแค่ 1 คะแนนเท่านั้น (แต่ยังห่างพวกตัวโหดอย่าง Find X2 Pro และ P40 Pro อยู่)

Play video

จากวิดีโอตัวอย่างจะเห็นว่า การถ่ายวิดีโอบน Motorola Edge+ ถือว่าค่อนข้างดีงามเลยทีเดียวไม่ว่าจะเป็นการจัดการ noise ที่ทำได้ดี ให้ Dynamic Range ในระดับดี แถมระบบ Autofocus ก็แม่นยำอีกด้วย

สรุป

Motorola Edge+ ถือเป็นสมาร์ทโฟนอีกหนึ่งรุ่นที่ถ่ายรูปได้ค่อนข้างดี โดยจะมีจุดเด่นอยู่กล้องหลังความละเอียด 108 ล้านพิกเซล ที่ในผลการทดสอบนี้จัดว่าเป็นตัวเอกเลยก็ว่าได้ แทบไม่มีที่ติเลย แต่ก็มาเสียตรงที่กล้อง Ultra-Wide และ Telephoto ที่ไปไม่สุดนี่แหละ ซึ่งตรงนี้บางคนอาจจะไม่คิดอะไรมาก เพราะเอาเข้าจริง มันก็ไม่ได้ถือว่าแย่ แต่ถ้าไปเทียบกับพวกตัวท็อปๆ ในตลาดที่สามารถซูมทั้งแบบ Optical และ Digital ได้แบบไกลลิบ Motorola Edge+ ก็อาจจะเสียเปรียบอยู่หน่อยๆ ตรงนี้ อย่างไรก็ตาม หากใครชื่นชอบในการถ่ายวิดีโอล่ะก็ Motorola Edge+ ก็จัดว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ไม่เลวเลย

 

อ่านเพิ่มเติม: DxOMark