Droidsans รัก ในหลวง

ภาพเดียวจบ :) ขอบคุณ Molome สำหรับแอพที่ช่วยทำภาพขึ้นมาได้อย่างรวดเร็วครับ
ภาพเดียวจบ :) ขอบคุณ Molome สำหรับแอพที่ช่วยทำภาพขึ้นมาได้อย่างรวดเร็วครับ
LG G Flex สมาร์ทโฟนหน้าจอโค้งขนาด 6 นิ้ว พร้อมฝาหลังลดเลือนริ้วรอยมีกำหนดจะวางจำหน่ายในประเทศแถบเอเชียอย่างสิงดโปร์และฮ่องกงช่วงกลางเดือนธันวาคมนี้ และอาจจะเข้ามาวางจำหน่ายในประเทศไทยด้วยเวปไซต์ทางการของ LG อย่าง LG Newsroom ได้รายงานว่า LG G Flex สมาร์ทโฟนที่มาพร้อมเทคโนโลยีหน้าจอโค้งขนาด 6 นิ้วซึ่งผลิตจาก P-OLED เพื่อดีไซน์ให้โค้งรับกับใบหน้า และฝาหลังที่สามารถลดริ้วรอยขีดข่วนหรือรอยขนแมวต่างๆ จากการใช้งานประจำวันได้ จะเริ่มวางจำหน่ายในฮ่องกงในวันที่ 8 ธันวาคม ตามด้วยสิงคโปร์ในวันที่ 13 ส่วนประเทศไทยนั้นทาง LG Newsroom ไม่ได้เอ่ยถึง แต่ดูเหมือนทาง Engadget อาจจะมีข้อมูลหรือคาดการว่าน่าจะวางจำหน่ายในประเทศไทยด้วยส่วนราคาของ LG G Flex นั้นลือกันว่าสูงถึง 940 เหรียญสหรัฐ งานนี้เราคงต้องรอลุ้นราคาเปิดตัวจริงๆ ว่าจะอยู่ที่เท่าไหร่กันแน่ เพราะถ้าเปิดมาเฉียด 3 หมื่นจริงๆ นี่คงได้แต่มองหละนะ ไม่มีปัญญาซื้อ หุหุหุsource : LG Newsroom via engadget
เวลาของปี 2013 นั้นใกล้จะหมดลงไปแล้ว และในปีนี้เราก็จะเห็นว่ามีสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตเข้ามาวางจำหน่ายในบ้านเรารวมกันเป็น 100 รุ่นก็ว่าได้ เพราะฉะนั้นในปีนี้ทาง DroidSans จึงได้ร่วมมือกับทาง Blognone และ MXPhone จัดตั้งรางวัล BE.S.T Awards (Best Smartphone & Tablet) ขึ้นเป็นครั้งแรก
เชื่อว่าหลายๆ คนนั้นชอบที่จะฟังเพลงจากสมาร์ทโฟนกันอยู่แล้ว แต่เรื่องของชิพเสียง (Audio chip) นั้นมักจะไม่ค่อยถูกกล่าวถึงสักเท่าไหร่นัก ทั้งๆ ที่บางผู้ผลิตเลือกหาชิพเสียงดีๆ มาใช้งานแต่ก็ไม่ค่อยมีการเน้นหรือนำมาโปรโมท และส่วนใหญ่ที่เราได้เห็นกันก็จะเป็นการปรับซอฟต์แวร์ของเครื่อง เช่น beats audio ที่ทาง htc นำมาใช้ ระบเสียง dolby dts ต่างๆ รวมถึง Sony เองที่มีการเปลี่ยนจาก Music Player มาเป็น Walkman ก็ยังไม่มีการนำเอาชิพเสียงมาใช้แต่อย่างใด ยังเป็นแค่ระบบซอฟต์แวร์เท่านั้นแต่การที่ Sony ได้เริ่มมีการรวมเอานวัตกรรมต่างๆ ของตนเอง ตั้งแต่จอภาพ BRAVIA Engine มาจนถึง X-Reality ส่วนทางด้านกล้องก็เริ่มมีการใช้ Sony G Lens รวมไปถึงระบบประมวลผลภาพถ่าย Bionz for Mobile ทำให้เรามีความหวังว่า ชิพเสียงระดับเทพอย่าง Sony S Master...
เดิมที Samsung Galaxy J นั้นได้เปิดตัววางจำหน่ายไปแล้วเฉพาะในประเทศญี่ปุ่นเท่านั้นครับ ถือเป็นรุ่นพิเศษที่ไม่ได้วางจำหน่ายทั่วโลก แต่วันนี้ทางสื่อไต้หวันได้รับบัตรเชิญจาก Samsung ให้มาร่วมงานเปิดตัวมือถือใหม่ในวันที่ 9 ธันวาคมนี้ โดยจากรูปภาพในบัตรเชิญค่อนข้างชัดเจนว่าเป็น Samsung Galaxy J ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ประเทศไต้หวันจะเป็นประเทศที่ 2 ของโลกที่มีรุ่นนี้วางจำหน่าย
ในยุคที่ผู้คนติดโซเชิยลกันงอมแงมแบบนี้ ทีมงาน TechWhatWhy ก็เกิดความสงสัยขึ้นมาว่า เหล่าสาวๆ พริตตี้มอเตอร์โชว์เนี่ย เวลาทำงานเค้าพกมือถือกันหรือเปล่า ? ขอขอบคุณ Mini Thailand เป็นกรณีพิเศษด้วยนะครับ (-/-)
ร่วมภาวนาให้ประเทศไทยพ้นวิกฤติคนไทยทะเลาะกันเองให้ผ่านกันไปได้ด้วยดีกับ Molome ที่ล่าสุดได้ปล่อยสติ๊กเกอร์และกรอบภาพชุดใหม่ออกมาในชุด Pray for Thailand ดาวน์โหลดและร่วมส่งกำลังใจกันได้แล้ววันนี้ที่ ถ้าใครยังงงๆ ไม่รู้จักแอพนี้ก็ลองไปอ่าน 10 เหตุผลที่ไม่ควรพลาดMOLOME ได้จ้า
รายงานข่าวล่าสุดจาก twitter ของ @SamsungMobileTH ที่ประกาศว่าจะนำเอา Nexus 10 รุ่นปี 2012 มาลดราคาเทกระจาดในบ้านเราเร็วๆ นี้ โดยมีการคาดการว่าราคาจะอยู่ที่ราวๆ 6-7 พันบาทเท่านั้น สำหรับใครที่สนใจก็รอติดตามกันได้เร็วๆ นี้ รายละเอียดและสเปคของ Nexus 10 นั้นขอให้ไปชมกันได้ที่ Droidsans Unbox : Nexus 10 ตัวพ่อของ Android Tablet 2013
บริษัทวิจัยทางด้านการตลาดอย่าง Kantar Worldpanel ได้รายงานส่วนแบ่งการตลาดของสมาร์ทโฟนที่ในช่วง 3 เดือนระหว่างสิงหาคมถึงตุลาคมของปี 2013 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปี 2012 พบว่า Android และ Windows Phone มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เจ้าตลาดยังคงเป็น Android ที่ 70.9% แต่ที่น่าสนใจคือ Windows Phone นั้นเติบโตจนครองส่วนแบ่งตลาดไปถึง 10% แล้ว ส่วนทางด้าน iOS นั้นการมาของ iPhone 5s และ iPhone 5c ไม่ได้ช่วยอะไร เพราะส่วนแบ่งตลาดลดลงจาก 20.8 เหลือ 15.8% เท่านั้น ตัวเลขที่อยู่ในตารางด้านบนนั้นมาจากกลุ่ม EU5 หรือ 5 ชาติหลักของกลุ่ม EU ซึ่งประกอบด้วย สหราชอาณาจักร เยอรมัน ฝรังเศส อิตาลี และสเปนการเติบโตที่น่าตกใจของ...
เผื่อใครบางคนจะไม่รู้นะครับ ว่าใน News Feed หรือหน้าแรกของ Facebook เนี่ยมันมีการปรับเนื้อหาให้เข้ากันกับความสนใจของแต่ละคน เปิดของเพื่อนสามคนจะไม่มี News Feed ที่เหมือนกัน และถ้าได้อ่าน News Feed ของใครสักคนก็แทบจะบอกความเป็นตัวตนของเค้ามาได้ระดับนึงเลยทีเดียว โดยที่ Facebook สามารถทำได้ขนาดนี้ก็เกิดจากการที่เค้ามีการเขียนอัลกอริทึ่ม (algorithm) หรือสูตรการวิเคราะห์ข้อมูลของแต่ละคน ดูว่าเราชอบเพจอะไร ไลค์สเตตัสแบบไหน เม้นท์อะไรบ้าง แล้วก็เลือกข่าวหรือโฆษณามาให้เราอ่านนั่นเอง ซึ่งล่าสุดทาง Facebook มีการปรับตัวอัลกอริทึ่มให้เลือกการแสดงผลแบบใหม่ - จากที่เราได้เห็นภาพฮาๆ หรือว่า Meme แซวตลกๆเยอะๆใน News Feed - ปรับเปลี่ยนเป็นเนื้อหาหรือลิงก์ที่คนกำลังให้ความสนใจอยู่ขึ้นมาแสดงแทน ไม่ว่าจะเป็นข่าว, บทความ, ผลบอล, หรือเนื้อหาที่เราสนใจ