สรุปสเปค Samsung Galaxy Z Fold5 ต่างจากเดิมตรงไหน มีอะไรใหม่น่าสนใจ? รู้ก่อนเปิดตัวจริง ก.ค. 2023

Samsung Galaxy Z Fold5 เตรียมกลับมาอีกครั้งในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมที่จะถึงนี้ ซึ่งตอนนี้สื่อใหญ่จากต่างประเทศหลาย ๆ เจ้าก็ได้เริ่มฟันธงสเปคตัวเครื่องหลากหลายด้านแล้ว ในด้านดีไซนถึงแม้ว่าจะไม่ได้มีการเปลี่ยนจากในรุ่นก่อนมากสักเท่าไหร่ แต่บอกได้เลยว่าภายในได้รับการอัปเกรดใหม่เพียบ ส่วนจะมีอะไรบ้างเราได้สรุปมาไว้ในนี้หมดแล้ว

*ข้อมูลสเปคทั้งหมดยังไม่มีการคอนเฟิร์มใด ๆ จากทาง Samsung เป็นแค่การรวบรวมสเปคจากข่าวที่หลุดออกมาเท่านั้น เมื่อมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ข้อมูลอาจมีความคลาดเคลื่อนได้*

Galaxy Z Fold5 ปรับดีไซน์นิดหน่อย

โดยรวมแล้ว Samsung Galaxy Z Fold5 คาดว่าจะเปิดตัวมาในดีไซน์ที่คล้ายเดิมมาก ๆ แต่มี 1 จุดที่สังเกตได้ชัดคือ เลนส์กล้องเงางามที่ยื่นออกมาจากฐานรองกล้องพอสมควร (ภาพเครื่องจริงโดนลบไปแล้ว) ต่างจากรุ่นเก่าที่มีเพียงส่วนวงแหวนกล้องที่ยื่นออกมาเท่านั้น คาดว่าทาง Samsung น่าจะตั้งใจดีไซน์ให้ดูกลมกลืนกับ Galaxy S23 Series ในปีนี้ก็เป็นได้

จอ Galaxy Z Fold5 รอยพับน้อยกว่าเดิม สว่างมากขึ้น

อ้างอิงจากข่าวลือที่ผ่านมา ทั้งสองจอคาดว่าจะสว่างกว่าในรุ่นปัจจุบันที่เร่งแสงสุดได้ที่ 1200 nits แต่รุ่นใหม่นี้อาจขยับให้เทียบเท่า Galaxy S23 series ที่สว่างสูงสุดถึง 1750 nits ส่วนจอรองด้านนอกอาจเปลี่ยนวัสดุไปใช้กระจก Gorilla Glass Victus 2 ทนทานกว่าเดิม แต่ขนาดจอและสเปคอื่น ๆ นั้นยังไม่เปลี่ยนแปลง โดยจอด้านในจะมีขนาดอยู่ที่ 7.6 นิ้ว ใช้พาเนล AMOLED 120Hz ส่วนจอนอกมาในขนาด 6.2 นิ้ว พาเนล AMOLED 120Hz

*อัปเดตล่าสุด 22 / มิ.ย. / 2566* ทั้งสองหน้าจอใช้พาเนล Dynamic AMOLED 2X สว่าง 1,200 nits เหมือนเดิม

นอกจากนี้แล้ว Galaxy Z Fold5 คาดว่าจะเปลี่ยนไปใช้บานพับแบบใหม่ที่เรียกว่า Waterdrop Hinge Design โดยบานพับชนิดนี้จะช่วยลดรอยพับของจอด้านในได้ถึง 15% เมื่อเทียบกับในรุ่นก่อน แถมยังช่วยให้ตัวเครื่องพับประกับกันได้สนิทยิ่งขึ้น

ตัวเครื่องประกบกันสนิท ขนาดบางลง น้ำหนักเบา

บานพับ Waterdrop Hinge Design นอกจากจะช่วยลดรอยพับแล้ว ยังมีข้อดีอีกอย่างคือช่วยให้ตัวเครื่องพับสนิทมากยิ่งขึ้น ทำให้ตัวเครื่องไม่ประกบกันเป็นสามเหลี่ยมมีช่องว่างอยู่ตรงกลาง จึงช่วยให้ตัวเครื่องเมื่อพับประกบกันจะมีขนาด 13.4 มม. บางลงกว่ารุ่นเก่าราว ๆ 0.8 – 2.4 มม. และกางออกมาจะมีขนาด 6.1 มม. บางกว่ารุ่นก่อนประมาณ 0.2 มม. แถมยังช่วยลดน้ำหนักตัวเครื่องได้ราว ๆ 9 – 12 กรัมเลยด้วย

ทนฝุ่นมาตรฐาน IP58 เป็นครั้งแรก 

แน่นอนว่าในเมื่อตัวเครื่องประกบกันสนิทกว่าเดิมแล้ว ช่องว่างระหว่างตัวเครื่องก็หายไป ทำให้ในที่สุดปัญหา Pain Point ของมือถือจอพับเรื่องฝุ่นเข้าตัวเครื่องก็จะหมดไป เพราะมีข่าวลือว่าในรุ่นนี้จะได้รับการรับรองมาตรฐานทนน้ำ ทนฝุ่นระดับ IP58 เป็นรุ่นแรกของซีรีส์แล้ว ไม่ต้องกลัวเศษฝุ่น หรือทรายเล็ก ๆ เข้าไปทำอันตรายตัวเครื่องอีกต่อไป

*อัปเดต 26/ มิ.ย. /2566* แหล่งข่าวบางสำนักเผยว่า Galaxy Z Fold5 จะยังคงทนน้ำมาตรฐาน IPX8 เหมือนเดิม ยังไม่รองรับมาตฐานทนฝุ่นในรุ่นนี้

ใช้ชิป Snapdragon 8 Gen 2 For Galaxy แรงกว่า S23 Series

Galaxy Z Fold5 คาดว่าจะมาพร้อมกับชิปที่สร้างความประทับใจใน Galaxy S23 Series มาแล้วอย่าง Snapdragon 8 Gen 2 For Galaxy ที่ถูกปรับแต่งความแรงมาเพื่อมือถือเรือธงของ Samsung โดยเฉพาะ และเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา มีผลทดสอบของมือถือใช้ชิปที่คาดว่าจะเป็น Galaxy Z Fold5 (SM-F731U) โผล่มาบนฐานข้อมูลของ GeekBench

โดย Galaxy Z Fold5 ได้เก็บคะแนนทดสอบ Single-core ไป 2030 แต้ม ส่วนคะแนน Multi-core เป็น 5213 แต้ม ซึ่งถือว่าสูงว่าคะแนน Galaxy S23 Series ที่ Phone Arena เคยทำผลทดสอบเอาไว้ราว ๆ 1500/5000 แต้มเลยทีเดียว แต่อย่างไรก็ตามมีหลายปัจจัยที่ส่งผลให้คะแนนไม่นิ่ง ยังไงต้องรอยืนยันตอนเปิดตัวอย่างเป็นทางการอีกที

อัปเกรดชนิดความจุเป็น UFS 4.0

ในรุ่นนี้คาดว่าจะมาพร้อมกับรุ่นความจุคล้ายเดิม 3 รุ่น ได้แก่ 12GB + 256GB / 12GB + 512GB / 12GB + 1TB แต่ที่พิเศษในรุ่นคือได้ขยับชนิดหน่วยความจำจากเดิม UFS 3.1 กลายเป็น UFS 4.0 ที่สามารถทำความเร็วในการรับส่งข้อมูลได้สูงกว่า UFS 3.1 ถึง 2 เท่า แถมยังกินไฟน้อยกว่าเดิมถึง 46% เลยทีเดียว

กล้องถ่ายภาพอาจยังใช้เซนเซอร์ชุดเดิม

ยืนยันจากจอมแม่นอย่าง Ice Universe และนักปล่อยข่าวหลุดอีก 2 รายว่า Samsung Galaxy Fold5 จะมาพร้อมกับกล้องชุดเดิมที่ประกอบไปด้วย กล้องหลัก 50MP มี OIS + Ultrawide 12MP + Telephoto 10MP รองรับ OIS และการซูมแบบ Optical 3 เท่า ส่วนกล้องเซลฟี่ทั้งจอด้านนอก และกล้องใต้จอด้านในยังไม่มีข้อมูลว่าจะได้อัปเกรดมั้ย แต่มีข้อมูลว่ากล้องใต้จออาจมีการอัปเกรดคุณภาพ ทำให้ถ่ายได้ดีกว่าเดิม

*อัปเดตล่าสุด 22 / มิ.ย. / 2566* กล้องเซลฟี่บนจอหน้า และกล้องหน้าใต้หน้าจอจะยังคงใช้เซนเซอร์ความละเอียด 10MP และ 4MP เท่าเดิม

Galaxy Z Fold5 ติดตั้งมาพร้อมกับ One UI 5.1.1

ณ ขณะนี้ Samsung ได้ทำการทดสอบ One UI 5.1.1 เวอร์ชั่นล่าสุดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยคาดว่าน่าจะเปิดตัวมาพร้อมกันในงาน ส่วนฟีเจอร์ที่จะเพิ่มมาในเวอร์ชั่นใหม่ยังถูกอุบไว้อยู่ นอกจากนี้ Revegnus นักปล่อยข่าวหลุดเจ้าเก่ายังได้ออกมาทวีตยั่วน้ำลายไว้ด้วยว่า “ซอฟต์แวร์ของทั้ง Z Fold5 และ Z Flip 5 จะเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมมาก ๆ” ซึ่งแน่นอนว่าถ้าใบ้มาแบบนี้ เราอาจได้เห็นฟีเจอร์ใหม่ในโหมดจอพับ Flex Mode แบบจัดเต็มก็เป็นได้

ตัวเครื่อง 5 สีใหม่

Galaxy Z Fold 5 คาดว่าจะเปิดตัวมาด้วยกันทั้งหมด 5 สีใหม่ ณ ตอนนี้ยังไม่มีชื่ออย่างเป็นทางการว่าจะต้องเรียกว่าอะไร แต่อ้างอิงจากข้อมูลที่หลุดออกมาจะประกอบไปด้วย

• สีครีม Beige
• สีดำ Black
• สีฟ้าอ่อน Light Blue
• สีน้ำเงิน Blue
• สีเงิน Platinum

โดย 3 สีแรกจะเป็นสีมาตรฐานที่มีขายในทุก ๆ ที่ *อัปเดต 26/มิ.ย./2566* และตอนนี้มีการคอนเฟิร์มแล้วว่าสีใหม่ที่จะมาแน่ ๆ ในรุ่นนี้คือ สีดำ Black, สีครีม Beige, สีฟ้าอ่อน Light Blue โดยสีที่ซ้ำกับรุ่นที่แล้วมีการปรับเฉดสีตัวเครื่องให้อ่อนลง และดูเหมือนกันมากเกินไป เหมือนสีเขียวของ Galaxy S22 Ultra และ S23 Ultra นั่นเอง

ส่วนอีก 2 สีอย่างน้ำเงิน Blue และสีเงิน Platinum คาดว่าจะเป็นสีพิเศษ Exclusive ที่ขายเฉพาะในเว็บไซต์ Samsung.com เท่านั้น ซึ่งยังไม่แน่ใจว่าจะออกมาในเฉดไหน หากค้นจากรุ่นที่ผ่าน ๆ สีเงินเคยมีมาแล้วใน Galaxy Z Fold3 ในชื่อสี Phantom Platinum ที่จะเป็นสีเงินที่จะเหลือบสะท้อนเป็นสีโฮโลแกรมแบบจาง ๆ หรือจะเป็นสีเงินอมฟ้าเหมือนสี Space Silver ในรุ่นแรกก็ได้

ส่วนสีน้ำเงิน Blue ยังไม่เคยมีมาก่อนใน Z Fold Series แต่ก็เคยโผล่มาแวบ ๆ ในฐานะแถบสีบานพับที่มีให้เลือกคัสตอมในรุ่น Galaxy Z Fold2 อีกทั้งใน Galaxy Z Flip4 ก็มีสีน้ำเงินให้เลือกคัสตอมแบบ Bespoke Edition ต้องมารอดูกันว่าสีน้ำเงินที่ว่านี้จะออกมาในเฉดไหนกันแน่

สเปค SAMSUNG GALAXY Z FOLD5 (คาดการณ์จากสเปคหลุด)

• จอด้านใน : ขนาด 7.6 นิ้ว ความละเอียด 2176 x 1812 รีเฟรชเรท 120Hz (รองรับ S Pen ต้องซื้อแยก)
• จอด้านนอก : ขนาด 6.2 นิ้ว, ความละเอียด 2316 x 904 รีเฟรชเรท 120Hz ครอบด้วย Gorilla Glass Victus 2
• CPU : Snapdragon 8 Gen 2 for Galaxy
• RAM : 12GB
• ความจุ UFS 4.0 : 256GB / 512GB / 1TB
• กล้องหลัง 3 ตัว
  – กล้องหลัก 50MP ระบบกันสั่น OIS ออโต้โฟกัส Dual Pixel
  – กล้องอัลตร้าไวด์ 12MP
  – กล้องเทเลโฟโต้ 10MP ระบบกันสั่น OIS ซูม Optical 3x / Digital 30x
• กล้องเซลฟี่ด้านนอก : 10MP
• กล้องเซลฟี่ด้านใน (ใต้จอ) : 4MP
• การเชื่อมต่อ : 5G, WiFi 6e
• เซนเซอร์ : สแกนลายนิ้วมือ (ด้านข้าง), สแกนใบหน้า
• แบตเตอรี่ : 4,400mAh ชาร์จแบบสายไวสูงสุด 25W ชาร์จแบบไร้สาย 15W
• ระบบ Android 13 ครอบด้วย One UI 5.1.1
• มาตรฐานทนน้ำ / ทนฝุ่น: IP58
• ความหนา / น้ำหนัก : 13.4 มม. / 6.1 มม. / ราว ๆ 254 – 248กรัม

Samsung Galaxy Z Fold5 เปิดตัววันไหน ราคาเท่าไหร่

Samsung Galaxy Z Fold5 คาดว่าจะเปิดราคามาถูกกว่าเดิม เพราะในโซนอเมริกาลือกันแล้วว่าในรุ่นความจุเริ่มต้น 12GB + 256GB อาจเปิดราคามาที่ 1,699 เหรียญสหรัฐฯ หรือราว ๆ 59,000 บาทไม่รวมภาษี ซึ่งถือว่าถูกลงกว่าในรุ่นเดิมราว ๆ 100 เหรียญฯ (ประมาณ 3,500 บาท)

ทั้งนี้ราคาเริ่มต้นของ Galaxy Z Fold4 ในบ้านเราถือว่าถูกกว่าในตลาดอเมริกามาก ๆ เริ่มต้นที่ 59,900 บาท ซึ่งถ้าหากเราได้รับอานิสงส์นี้ด้วย ก็จะเปิดตัวมาที่ราว ๆ 56,xxx – 57,xxx บาท เท่านั้น

*อัปเดต 15 / ก.ค. /2566* ตอนนี้มีราคาเปิดตัวของฝั่งยุโรปหลุดครบออกมาทั้ง 3 รุ่นความจุแล้ว ดังนี้

• 12GB + 256GB ราคา 1,899 ยูโร หรือราว ๆ 72,675 บาท
• 12GB + 512GB ราคา 2,039 ยูโร หรือราว ๆ 78,050 บาท
• 12GB + 1TB ราคา 2,279 ยูโร หรือราว ๆ 87,228 บาท

สรุปสเปคหลุด Samsung Galaxy Z Flip5 ก่อนเปิดตัว ก.ค. 2023

ส่วนวันเปิดตัวเคาะแล้วว่าจะจัดขึ้นที่ย่านกังนัม ประเทศเกาหลีใต้ ในวันที่ 26 กรกฎาคม 2023 ภายในงานนอกจากจะมี  Z Fold5 แล้วยังมี Galaxy Z Flip5, Tab S9 Series และ Galaxy Watch6 Series รอเปิดตัวพร้อมกันด้วย ส่วนใครที่สนใจอยากได้มาใช้งานก่อนใครในโลก ทาง Samsung และค่ายมือถือต่าง ๆ ก็ได้ออกมาเปิดโปรจองรับเครื่องก่อนใครแล้ว สามารถเข้าไปอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้เลย

• Samsung Galaxy Z Flip5 และ Galaxy Z Fold5 เปิดจองรับเครื่องก่อนใคร รับสิทธิพิเศษ 3 ต่อฟรี ยืนยัน 26 ก.ค. 2023 มาแน่
• รวมโปรรับเครื่อง Samsung Galaxy Z Flip5 และ Galaxy Z Fold5 ก่อนใคร จากทุกค่าย AIS, TRUE, DTAC จองกับค่ายไหนคุ้มสุด

ที่มา: SamMobile (2) (3), GSMArena, PhoneArena (1) (2) (3), SmartPrix, @TheGalox_ (Twitter), Ice Universe (Twitter), Revegnus (Twitter)