เป็นเรื่องเป็นราวกันมาตั้งแต่ต้นปีกับ พ.ร.บ.ความมั่นคงไซเบอร์ ที่รัฐบาลพยายามผลักดันให้เกิดขึ้นมาแบบสุดตัว ซึ่งหลายๆคนให้ความเป็นห่วงถึงเนื้อหาของร่างที่เขียนมาให้สามารถตีความได้กว้างครอบจักรวาล กระดิกตัวนิดหน่อยก็มีสิทธิผิดได้ และให้อำนาจแก่เจ้าหน้าที่แบบล้นฟ้าในการเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของประชาชน จะแอบอ่านข้อความ หรือดักข้อมูลก็ทำได้ และแม้มีหลายๆฝ่ายพยายามเคลื่อนไหวให้แก้ไขหรือหยุดกฎหมายฉบับนี้ แต่ก็ไม่เปลี่ยนความคิดของรัฐบาลได้ วันนี้เราขอร่วมแสดงการไม่เห็นด้วย พร้อมสรุปความให้เพื่อนๆได้อ่านถึงร่างพ.ร.บ.นี้ และสิ่งที่พวกเราสามารถทำได้เพื่อช่วยกันหยุดมัน
พ.ร.บ.ฉบับนี้คืออะไร ทำไมต้องสนใจ
พ.ร.บ.ฉบับนี้เป็นหนึ่งในนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลที่ต้องการแก้ไขกฎหมายบางส่วน และได้มีการเพิ่มพ.ร.บ.ความมั่นคงไซเบอร์นี้ขึ้นมาเสริมจากพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ (ที่ก็น่าห่วงไม่แพ้กัน) ซึ่งเนื้อหามีความกำกวม เขียนคำนิยามเอาไว้กว้าง และให้อำนาจเจ้าหน้าที่แบบล้นฟ้า(อ่านต่อ) ในการเข้าตรวจสอบข้อมูลส่วนตัวของประชาชนแบบล้วงลึกระดับที่ความลับไม่มีในโลกอีกต่อไป จะคุยอะไร ถ่ายภาพที่ไหน โอนเงินเท่าไหร่ ฯลฯ เจ้าหน้าที่มีสิทธิ์รู้หมดโดยที่ไม่ต้องขออนุญาต แค่หาเหตุที่ดูเข้าข่ายก็ลุยดูคนที่ต้องการได้เลยทุกซอกทุกมุม และซ้ำร้ายหากบริษัทข้ามชาติที่กำลังสนใจมาลงทุน หรือปัจจุบันดำเนินธุรกิจในไทย เจอกฎหมายนี้เข้าไป มีสิทธิ์ถอยหนีกันหมด เพราะความปลอดภัยของข้อมูลพวกเค้าไม่เหลืออีกต่อไป โดยรัฐบาลให้เหตุผลในการตรากฎหมายนี้ขึ้นมาเพียงว่า “ไว้จัดการพวกหมิ่นฯ”
ถ้าไม่ได้ทำผิด จะต้องกลัวอะไร?
ต้องกลัวเพราะเราไม่รู้ว่าคนที่มีอำนาจในมือนั้น เค้าจะใช้อำนาจในทางที่ถูกต้องแค่ไหน เจ้าหน้าที่มีเป็นหมื่นเป็นแสนคน มันต้องมีทั้งคนที่ดีและไม่ดี และควรต้องเข้าใจคำว่า “ความเป็นส่วนตัว” ซึ่งในประเทศที่พัฒนาแล้วเค้าจะจริงจังกับเรื่องนี้มาก เพราะนั่นหมายถึงการเคารพในสิทธิส่วนบุคคลของประชาชน แม้ว่าเราจะไม่ได้ทำผิดอะไร เราก็ต้องมีเรื่องส่วนตัวที่ไม่ได้อยากจะให้ใครมายุ่มย่าม รู้ไปซะทุกอย่างของเราแน่นอน ส่วนว่าถ้าเจ้าหน้าที่ทำผิดลุแก่อำนาจ อันนี้คงไม่ต้องถามถึงว่าจะลงโทษอะไรอย่างไร เพราะในร่างนี้ไม่มีพูดถึง ลอยตัวกันแบบสุดๆไปเลย
credit: ภาพจากเพจเสี่ยแนน (ถ้าใครเจอภาพอื่นๆน่าสนใจวานบอกเพิ่มเติมนะครับ)
ถ้ายังสงสัยอยู่ลองไปอ่าน “ถามมา-ตอบไป สำหรับคนที่ไม่เข้าใจว่าทำไมประชาชนทุกคนควรค้านชุดกฎหมายความมั่นคงดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็นเสื้อเหลือง เสื้อแดง นกหวีด สลิ่ม ไม่มีสี ฯลฯ” ที่ทางคุณ Sarinee Achavanuntakul ได้เขียนแชร์เอาไว้ และมีการส่งต่อกันอย่างล้นหลามดูครับ
หรือถ้าขี้เกียจอ่าน ก็แนะนำลองดู เจาะข่าวตื้นที่ พ่อหมอและนายจูวิญญอน ได้เคยพูดถึงเอาไว้แล้วทีนึง สั้น ง่าย กระชับ ได้ใจความมากครับ
มาถึงขนาดนี้แล้วยังทำอะไรได้อีกเหรอ?
จนถึงปัจจุบันร่างกฎหมายฉบับนี้ผ่านมติของคณะรัฐมนตรีไปเรียบร้อย เหลือเพียงการอนุมัติจากสนช.ที่ยังไม่เคยให้ร่างไหนไม่ผ่าน แม้ว่ามีการคัดค้านจากหลายฝ่ายทั้งที่ปรึกษารองนายกปราม สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ออกมาเรียกร้อง รวมถึงล่าสุดกลุ่มธนาคารก็ออกมาให้ความกังวล แต่ว่าทางรัฐบาลก็ดูจะไม่ฟังอะไรทั้งสิ้น จะดันร่างนี้ให้ตราออกมาเป็นกฎหมายท่าเดียว
แต่แม้ว่าเราจะอยู่ในยุคของคนดีครองเมือง คืนความสุขกันทุกวัน ก็อยากบอกทุกคนว่าอย่าเพิ่งสิ้นหวังไป เรายังควรที่จะร่วมด้วยช่วยกันเรียกร้อง กดดัน และปกป้องสิทธิ์ของเราให้ถึงที่สุด โดยตอนนี้มีตั้งแคมเปญให้ร่วมลงชื่อคัดค้านร่างนี้กันผ่าน change.org ซึ่งเราอยากขอให้เพื่อนๆเข้าไปช่วยกันกด และบอกต่อให้ทุกๆคนได้ร่วมรับรู้กันด้วย ยิ่งมากเท่าไหร่ยิ่งดี คนที่สั่งการเรื่องนี้จะได้รู้ว่ามีประชาชนไม่เห็นด้วยมากมายขนาดไหนครับ
หยุดชุดกฎหมาย “ความมั่นคงดิจิทัล”
มาช่วยกันรักษาสิทธิ์ และทำให้การสื่อสารของพวกเรายังคงปลอดภัยดังเดิมกันครับ
ขอบคุณข้อมูลจากเพื่อนรัก blognone ที่คอยแชร์เรื่องนี้มาโดยตลอด
สามารถกดเข้าไปอ่านและติดตามเรื่องนี้เพิ่มเติมได้ที่ https://www.blognone.com/topics/law
ในสถานการณ์แบบนี้ประชาชนไม่มีสิทธิ์แสดงความคิดเห็นอะไรอยู่แล้วครับ ที่เห็นว่าบรรยากาศความตึงเครียดมันผ่อนคลายลงนั้นมันเป็นแค่ภาพลวงที่เขาอยากให้เรามองแบบนั้น แต่จริงแล้วสถานการณ์มันไม่ได้ต่างกับวันที่22พฤษภาของปีที่แล้วเลย เสรีภาพและสิทธิของประชาชนมันหมดไปแล้วตั้งแต่วันนั้น การแสดงความเห็นหรือการเรียกร้องสิทธิใดๆก็ตามจะถูกมองว่าเป็นภัยเสมอครับ ต้องศึกษาความคุ้มค่าที่จะเสี่ยงเรียกร้องสิทธิด้วยครับ
ปล ผมไม่เคยลืมครับว่าอะไรหรือใครมันทำให้สิทธิของผมถูกทำลาย
ถ้าเรามีบ้านเป็นของตัวเองเมื่อไหร่ เราก็จะมีสิทธิใช้สิทธิของเราอย่างเต็มที่ครับ ไม่นานหรอกครับผมทันเห็นแน่นอน
จะพูดอะไรได้ คุ……………………….ก รอทุกคนอยู่ แล้วแต่ ความเมตตาของเค้า จะให้ใครเข้าก่อน (อยากให้เค้ามากันเหลือเกิน) ซวยเลยประเทศ
ร่วมลงชื่อแล้วจะถูกเรียกตัวไปสืบสวนหรือเปล่านี่ ชักหวั่นๆ อิอิ
ถ้า "ผู้สร้างแคมเปญ" มองว่าเสรีภาพในการแสดงออกบนอินเทอร์เน็ต คือ ได้ด่าพ่อแล้วไม่ผิด (มุ่งไปจุดนั้นเป็นหลัก)
เสรีภาพแบบนี้ผมไม่ต้องการผมและไม่สนับสนุนครับ
https://thainetizen.org/2013/05/thailand-online-expression-freedom-2012/
ผมคิดว่าจุดประสงค์หลักของแคมเปญนี้ไม่น่าจะใช่อย่างนั้นนะคับ พรบ. ฉบับนี้ออกจะละเมิดสิทธ์เกินไปหน่อย จนท.สามารถยึดทั้งโทรศัพท์ โน้ตบุ๊ค แฮกข้อมูลได้ทุกอย่าง เพียงแค่เค้า 'คิดว่าเรากระทำผิด' โดยไม่ต้องขอหมายศาลใดๆ เราจะมั่นใจได้อย่างไรว่าข้อมูลเราจะปลอดภัย แล้วคุณมั่นใจจริงๆหรอว่าคุณไม่ต้องการเสรีภาพในด้านนี้ ยกตัวอย่างง่ายๆ เวลาคุณคุยกับใครสักคนเรื่องทั่วๆไปนี่แหละ แล้วอยู่ๆก็มีใครไม่รู้มายืนฟังสิ่งที่คุณคุยกันโดยที่คุณไม่สามารถไล่หรือทำอะไรเค้าไปได้เลย เราจะอยู่กันแบบนั้นจริงๆหรอคับ….
ผมว่าประเด็นมันอยู่ที่ขอบเขตอำนาจกว้างขนาดนั้น แต่ถ้าทำพลาดขึ้นมา ความรับผิดชอบละ? ขนาดไหน
หรือขอโทษก็จบ แล้วคนโดนกล่าวหาจะทำอะไรได้ ถ้าจะบอกว่าไม่ทำผิดจะกลัวอะไร
คนถูกกล่าวหาเสียเวลา เสียเงิน เสียภาพลักษณ์ทางสังคมไปเลยนะครับ
อำนาจมันล้นเกินไป ผู้ที่มีอำนาจอาจจะยัดความผิดให้เราก็ได้
อันนี้แหละ ที่แยกแยะไม่ออก
นึกง่ายๆ ตำรวจบุกร้านเนตแล้วก็ไปหอบคอมออกมา เขาทำได้ทันทีเลยแค่เขาสงสัย
ซึ่งขนาดสมัยก่อนมีกฎหมายไม่ให้ทำ ยังทำได้ ถ้ากฏหมายนี้ออกมา เสือติดปีกเลยล่ะครับ
สามารถทั้งยึดทั่งขู่กันได้เป้นว่าเล่น แค่เค้าสงสัย
มันสายไปแล้ว เพราะเราเรียกปีศาจออกมากันเอง ต้องยอมรับความจริงตอนนี้ระบอบการปกครองเปลี่ยนไปเรียบร้อยแล้ว
รู้เขา รู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง
ใครชอบฟาร์ม ระวังให้ดี ฝ่ายตรงข้ามมีโปรเปิดหมอกทั้งแผนที่ละ
พวกมากลากไป ใครใหญ่ได้อยู่…
พวกหมิ่นฯ นี่คงไม่ได้รวมพวกหมิ่นรัฐบวมด้วยหรอกนะ
ชอบกันนักนิครับ นกหวีด
ชอบกันนักนิครับ ปฏิรูป
เป็นไงครับวันนี้ พวกคุณชาว it รู้สึกเดือดร้อนกันบ้างหรือยัง
ผมเคยเตือน เคยเสนอแล้ว แต่ถูกด่าว่า
"นี้มันบอร์ด it อย่าโยงการเมือง"
ี
ตอนนี้จะโดนละเมิดสิทธิรู้สึกอย่างไรบ้างครับ
ไม่เห็นโลง ไม่หลั่งน้ำตาครับคนไทย
ปล ผมเคารพพี่ๆ แอดมิน ทุกคน แต่แค่อยากบอกว่า
การเมือง สำคัญกับเราทุกคน ไม่ว่าจะอาชีพไหนๆ
กรุณา "เดือดร้อน" ก่อนที่ภัยจะมาถึงตัวครับ
ทุกวันนี้มันสายแล้วครับ เขามีกฎอัยการศึก เราทำอะไรไม่ได้หรอกครับ
ผมยังยืนยันว่าอย่าโยงการเมือง เพราะไม่ว่าใครขึ้นมาบริหารผมต่างก็เห็นการละเมิดสิทธิ์และใช้อำนาจในทางมิชอบด้วยกันทั้งสิ้น ซึ่งการค้านในช่วงเวลาใดก็ตามก็ไม่สามารถทำได้เช่นกันถ้าประชาชนไม่ร่วมกันต่อต้านครับ
ถูกต้องนะคร๊าบบบบ
+1
เห็นด้วยครับ
++1000
อาจมีคนชอบแตรนะครับ
เข้าเรื่องผมก็ลงชื่อคัดค้านไปแล้วครับ
และอยากให้คนอื่นที่ไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ช่วยกันลง ไม่ใช่เพียงเพราะไม่ชอบฝ่ายนี้ ชอบฝ่ายนั้นเลยต้องหาเรื่องค้าน
ไม่ใช่ครับ ไม่ว่าฝ่ายไหน ก็ไม่ควรมีใครที่สามารถละเมิดผู้อื่นได้มากมาย และไม่ควรมีใครถูกละเมิดได้อย่างอิสระ
มันหมดเวลารักษาสิทธิ์ ตั้งแต่ เสียระบอบไปแล้วครับ ตอนนี้เราไม่ต่างอะไรกับการอาศัยบ้านเขาอยู่ครับ เจ้าของบ้านพูดอะไรก็อย่าไปหืออือ ให้ยอม ๆ ไป อย่าหลอกตัวเองว่ายังมีสิทธิ์อีกเลย มันไม่มีตั้งนานแล้ว (อยากลองก็ไปลอง ผมไม่ขวางหรอก เดี๋ยวก็รู้เอง) มันต้องเข้าใจสถานการณ์สิครับ ว่าทำไมเขาต้องออกกฏหมายนี้ เพราะมันทำให้เขาไม่มีความมั่นคง ไม่ใช่เรื่องอื่น ๆ เลย (ลองไปหาคลิป นาซี ดูเยอะ ๆ จะเข้าใจ)
แล้วคุณ leonoinoi คิดว่าเราประชาชนควรทำยังไงครับ
ผมขอตอบ แทนคุณleo นะครับ
ในทาง ทฤษฎี – ข้อควรปฏิบัติ (ทางกฎหมาย) ของประชาชนตอนนี้คือ
1.อยู่เฉยๆ
2.ระวังตัว หาข้อมูล การป้องกันการสอดแนมเบื้องต้น (เช่นอาจเปลี่ยนรหัสผ่านบ่อย)
3.รอรัฐธรรมนูญถาวร
4.รอการเลือกตั้ง
และสำคัญที่สุด
****ข้อ5 รอรัฐ ยกเลิก กฎอัยการศึก****
ขอแค่ยกเลิกกฎอัยการศึก ได้
ประชาชน จะทำอย่างไรก็ได้ครับทีนี้ จะคัดค้าน หรือทำอย่างไรก็ได้
แต่ตอนนี้ หาวิธีหลบเลี่ยง ป้องกัน น่าจะดีสุดครับ
เพราะการ คัดค้าน ตอนนี้ เท่ากับเรา "ไม่ยอมรับอำนาจรัฐ"
ซึ่งในทางกฎหมาย รัฐ สามารถ"อ้าง"ได้ว่าเราขัดขวางการปกครองของรัฐ และอาจใช้กฎหมายลงโทษเราได้(โดยรัฐไม่มีความผิดใดๆ)
ผมใช้คำว่า "รัฐ" ไม่ใช่ คณะ คสช. เพราะในฐานะที่ รัฐ (นานาอารยะประเทศถือ รัฐ เป็นนิติบุคคล) ต้องมีผู้กระทำการแทน ซึ่งตอนนี้คือ คสช. เราก็ต้องยอมเขาก่อนแหละครับ
+1 รอครับ จนกว่าจะเปลี่ยนระบอบกลับมา แต่ถ้าไม่มีเลือกตั้ง คราวนี้ละเรื่องใหญ่เลย ต้องพูดว่า เทียนอันเหมิน เลยทีเดียว (ระบอบนี้ คือเราอาศัยบ้านเขาอยู่ไม่มีสิทธิ์ ถ้าเป็น ปชต. เราถึงเป็นเจ้าของบ้านร่วมกัน ถึงมีสิทธิ์) ปชต. มันถึงสำคัญไงครับ
ถามสั่นๆว่าถ้าไม่ดูอล้วจะรู้ได้ไหงว่าใครหมิ่น มันก็ต้องดูทุกคนนั้นหละ
มันดูได้ แต่ต้องมีระบบควบคุมที่ชัดเจนครับ ไม่ควบคุมเลยเอาไปดูเรื่องอะไรก็ได้ไม่ผิด ตรวจสอบยาก
ปกติการค้นบ้านยังต้องมีหมายศาล ไม่ใช่ตำรวจอยากเข้าบ้านก็เข้าไปได้ คือมีอีกหน่วยงานช่วยพิจารณาความเหมาะสมว่าเหตุที่จะค้นบ้านมันควรหรือไม่
กดไลค์ตรงไหน
ส่วนตัวไม่ได้มีสีนะ อายุผมก็พอสมควรแล้ว รายงานเล่มตอนจบ ป.ตรี
ก็ทำเรื่อง ข้อเสียของประชานิยม-เผด็จการแฝง ตอนนั้นยุคทักกี้ฟีเวอร์
อาจารย์ยังถามว่าจะทำเรื่องนี้จริงหรือ
เห็นบทความนี้ตั้งแต่ในเฟซ อยากจะลงชื่อ พอกดไปก็เล่นให้กรอก
ชื่อจริง-นามสกุลจริง ซะเต็มแมก ก็ห่วงสวัสดิภาพตัวเองเหมือนกัน
เลยไม่ได้ลงชื่อร่วม ขอแอบเชียร์เงียบๆแล้วกัน
ส่วนตัวเฉยๆนะ อยากส่องอยากดูไรก็ทำไป ไม่รู้สึกเดือดร้อนอะไร ต่อให้ไม่มี พรบ ถ้ามันจะแอบทำก็คงจะทำได้อยู่แล้ว แต่ถ้ามีเรื่องไม่ดีในสังคมแล้วมีกฏหมายรองรับให้ใช้เป็นหลักฐานได้ก็ดี
อำนาจมันเกินคำว่าส่องครับ ถ้าคุณโดนใส่ร้ายแน่นอนคุณเดือดร้อนแน่ๆ แล้วไม่มีใครอยากจะเดือดร้อนหรอกครับ
ยืดอุปกรณืได้ด้วย มือถือ คอมพิวเตอร์ ไม่ใช่แค่ส่องนะ ถ้าเกิดเจ้าหน้าที่เอาข้อกฎหมายนี้มาหากิน
มีคนสุจริตเดือดร้อนแน่ๆ พวกร้านเนตนี่ไม่รอดอยากยึดก็เข้าไปยึดเลย
พวกอนุรักษ์นิยม ยังมีอยู่ใน ประเทศนี้ การสูญเสียอำนาจเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ ( thailand only ) เราแค่คนตัวเล็กๆจะทำไรได้ ส่วนตัวคิดอย่างเดียว *** กรรม *** เท่านั้น !!! ที่จะรอผู้ที่กระทำ แต่น่าสมเพชคนเหล่านี้ที่ไม่เคยเชื่อเรื่อง *** กฏแห่งกรรม ***
ไม่นะอย่าเอาประชาธิปไตยชั้นไป!!!
ผมอ่านภาษากฎหมายแล้วไม่เข้าใจครับ
ที่บอกว่าเข้าถึงข้อมูลการติดต่อสื่อสารทั้งในและนอกโลกไซเบอร์ได้โดยไม่มีกระบวนการตรวจสอบ มันระดับไหนครับ
แค่ฐานข้อมูลรึเปล่า เพราะถ้ามีการเข้ารหัสที่ฐานข้อมูลก็พวก user/password ก็ยังปลอดภัย การทำธุรกรรมผ่าน internet ก็ยังปลอดภัย
แต่ถ้าสามารถดักจับก่อนเข้าไปถึงฐานข้อมูล แบบนี้ก็ไม่ปลอดภัยใดๆ ทั้งสิ้นครับ
ทุกอย่างและทุกช่องทางครับ
มีอำนาจแฮ็คโดยไม่มีความผิดอ่ะครับ
ผมเกลียดนกหวีดกับเกลียดธงชาติไปแล้วครับ ไม่มีวันกลับมาชอบได้อีกแล้วผมมั่นใจกล้าพูดแบบไม่กลัวเงิบว่า มีคนเกลียดเหมือนผมเกินครึ่งประเทศ ถ้าไม่เชือก็เลือกตั้งสิ ที่สลิ่มมันขวางเลือกตั้งเพราะมันรู้อยู่แก่ใจว่าเสียงสู้ไม่ได้ แถมยังมาอ้างว่าคุณภาพสำคัญกว่าปริมาณอีก ความคิดนี้น่ารังเกียจที่สุด คนคิดแบบนี้อยู่ร่วมด้วยมีแต่จะเดือดร้อน ถ้าไม่รีบแยกกันอยู่ในอนาคตได้มีการทำลายเผ่าพันธุ์กันแน่ๆ
กด like ตรงไหน แต่ผมไม่ได้เกลียดนะครับ แต่ไม่ชอบที่มันเอามาเป็น เครื่องมือเพื่อทำลายฝั่งตรงข้ามที่คิดต่าง
เห็นด้วยเหมือนกัน อยากให้แยกๆไปสะ มี 2รัฐไปเลย แยกบริหารชัดเจนไม่เกี่ยวข้องกันจะได้จบๆ
ถูกต้องครับ ต่างคนต่างอยู่ไม่ทะเลาะกัน100% ถ้าอยากอยู่ด้วยกันจริงๆเวลาจะเป็นตัวพิสูจน์ครับ แต่ต้องแยกกันให้เร็วที่สุด ก่อนจะเกิดเรื่องที่ใช้อาวุธก็ควบคุมไม่ได้ ลองศึกษาสถานการณ์ช่วงยุคปลายก่อนจีนจะเปลี่ยนการปกครองสิครับ เหมือนกันเป๊ะๆอย่างกับแกะ ทุกอย่างมันมีเวลาของมันครับ ฝืนไปก็ทำได้แค่รั้งเวลาไว้ให้นานขึ้นอีกนิดก็เท่านั้น สิ่งโบราณก็ควรจะเก็บไว้ในยุคโบราณดีกว่าครับ
สิ่งที่กำลังพูดอยู่นี้ทางเราไม่สนับสนุนและผิดกฎหมายแบบชัดเจน
ถึงยังดังดันจะคุยเรื่องนี้อยู่เราจะขอลบความเห็นส่วนนี้ครับ
และเนื้อหาไม่ได้เกี่ยวกับเนื้อข่าว รวมถึงเว็บเลยด้วยซ้ำไปครับ
สมน้ำหน้าพวกบอกว่าตัวเองคือคนดี… คนดีเค้าไม่ตกเป็นเครื่องมือของคนเลวๆแบบนี้หรอก ถ้ามันทำสำเร็จนะ… จะไม่เหลือคำว่าเป็นส่วนตัวเลย คอยดู!!! ประเทศโลกที่สามกำลังจะเกิดละ
ผมเห็นด้วยว่าสายไป ขืนทำอะไรตอนนี้ ก็ถูกเรียกตัวไปเท่านั้นเอง คุณอาจจะคิดว่าดีกว่าไม่ทำอะไร แต่ผมคิดว่า ไม่ทำอะไรดีกว่า ให้เก็บเรื่องนี้ไว้ แล้วรอจนถึงวันที่เรียกร้องได้ (และควรจำเรื่องนี้ไว้เป็นบทเรียน จะประท้วงอะไร ไม่ใช่เท่ ให้ดูแผนที่ซ่อนอยู่ให้ออก คราวหลัง จะได้ไม่พาประเทศลงคลอง)
เหมือนของ อเมริกาเลย
ปี๊ด…ปี๊ด…ปี๊ด…ปี๊ด…ปี๊ด…ปี๊ด…ปี๊ด…ปี๊ด…
หายหัวไปไหนกันหมดค้าบบบบ
ณ จุดผมว่าควรแยกประเด็นกันก่อนนะ ไม่โยงการเมืองนะ
นี้หละครับการเมืองถ้านกหวีดไม่โหยหาจะมีวันนี้ไหม คิดดู ยาง ข้าว น้ำมันปาล์มเริ่มอีกแล้ว พวกชอบ เผด็จการเป็นไงตอนนี้ถูก ลิดรอนสิทธิของตองเองเรียบร้อย
ตอน Eปูให้ราคายางสูงไม่เอาปิดถนนจะเอา 120 ตอนนี้เป็นไง ต้องก้มกราบให้ช่วยราคายางพารา เป็นไงนกหวีดติดคอไหมหละมึง นี้หละโหยหาเผด็จการมันมีอะไรดีขึ้นไหม ไง การบินไทยรักกรวยกำนันเท่าฟ้า โดนปลด กันเป็นแถว กินนกหวีดเถอะมึง มาส่องกระทู้นี้ซิ เดี๋ยวเชิญไปปรัป ทัศนคติ สวยหรู มันก็แค่กักขังข่มขู่บีบบังคับ หรือไม่จริง ตอบตัวเองก่อน
ใครโหยหาอะไรครับ?
คำตอบิยู่ในตัวของมันแล้วครับ อ่านดีๆที่เป็นอย่างนี้เพราะต้องการให้เขา ปฏิวัติ ไม่ใช้เหรอเห็นบ้านเมืองสงบดีออกมาเป่านกหวีดปีดๆให้ทหารออกมา ไม่ใช่เหรอครับ อย่างนี้ไม่เรียกโหยหาเรียกว่าอะไร แปลว่าต้องการหรือเปล่า
แล้วโดนเรียกตัวไปปรับทัศนคติ 555
ถุย…..เถอะครับ
คนที่คัดค้านพ.ร.บ.นี้ เท่าที่ทราบยังไม่มีใครโดนเรียกหรืออุ้มนะครับ
รู้ได้ไงครับเป็นคนออกคำสั่งเหรอครับ
นั่นสินะ ผมก็ไม่ทราบ แล้วคุณทราบมั้ยครับว่ามีใครโดนอุ้มรึยัง?
ผมก็ไม่ทราไงก็เลยถาม ว่าคุณออกคำสั่งเหรอถึงกล้าตอบได้ว่า ยังไม่มีใครอุ้ม ถ้าอุมใครจะรู้ บอกว่า ปลองดองกอดกัน แต่เอาปืนจ่อหัว
ปัญหาคือ ประเทศเรา ยังยึดติดกับ สถาบันต่างๆ มากเกินไป และ สถาบันนั้นไม่มีการปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัย
การที่ออกร่างกฏหมายนี้ออกมา ทำให้
1.การวิจารณ์เพื่อให้เกิดการพัฒนาทำไมได้
2.การวิพากย์เพื่อให้แนวคิดสร้างสรรค์ทำไม่ได้
3.มีการควบคุมความคิดให้อยู่ในกรอบ ซึ่งทำได้ในสมัย 30-1000ปีก่อน
4.ทำให้มีการต่อต้านอย่างรุนแรงแน่นอน
5.สิทธิส่วนบุคคลจะหมดไป วิธีการง่ายสุด คือ เลิกใช้ Social หรือ สร้าง Social ของประเทศเราเองออกมา(ถ้าจะทำนะ) แล้ว Block port Social อย่างอื่นให้หมด
6.และที่สำคัญในอนาคต หาก เหลือง แดง ส้ม เขียว น้ำเงิน สีอะไรก้ตามเป็นใหญ่ก้สามารถจัดการกับฝ่ายตรงข้ามได้อย่างง่ายดาย
7.ขณะนี้บ้านเราโดนลดความเชื่อถือ ด้านทรัพยากรมนุษย์ อยู่ในระดับ Tier3 คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนทำงานได้ด้อยประสิทธิภาพมากๆ ดังนั้น การออกร่างกฏหมายตรงนี้ ทำให้ประเทศเราลดลงไปอยูาเกือบต่ำสุด ทำให้โดนตัด GSP ต่างๆนาๆ แค่นี้ เหลือแต่คนจีนมาเที่ยวประเทศเราแล้ว ตะวันตกเริ่มหันไปประเทศที่อื่น อย่าลืมว่า ฝรั่งใช้เงินต่อหัวต่อวัน เยอะกว่าคนจีน 5-10 เท่า ดังนั้น เน่าๆ
ซึ่งประเทศที่พัฒนาแล้วเขาจะใช้แนวคิดที่บูรณาการมากกว่านี้เพราะ การปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัย และเทคโนโลยี
ทุกๆชาติในโลกนี้ประกอบด้วย ประชากร ซึ่งถ้าไม่มีสถาบันอื่นก็ยัง เป็นชาติได้
ประเทศเราพัฒนาไปแค่เทคโนโลยี แต่ไม่ปรับตัว
คนที่ รักและนับถือในสถาบันใดๆ ย่อมหวงแหนและไม่อยากจะให้แก้ไข มันเหมือน อนุรักษ์นิยมมากเกินไป
แน่นอนว่า บ้านเรา อันดับ 1 คือ ราชวงศ์
คนที่รัก เฉยๆ หรือ เกลียด ย่อมมี ข้ออ้างในหลักศาสนาพุทธว่า แม้แต่พระพุทธเจ้าก็ยังมีคนรักและเกลียด
ขอยกตัวอย่างว่า ถ้าใส่ร่างกฏหมายตรงนี้ไปว่า สมมติตรวจสอบแล้วเจอ คนโพสด่าพุทธศาสนาให้จับเข้าคุก ปลายทางก็ยังไม่ต่างกันเท่าไหร่
ถุยเหอะครับ ตลอดเวลาคนที่ออกมาวิจารณ์สถาบัน มีหน้าไหนสักตัวที่มีหลักฐาน มีความจริงบ้างนอกจากใส่ความ บิดเบือนครับ
เอาแค่กรณีบูลไดม่อน ที่พยายามกันจัง เอาภาพชุดเครื่องเพรชที่มีมานานก่อนกรณีบูลไดม่อนมาใส่ความ
แบบนี้คือการวิจารณ์เพื่อพัฒนา
เป็นเ_ี้ยอะไรนักหนาถึงอยากวิจารณ์สถาบันกันนัก ?????
ขนาดมีกฎหมายยังทำระยำกันแบบนี้
ปัญหาของ พรบ นี้คือให้อำนาจแบบไม่ระบุขอบเขตให้ชัดเจนและไม่มีกระบวนการเอาผิดคนที่ใช้อำนาจโดยทางมิชอบ
แต่โดยส่วนตัวผมกฎหมายแบบนี้จำเป็นต้องมี เพื่อกันพวกตัวเ_ี้ยครับ
เข้าใจว่าเซนเซอร์แล้ว แต่ก็ลดอารมณ์ลงหน่อยนะครับ
ผมก็เห็นด้วยครับ
ที่ US ก็มีแบบนี้ …สงสัยว่า ที่โน่นคงไม่ได้เป็นประเทศที่เคารพสิทธิฯ และปกครองด้วยระบบเดียวกัน กับไทย !
+1
ก็ตามคุณ milabis เลยครับ ชัดเจนดี
เอาเถอะครับ ถ้ามันห้ามหรือทำอะไรไม่ได้ เราก็ต้องลองดูกันละครับ เมื่อถึงเวลาที่เค้าเริ่มจริงๆ ก็จะรู้กันเองมันเป็นยังไง และควรปรับควรแก้ไขกันอีกยังไง *0*
นับวันยิ่งเห็นไส้ ของผู้ปกครองยุคนี้ ว่าต้องการอะไรแน่
คือประสาทว่ะครับ
พรบ.นี้ออกและผลักดันโดยนักการเมือง ความเห็นหลายๆท่านในกระทู้นี้เลยโยงเข้าการเมือง!!!!
แต่มาตอบเค้าว่าให้แยกแยะ/อย่าโยงเข้าการเมือง บลาๆ
พวกเขาเหล่านั้นไม่ได้โยงเข้าการเมือง แต่มันเป็นการเมืองมาตั้งแต่ต้น มันเป็นทั้งเรื่องการเมือง/ระบอบการปกครอง เรื่องไอที เรื่องกฏหมาย เรื่องสังคม/สิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน
งงกับตรรกะ
ถ้าไม่อยากให้คนเค้าโยงเข้าการเมือง(เพราะมันเป็นเรื่องการเมือง อย่างที่กล่าวไปแล้วข้างต้น) มันทำให้ไม่สบายใจนัก
ก็ไม่ต้องเสนอ"หน้า"เอาข่าวมาลง หรือรณรงค์แคมเปนที่แทบจะมิอาจส่งผลใดๆต่อผู้ผลักดันกฎหมายนี้ได้เลยแม้แต่นิด
เค้าก็บอกอยู่ "ว่าจะผ่านแล้ว จะทำไม"
รู้สึกจะสับสนในตัวเองอยู่พอควรละนะคนๆนี้
ตามนั้นเลย เห็นด้วยมากครับ เผด็จการ!!!
คุณ Gimme คงจะลืมนึกถึงไปหลายอย่าง
1. ไม่ใช่ทุกคนจะสามารถแยกแยะได้
2. ไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถเรียกร้องสิทธิ โดยไม่เกี่ยวโยงกับการเมืองได้
แต่อย่างน้อยก็ควรจะมีมารยาทในการโต้แย้งบ้างนะครับ
มันก็คงยากที่จะไม่พาดพิงถึงการเมือง เพราะอารมณ์มันพาไปแล้ว…
แต่มันก็ไม่น่ายากที่จะพูดถึงเรื่องพวกนี้ในแง่มุมอื่น
ผมไม่เคยเรียกร้องให้พวกนี้เข้ามาบริหาร เพราะรู้อยู่แล้วว่าคนที่มีอำนาจสั่งลูกน้องขวาหันซ้าบหันได้ดั่งใจมาตลอดชีวิต เมื่อเข้ามาบริหารประเทศก็ย่อมทำแบบนี้กับประชาชนเช่นเดียวกัน แต่เมื่อทำไม่ได้ก็จะทำทุกอย่าง ทำทุกวิถีทางให้ได้ตามที่ตัวเองต้องการ ไม่ว่าสิ่งนั้นจะริดรอนสิทธิและเสรีภาพประชาชนแค่ไหนก็ตาม
น่าแปลกใจที่คนบางกลุ่มที่เรียกร้องพวกนี้เข้ามายังไม่ตระหนักและสำนึก หรือว่านี่อาจจะเป็นประชาธิปไตยสมบูรณ์ที่พวกเขาเรียกร้องก็ได้
ป.ล.ส่วนเรื่องทุจริต คอรัปชั่น ฝันไปเถอะครับว่าจะไม่มี แต่มันอาจจะไม่มีก็ได้ เพราะเค้าบัญญัติศัพท์ใหม่แล้ว "ส่วนต่างมากเกินไป"
ผมรู้แค่ว่าก่อน รบ นี้เข้ามา แต่ละหน่วยเนี่ย 40% แต่หลังเข้ามาก็ไม่รู้แล้วครับ
ผู้นำ มาแล้วก็ไป
กฎหมายอยู่ต่อ
กฎหมายที่ดี ไม่ว่าอยู่ในมือใคร ก็ควรเป็นสิ่งที่ดีต่อไป
ถ้าคุณเห็นด้วยกับกฎหมายตัวนี้ ตอนนี้
ต้องถามว่าคุณจะยังแฮปปี้ดีไหมหากอำนาจอันเดียวกันนี้ วันนึง ย้ายไปอยู่ในมือฝ่ายที่คุณไม่ชอบเป็นผู้ควบคุม
ผมเห็นด้วยกับหลายๆความเห็นครับ ที่ตอนนี้มันสายไปแล้วที่พวกคุณจะมาเรียกร้องหาสิทธิเสรีภาพในโลกไซเบอร์ ในเมื่อกฏอัยการศึกก็ยังคงอยู่ , ม.44 พร้อมเอามาใช้ได้ทุกเมื่อ
ถ้าจะมีใครสักคนลุกขึ้นมาเรียกร้องผมก็อยากเห็นแกนนำ droidsans เป็นตัวตั้งตัวตีในการเรียกร้อง หรือออกไปประท้วงเหมือนกัน
ข้ามไปถึงนกหวีดหรือธงชาติจนได้ เพิ่งรู้ว่าในนี้มี "ติ่ง" เยอะ เอาเป็นว่ากฏหมายนี้น่ากลัว เป็นดาบสองคมที่อันตราย อยากคุยการเมืองก็จะการเมืองด้วยละกัน ใครที่อัดอั้นอยากแยกประเทศกันอยู่ เริ่มจากแมนๆออกมารับจ่ายภาษีแทนกระผมที่ต้อง มาจ่ายเพื่อใช้หนี้จากนโยบายเฮงซวยที่คนมีสิทธิ์เท่ากับผมเขาเลือกไอ้พวกบ้านั่นมาทำไว้ด้วย ถ้าทำไม่ได้ก็เงียบเหอะนะ รำคาญ จะย้ายประเทศเมื่อไหร่ก็ไปได้นะ ไม่มีใครเขาห้าม เบื่อจริงๆ อ่านในเวปนี่ยังมาเจอการเมือง
นโยบายเฮงซวย จากรัฐบาลไหนมั่งครับ?
แล้วคุณจ่ายภาษีแทนผมในโครงการรถไฟความเร็วปานกลางมั้ยครับ โครงการไมค์ทองคำคุณได้จ่ายแทนใครมั้ย โครงการสติกเกอร์ไลน์ด้วย
อย่าแต่จำเค้ามาแสดงความเห็นเลยครับ ทุกโครงการของทุกรัฐบาลไม่มีใครต้องจ่ายแทนใครหรอกครับ เพราะประชาชนไม่มีสิทธิใช้จ่ายภาษีอยู่แล้วไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลไหน
แล้วฝากถึงคนที่ชอบไล่ให้คนอื่นไปอยู่ที่อื่นนะครับ อยากถามคุณกลับว่าคุณคิดว่าคุณมีสิทธิมีเสียงในประเทศนี้หรือแผ่นดินนี้มากสักแค่ไหนกันครับ ถึงได้มั่นใจมาไล่คนอื่น
เค้าเรียกว่าไล่ทั้งๆที่ตัวเองก็ไม่มีสิทธิ
ไปอ่านดีๆ ใครบอกว่าจะแยกกันแน่ สับสนอะไรรึเปล่า ตรรกะของคุณนะไม่ใช่ของผม ไม่ว่าใครก็ต้องจ่ายทั้งนั้น แล้วจะมาแยกประเทศทำอะไร
ไปอ่านดีๆ ใครบอกว่าจะแยกกันแน่ สับสนอะไรรึเปล่า ตรรกะของคุณนะไม่ใช่ของผม ไม่ว่าใครก็ต้องจ่ายทั้งนั้น แล้วจะมาแยกประเทศทำอะไร
.." ความคิดนี้น่ารังเกียจที่สุด คนคิดแบบนี้อยู่ร่วมด้วยมีแต่จะเดือดร้อน ถ้าไม่รีบแยกกันอยู่ในอนาคตได้มีการทำลายเผ่าพันธุ์กันแน่ๆ " …vs…" ถ้าทำไม่ได้ก็เงียบเหอะนะ รำคาญ จะย้ายประเทศเมื่อไหร่ก็ไปได้นะ ไม่มีใครเขาห้าม เบื่อจริงๆ อ่านในเวปนี่ยังมาเจอการเมือง "
นี่คือสิ่งที่ผมตอบ… เห็นต่างได้ แต่เห็นต่างแล้ว มายุให้แยกประเทศกันอยู่ ผมว่าไร้สาระ คนคิดแบบนี้ควรไปไกลๆ ไม่มีใครห้าม ถ้าคุณไม่ได้คิดแบบนั้น แล้วผมแปลผิดก็ขอโทษ แต่ถ้าคุณคิดอย่างนั้น ก็แนะนำว่าให้รีบไปนะ ไม่ได้มีใครห้าม แต่ถ้าไม่ได้คิดก็ไม่เห็นต้องมาเดือดร้อนนี่ ??
ส่วนเรื่องภาษี อันนี้อาจจะเป็นคำชวนตี แต่จริงๆความหมายผมก็คือยังไงไม่ว่าใครทำผม (หรือก็คุณด้วยน่ะแหละ) ก็ต้องจ่าย จะมายุให้แยกกันอยู่ทำไม อีกอย่างเขาพูดเรื่องกฏหมายก็ยังจะไปเอานกหวีด ธงชาติมาเกี่ยว
ขอย้ำอีกครั้ง "เบื่อจริงๆ อ่านในเวปนี่ยังมาเจอการเมือง"
ขอถามอีกครั้ง "นโยบายเฮงซวย" ของรัฐบาลไหนมั่งครับ
สำหรับผม(คนเดียว) นโยบายรัฐบาลที่แล้ว ถือเป็น "นโยบายเฮงซวยมากๆ" ทำธุรกิจผมแทบไม่รอด ใครขึ้นมาจะดีไม่ดีผมดูจากผลกระทบที่เกิดขึ้นกับตัวผมเท่านั้น
กด Like เลย
ยังมีคนคิดแบบนี้อยู่… ถึงเป็นแบบนี้เหอะๆ
+10000
โดยส่วนตัวก็เชียร์ทหารนะ แต่พรบ.ผมไม่เห็นด้วยอย่างมาก ความเป็นส่วนตัวนี่เรื่องใหญ่นะครับ อย่าบอกว่าไม่ได้ทำผิดก็ไม่ต้องกลัว กลัวเรื่องส่วนตัวสิครับ ถ้าเกิดเราคุยเรื่องที่ไม่ถูกศีลธรรมขึ้นมาแน่ใจเหรอไอ้คนที่ตรวจสอบจะไม่ปากพล่อย
ครับ ถ้าคิดว่าผมจะก่อการร้าย ยึดมือถือผม เผอิญใน โทรศัพท์ผม มีคลิปผมกับแฟน…กัน แต่เผอิญอีกว่าตรวจสอบเครื่องแล้วไม่มีการกระทำผิดในทางก่อการร้าย แล้วคุณคิดว่า คลิปผมกับแฟน จะโด่งดัง ใน เวป Bit มั้ยครับ
เหรอครับ คุณคิดแค่นั้นเหรอครับ? แคบมากครับโลกของคุณ
เข้าการเมืองทีไร ตีกันเองทุกที ถ้าสวนกระแสตอนนี้ คงโดนยำแน่ ๆ 555
หัวข้อคือ เรื่อง พ.ร.บ. ใหม่…..เรื่องอื่นช่างมันก่อน
คุณรวมตี้ ไปตีบอส แต่ดันห่วงเก็บเวล จะโดนบอสตบตายเอานะ
เรายังต่อสู้ได้จนกว่าจะบังคับใช้…..เหมือนกับการจีบหญิง คุณก็ยังจีบเขาได้(ถึงเขาจะไม่ชอบคุณ) จนกว่าเขาจะแต่งงานแหละ…อย่างน้อยก็ได้พยายาม
เสริมให้อีกหน่อย กับเรื่องส่วนตัวนะ สำหรับคนที่ยังไม่กลัว
คุณรู้สึกยังไงกับ Folder ที่ชื่อว่า "ห้ามเปิด", "ความลับ", "เงินเดือน", "แผนดำเนินการ", "Password", "xxx" << คุณอยากเปิดดูอันไหน เป็นอันแรก
อะไรที่เป็นข้อมูลปกปิด มันจะมีแรงดึงดูให้ คนที่เห็นมัน อยากจะเปิดดูเสมอ
และ อะไรที่เป็นข้อมูลปกปิด มันจะมีมูลค่าเสมอ
เห็นด้วยครับ…ยกตัวอย่างหากเป็นข้อมูลสำคัญของบริษัทคู่แข่งแล้วผมต้องการรู้ เผอิญผมมีพรรคพวกอยู่ในกลุ่มที่มีสิทธิ์ตรวจสอบ ….แล้วอะไรจะเกิดขึ้น??
ไอ้ครั้นจะทำยังไงก็ห้ามไม่ได้หรอกหัวขบวนฟังใครเขาที่ไหน
แต่ขอให้ตัด"ดุลพินิจ"กับไม่ต้องรับผิดชอบออกไปเถอะ
"ดุลพินิจ"ของข้าราชการไทยที่ผ่านๆมา ส่วนใหญ่ก็เล่นพรรคเล่นพวกทั้งนั้น
ใครเข้าดูของผม ผมฟ้องกลับเอาให้หนักเลยต่อให้เป็นราชการก็เถอะ ถือว่าละเมิดสิทธิส่วนบุคคล อย่าให้รู้ว่าแอบดูของผมแหละกัน เจอกันแน่ๆ ( แต่ถ้าจะดูขอให้ส่งข้อความหรือหนังสือมาก่อน ) ผมถึงจะให้ดู เข้าใจ
ด้วยความเคารพ พี่ gimme นะครับ
ผมต้องออกตัวก่อนว่า ผมศึกษา ปริญญา ด้านกฎหมายมา
(ตอนนี้กำลังจะสอบเน)
ผมไม่เก่งเรื่อง it เทียบกับพี่ๆ admin ในนี้
แต่ลักษณะ การออกกฎหมายแบบนี้ มี 3 ประเด็นที่ต้องพิจารณา
1.เป็นการให้อำนาจที่ไม่มีขอบเขตแก่เจ้าหน้าที่
2.ไม่มีบทลงโทษเจ้าหน้าที่ที่ใช้อำนาจนั้น
3.เป็นการออกกฎหมายที่ มีลักษณะ "เชื่อมโยงทางรัฐศาสตร์การปกครอง"
(หรือแปลง่ายๆ ข้อ3 เป็นการออกกฎที่ "เชื่อมโยงการเมือง")
คือ จาก "ถ้อยคำ" ตัว พรบ ส่อให้เห็นถึง
1.ความไม่ชอบมาพากลในการใช้อำนาจ
2.เป็นการ ละเมิด สิทธิ ส่วนบุคคล ซึ่งขัดต่อ ปฏิญญาสากล ที่ไทยเคยทำไว้กับต่างชาติ
ซึ่ง ผมอยาก "ขอเตือน" เพื่อนสมาชิค และพี่ๆ admin ว่า
ณ เวลานี้ อย่าต่อต้าน น้ำเชี่ยวอย่าเอาเรือขวาง เหตุผลเพราะ
1.มีกฎอัยการศึก สามารถ "เอาผิด" บุคคลที่กระทำการ ขัดขวาง หรือ "ส่อ" ว่าจะจัดขวาง การปกครองของรัฐ ได้
2.ต่อให้พี่ gimme บอกว่า ณ เวลานี้ไม่มีคน ถูกอุ้มหรือโดนจับ
แต่อย่างไรก็ตาม เขาสามารถ "อุ้ม" ได้ทุกเมื่อ
แล้วผมถามนิดนึงครับ ถึงเวลานั้น(ถ้าโดนอุ้ม) พี่ gimme จะทำอย่างไร
จะบอกว่า ประชาชน จะลุกฮือ?
ต้องลุกฮือเท่าไรครับถึงจะเพียงพอ ที่ชาวโลกจะได้ยินว่าเราโดนจำกัดสิทธิ
ปล รุ่นน้องผม ลงชื่อกันนับ หมื่นคน ภายในมหาลัย(เพื่อเรียกร้องให้ทหารยกเลิกกฎอัยการศึก)
ทุกอย่างไม่มีผลครับ
เมื่อก่อนน้ำแล้ง แต่ยังพอมีบ่อบาดาลให้กินใช้ เราไม่พอใจ
ทุกวันนี้ น้ำท่วม ทุกอย่างพัง เราจะร้องขออะไรใครได้ครับ
ความ "น่ากลัว" ของกฎอัยการศึก มันมีมากกว่าที่พี่ gimme คาดไว้นะคร้บ
ด้วยความเคารพ
อ่านถึง น้ำเมี้ยวว ผมนึกถึง น้ําเงี้ยวเลย
แล้วมันจะมีทางหยุดได้ไหม ถ้าค้านไม่ได้
หรือต้องให้ทุกคนทั้งประเทศค้าน จึงจะหยุดได้
กฏควรจะมีไว้ เพื่อความสมดุล ไม่ใช่เพื่อเอาเปรียบสิ
ทำได้ครับ…..คงทำได้แค่ทำใจยอมรับมัน เดี๋ยวก็ชิน!!!!
เอ่อ ผมก็ว่ามัน แปลกๆ น้ำเมี้ยว 555
ก็อย่างที่บอกครับ น้ำเชี่ยว อย่าเอาเรือขวาง
ตอนนี้ที่ทำได้คือ
1.ประชาชนต่อต้าน ทั้งประเทศ ย้ำว่าทั้งประเทศ คือ 80%ขึ้นไปของคนในประเทศ (ข้อนี้ยากมากๆ)
2.รอให้มี รัฐธรรมนูญถาวร หรือ มี ประชาธิปไตย ถาวรก่อน
ไม่ใช่ว่า การคัดค้านตอนนี้มัน ไม่ดีนะครับ มันดีครับ แต่มันไม่ถูกเวลา
ผมถึงบอกว่า ตอนนี้ เงียบได้เงียบ เก็บปากไว้กินข้าว เก็บมือไว้เขียนประวัติศาสตร์ ที่ถูกต้อง ดีกว่า
เห็นด้วยว่าไม่ควรเรียกร้อง ตอนนี้ครับเพราะไม่มีประโยชน์ กฏหมายควบคุมอินเตอร์เน็ต มีเพื่อความมั่นคงของรัฐบาลเขา เขาไม่ฟังคุณหรอกครับ รอจนกว่า ปชต กลับมา แล้วค่อยร้องครับ
เห็นด้วยว่าไม่ควรเรียกร้อง ตอนนี้ครับเพราะไม่มีประโยชน์ กฏหมายควบคุมอินเตอร์เน็ต มีเพื่อความมั่นคงของรัฐบาลเขา เขาไม่ฟังคุณหรอกครับ รอจนกว่า ปชต กลับมา แล้วค่อยร้องครับ
ขอบคุณที่เป็นห่วงครับ 🙂
แต่ด้วยความที่อยู่สายนี้ การที่จะให้อยู่เงียบๆไม่เขียนไม่บอกอะไรให้คนอื่นได้ทราบเลยมันก็รู้สึกแปลกๆเท่านั้นแหละครับ อย่างน้อยก็ได้เขียนบอกว่ามันมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นให้ได้ทราบกันก็ยังดี
ขอบคุณ พี่กิม
ขอบคุณ ทีมงาน admin
ขอบคุณที่ไม่นิ่งเฉยครับ
ทำให้สาย นิติศาสตร์ รัฐศาสตร์อย่างผม
เห็นว่า นักข่าวสาย it ยังมี จรรยาบรรณกว่า นักข่าวสายการเมือง กว่าหลายๆที่ดังๆอีกครับ
สักวันประชาชนจะเป็นใหญ่ ไม่ต้องถูกปิด หู ตา ปาก เหมือนทุกวันนี้ครับ 🙂
จริงๆ พื้นฐานที่เราต้องรู้ก่อน ตามหลักสังคมศาสตร์ (ซึ่ง นิติศาสตร์/รัฐศาสตร์ เป็น subset) คือ
"สิทธิส่วนบุคคล ไม่ใหญ่ไปกว่า สิทธิประโยชน์ของสังคม"
ดังนั้น โดยพื้นฐาน ผมมองว่ามันทำได้
โดยจะเห็นว่า อเมริกา กับ อังกฤษ ก็เริ่มออกกฎหมายแนวๆนี้กันเต็มสูบ
ไม่รวม NSA กับ Prism ที่แอบทำไปก่อนหน้านี้แล้ว
ถ้าไล่เหตุผล ของ จุดเริ่มของกฎหมายนี้ น่าจะเป็น
กรณี LINE ของคนที่คุณก็รู้ว่าใคร สั่งหลิ่วล้อให้ใช้อาวุธนั่นแหละ
แต่ บ. LINE ไม่ให้ความร่วมมือ จึงทำให้ข้อมูลที่จะโยงกับคนที่คุณรู้ว่าใคร ให้ชัดๆ นั้นทำไม่ได้
คนที่ดันกฎนี้ คิดว่าถ้ามีกฎนี้ จะสามารถเข้าถึงข้อมูลตรงนี้ได้
โดยผลพลอยได้ น่าจะเป็นโจรใต้อีกหนึ่งพวก
แต่ ส่วนตัว ผมว่า กฎนี้เป็น ดาบ2คม
โดยคนออกกฎ ไม่ได้คิดว่า ถ้าขั้วอำนาจพลิก อาจซวยหนักกว่าเก่า!!!
ประเด็นที่ผมมอง จึงไม่ใช่ว่า "ไม่ควรมีกฎนี้" เลย
ตามการเพ้อถึง "สิทธิส่วนบุคคล" ที่พูดต่อๆกันมา แล้วบอกต่อๆกันไป ว่อนเน็ตไปหมด
แต่จะมองรูปแบบของกฎนี้ให้ "รัดกุม .. ไม่ถูกนำไปใช้เครื่องมือ ทางการเมือง" อย่างไรเสียมากกว่า
ชอบคำว่า ดาบ 2 คม เพราะ มันมีข้อดี และมันก็มีข้อเสีย
การจะเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวควรมีการออกหมาย หรือผ่านขั้นตอนการขออนุมัติ ไม่ใช่ให้ใครก็ได้ที่มีอำนาจสามารถเข้าถึงได้ทันที คนไทยบางส่วนที่เป็นบุคคลธรรมดา ตาสีตาสา อาจจะยังไม่รับรู้ถึงผลเสีย แต่บริษัทข้ามชาติที่มาตั้งในไทยเค้ากังวลแน่นอน
ขอเพิ่มเติมอีกหน่อย จริงๆ พรบ. นี้
เป็น พรบ. ที่สร้างมาเพื่อ โจมตีคู่แข่งทางการเมือง แท้
โจมตีอย่างไร ไปดู ทุกถ้อยคำ ทุก ประโยค ของเนื้อความ
ในตัวกฎหมายได้ครับ
ดังนั้นจะบอกว่า "มันไม่เกี่ยวกับการเมือง" ย่อมเป็นไปไม่ได้ครับ
ใช่ครับ พรบ นี้ เรื่องหมิ่นน่ะแค่ข้ออ้าง จุดประสงค์หลักคือความมั่นคงของรัฐบาลครับ
อ่านแต่ละคอมเม้นท์แล้วแยกสีออกเลย ถึงแม้จะไม่ยอมรับก็เถอะ
ผมนี่ แดงแจ๋ เลยครับ
ยอมรับก็เยี่ยมแล้ว
ผมนี ดำปี๋เลยครับ 555
กลูต้าเลยครับ
ยอมรับชะตากรรมกันเถอะพวกเรา
ถ้าหน้าอย่างไรหลังอย่างนั้น ไม่มีลับมีแจ้ง ผมคิดว่าผมไม่เดือดร้อน : )
เขาคงจะมีกฎบังคับว่า ผู้ที่จะเข้าถึงข้อมูลได้ ต้องเป็น "เจ้าหน้าที่ของรัฐบาล" เท่านั้น และต้องโดยคำสั่งของรัฐบาล เท่านั้นมั้ง?! คงไม่ใช่ว่าแค่ตำรวจต๊อกต๋อย หรือเจ้าหน้าที่กิ๊กก๊อกปลายแถวก็เข้าถึงได้ทุกคนหรอกมั้ง? น่าจะเป็นอย่างนั้นนะ ผมว่า!!
พวก cloud storage จะโดนไหมครับ ที่ว่าสามารถล้วงข้อมูลทุกอย่างได้ผมหวั่นๆ
ใครรู้ตอบผมที
server ไม่อยู่ไทยก็คงไม่โดนอุ้มทั้ง server แต่แค่ sniff ได้ก็น่าจะรู้ได้ว่าเรามีอะไรเก็บอยู่ในนั้นบ้างแล้วล่ะมั้ง
พวกหมิ่นคงดิ้นตายกว่าใครงานนี้ ทำเอาคนส่วนรวมเดือดร้อนด้วย ไม่หมิ่นไม่เกิด เดือดร้อนมากก็บางจำพวก ผมหรือไม่เดือดร้อนอยู่ล่ะ ไม่ได้ทำผิดกฏหมายไม่กลัว หุหุ
ผมจะบอกให้ว่าพวกหมิ่นมันไม่ดิ้นหรอกครับ เพราะส่วนมากก็อยู่ต่างประเทศทั้งนั้น รัฐบาลทำอะไรไม่ได้อยู่แล้วล่ะ
+112 555
ไม่เอา ไม่ถุยยได้ดิ้น ไม่ถ่อยแถวนี้น่ะ 55 พวกหมิ่นหัวหน้ามันอยู่ต่างประเทศกับพวกส่วนนึงหมิ่นตามเพจแต่ส่วนมากก็อยู่ในประเทศที่หมิ่นกันตามเพจต่างๆเป็นว่าเล่น หุหุ เห็นจะทุกวันตามเพจต่างๆ ออ เคยได้ยินมั้ย คนชั่วเท่านั่นที่กลัวกฏหมาย คนที่ทำผิดเท่านั้นที่กลัวกฏหมาย คนดีๆเขาไม่กลัวอะไรหรอกชีวิตปกติกัน 55555555+ เท่าที่เห็นที่ดิ้นๆก็ฝ่ายพวกนี้ล่ะ แอ๊บไม่เนียน รู้ใส้รู้พุงดันอยู่ล่ะ อ่าๆๆๆๆ
หมิ่น!!!! มันเป็นแค่ข้ออ้างครับ
ถุ๋ย
[youtube]NHNXTc1c4LQ[/youtube]
รับกรรมกันไปตามๆกันแล้วกัน บ๊ายบาย ความเสรี ในเมื่อรักจะอยู่กันแบบนี้
ผมปรับตัวได้ แต่ไม่ชอบเอามากๆ