คณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญคณะที่ 2 สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) มีคำสั่งลงโทษบริษัทเอกชนเจ้าใหญ่ เนื่องจากตรวจสอบแล้วพบว่ามีข้อมูลการซื้อสินค้าและข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้ารั่วไหลเป็นจำนวนมาก ทำให้มีคำสั่งฯ ระบุโทษทางปกครอง PDPA และต้องจ่ายค่าปรับเป็นเงินจำนวน 7,000,000 บาท ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่มีการสั่งปรับบริษัทเอกชนยักษ์ใหญ่ในประเทศไทยเลย
ใครที่ชอบถ่ายรูปในที่สาธารณะ หรือไลฟ์สดในที่คนเยอะ ๆ ระวังให้ดี เพราะกฎหมาย PDPA (Personal Data Protection Act) หรือ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ห้ามไม่ให้ถ่ายภาพและคลิปวีดีโอติดใบหน้า หรือเผยแพร่ข้อมูลส่วนตัวของคนอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต จะมีโทษทางแพ่ง อาญาและปกครอง โทษปรับสูงสุดถึง 5 ล้านบาท
Google ได้ออกมาประกาศยกระดับนโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy) ครั้งใหม่บนอุปกรณ์ Android ทั้งหมด โดยมีสาระสำคัญอยู่ที่ “การจำกัดการเข้าถึงข้อมูลการใช้งาน Apps ต่าง ๆ ที่ผูกอยู่กับการระบุตัวตนอุปกรณ์” แบบเดียวกันกับที่ทาง Apple ได้ประกาศใช้ไปก่อนแล้ว ซึ่งเล่นเอาแพลตฟอร์มโฆษณาดิจิทัลอย่าง Meta (Facebook) ต้องสูญเสีย MarketCap ไปร่วม 7 ล้านล้านบาทและอาจไม่หยุดอยู่แค่นี้หากต้องรับผลกระทบแบบเดียวกันจากฝั่ง Android ทั้งหมดอีกครั้งหลังจากนี้
Apple ถือเป็นหนึ่งในบรรดา Tech Giants ของโลกที่มักจะออกมาพูดถึงประเด็นความสำคัญในข้อมูลส่วนบุคคลและความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานเสมอ พร้อมเน้นย้ำอยู่บ่อย ๆ ว่า Apple ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวอย่างสูงที่สุด แต่ล่าสุดกลับดูเหมือนพวกเขากำลังละเลยเรื่องนี้ไปโดยสิ้นเชิงเมื่อมีการออกมายอมรับว่า Apple ยอมทำตามรัฐบาลจีนที่สั่งให้เก็บข้อมูลผู้ใช้งานชาวจีนทั้งหมดเอาไว้ใน Data Center ที่ประเทศจีนเท่านั้น และต้องพร้อมให้รัฐบาลเรียกตรวจสอบได้ตลอดเวลาตามกฎหมาย
หลังจากที่ Apple ได้ประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวใหม่ที่กำลังจะนำมาบังคับใช้บน iOS 14 ภายในช่วงปี 2021 ที่กำลังจะถึงนี้ ซึ่งจะมีการจัดระเบียบพร้อมจำกัดการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานอุปกรณ์ iOS ทั้งหมด และนโยบายนี้ส่งผลโดยตรงต่อธุรกิจของ Facebook และบรรดานักพัฒนา Apps ทั้งหลายที่พึ่งพารายได้จากค่าโฆษณา งานนี้ Facebook ออกตัวแรงโจมตี Apple ผ่านสื่อชื่อดังว่า iOS 14 ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อทำลายบรรยากาศ Free Internet และดึงรายได้จากนักพัฒนารายย่อยเข้าสู่ Apple’s Ecosystem ทั้งหมด ไม่แบ่งใคร !
ทางด้าน Wongnai แพลตฟอร์มไลฟ์สไตล์ครบวงจรรีวิว อาหาร ความงาม และท่องเที่ยวสัญชาติไทยแท้ได้ออกมายอมรับว่า ทางระบบได้ถูกมือดีเจาะเข้าสู่ฐานข้อมูลไปเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเผยว่าเบื้องต้นได้เร่งแก้ไขปิดช่องโหว่เป็นที่เรียบร้อยพร้อมแจ้งเตือนให้สมาชิกที่ได้รับผลกระทบข้อมูลส่วนบุคคลหลุดกว่า 4 ล้านรายการ ล่าสุด Wongnai ก็ออกนโยบายบังคับ Reset Password ให้กับผู้ใช้งานทั้งระบบ 15 พ.ย. นี้เพื่อความปลอดภัย
ในที่สุดเราก็กำลังจะมีกฎหมายที่มุ่งคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของพวกเราอย่าง พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) ประกาศใช้ไปเมื่อเดือน พ.ค. 2562 และจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 27 พ.ค. 63 นี้เป็นต้นไป แต่ทว่าล่าสุด ! ดันเกิดการชงเรื่องเข้าสู่ ครม. ที่มีมติไปแล้วเรียบร้อย ประกาศเลื่อนการบังคับปรับโทษสำหรับผู้ละเมิดกฎหมายนี้ออกไปก่อน หลังเชื่อว่าหน่วยงานจำนวนมากยังไม่พร้อมโดยเฉพาะจากสถานการณ์ Covid-19 งานนี้ไม่แน่ใจว่าใครได้ประโยชน์บ้าง แต่ที่ปฏิเสธไม่ได้เลยคือชาวเน็ตอย่างพวกเราอาจเสียประโยชน์จากการคุ้มครองสิทธิ์ไปเต็ม ๆ จนถึงเดือน พ.ค. ปี 64 เป็นอย่างน้อยเลยล่ะ
“พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล” ของไทยถูกประกาศใช้งานไปเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งเนื้อหาภาคบังคับอย่าง การขอความยินยอม (Consent) และการจัดการสิทธิ์ (Data Subject Rights) กำลังจะมีผลบังคับใช้จริงสิ้นเดือน พ.ค. นี้ ทำให้เหล่าธนาคารที่หาประโยชน์จากด้านนี้เป็นพิเศษ ต้องปรับนโยบายกันเป็นการด่วน ซึ่งเราจะพาไปสำรวจ Mobile Banking ทั้งหลายว่าเจ้าไหนพร้อมสุด ซึ่งน่าสนใจว่าส่วนมากส่อแววสอบตกหลังพบนโยบายบังคับยินยอมเพียบ
