Tesla มีข่าวฉาวซะแล้ว พบว่าคลิปโปรโมท Autopilot ระบบรถยนต์ขับอัตโนมัติจุดขายของค่าย ดันเป็นคลิปที่จัดฉากขึ้นมาให้ดูเหมือนว่ารถมีความสามารถมากเกินความเป็นจริง โชว์รถที่ขับเลี้ยวตามองศาถนนแบบนิ่ง ๆ แล้วจอดเพื่อส่งคน จากนั้นก็ไปเข้าซองจอดรถได้เอง ทั้งที่จริงแล้วมีการตั้งโปรแกรมรถเอาไว้ ไม่ได้ใช้ระบบปกติที่รถสามารถทำได้ในตอนนั้นครับ
แม้ว่าเทคโนโลยียานยนต์ไร้คนขับจะเริ่มพัฒนาไปเรื่อย ๆ แล้ว แต่ก็ยังไม่วายมีข่าวอุบัติเหตุจากรถยนต์อัตโนมัติออกมาให้เห็นกันอยู่บ่อย ๆ เพราะลำพังระบบ AI เองก็ไม่สามารถคาดเดาพฤติกรรมของผู้ใช้ท้องถนนที่เป็นมนุษย์จริง ๆ ได้แบบ 100% ซึ่งล่าสุดก็มีรายงานออกมาว่า ในโซนสหราชอาณาจักร หากรถยนต์ขับอัตโนมัติคันไหนไปชนใครเข้า จะถือว่าบริษัทเจ้าของรถยนต์เป็นผู้รับผิดชอบแทนคนขับที่นั่งอยู่ในรถครับ
ก่อนหน้านี้ก็ได้มีข่าวลือหนาหูเกี่ยวกับการที่ Apple กำลังซุ่มพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าของตัวเองอยู่ แต่ล่าสุดจากข้อมูลจาก Reuters ได้มีอัปเดตว่าทาง Apple มีโอกาสเริ่มผลิตรถยนต์ Apple Car จริง ๆ ในปี 2024 จากการคิดค้นแบตเตอรี่ Monocell ชนิดใหม่ อย่างไรก็ตามแหล่งข่าว Apple ชื่อดังอย่าง Ming Chi Kuo ออกมาให้ข้อมูลใหม่ว่า Apple จะเริ่มผลิต Apple Car ได้จริง ๆ เร็วที่สุดคือปี 2025 หรือถ้าเอาแบบเป็นไปได้ที่สุดคือหลังปี 2028 โน่นเลย
ช่วงปลายเดือนที่ผ่านมาทางเว็บไซต์ของ Nvidia ผู้นำด้านการผลิตชิปคอมพิวเตอร์ และการ์ดจอกราฟิกระดับโลก ได้จับมือกับแบรนด์รถหรูชื่อดังอย่าง Mercedes เพื่อที่จะร่วมกันพัฒนา Self-driving car สุดล้ำที่มีทั้งสมรรถนะการขับขี่ที่เหนือชั้น และ AI Software ที่ชาญฉลาดมายกระดับการขับขี่ เพื่อปฏิวัติวงการยานยนต์ทั่วโลก
ก่อนหน้านี้ Google และ Uber นั้นเคยมีคดีความเกี่ยวกับการขโมยเทคโนโลยนีและทรัพยากรมนุษย์กันในโปรเจคยานยนต์ไร้คนขับของทั้งบริษัทก่อนจะตกลงกันได้ในช่วงปี 2018 โดย Uber นั้นยอมยกหุ้นบางส่วนให้ Google เป็นการตอบแทนไป แต่ล่าสุดปรากฎว่าเรื่องจะยังไม่จบหลังจากอดีตวิศวกรระดับบริหารของ Uber (ซึ่งย้ายมาจาก Google อีกที) ถูก Google เรียกเงินค่าเสียหายเป็นเงินสูงถึงเกือบ 6 พันล้านบาท และ Uber ก็เตรียมตัดหางปล่อยวัด
มีข่าว Apple กำลังทดสอบระบบรถยนต์ไร้คนขับมาได้เป็นเวลาซักพักนึงแล้ว รวมถึงมีผู้พบเห็นรถทดสอบวิ่งตามท้องถนน (ภาพบน) ซึ่งล่าสุดก็มีสิทธิบัตรอันใหม่เกี่ยวกับเทคโนโลยีภายในรถไร้คนขับที่ทางค่ายผลไม้ได้ยื่นขอจดเอาไว้ได้รับการเผยแพร่ออกมาจาก United States Patent and Trademark Office (USPTO) ใช้ชื่อสิทธิบัตรว่า Adaptive vehicle augmented reality display using stereographic imagery หรือแปลว่าระบบหน้าจอแสดงผลแบบ AR ที่ใช้การฉายภาพแบบ stereographic สำหรับรถยนต์ โดยมันใช้เพื่อแสดงรายละเอียดบนกระจกหน้ารถด้วยโมเดลภูมิประเทศแบบ 3 มิติที่ผ่านการประมวลผลแล้วมาช่วยเสริมการประมวลผลคอนเทนต์ 3 มิติแบบเรียลไทม์อีกทีนึง
Google (หรือ Alphabet แล้วตอนนี้) นั้นมีโปรเจคที่กำลังทดสอบอยู่มากมาย และหนึ่งในนั้นก็คือโปรเจค Self-Driving Car หรือ รถไร้คนขับ ซึ่งตอนนี้ก็ดูเหมือนว่าจะเริ่มเข้าสู่กระบวนการทดสอบความสามารถอย่างจริงจังแล้ว เพราะมีรายงาน Google กำลังเปิดรับสมัครคนมาทดลองนั่งรถไร้ขับ โดยได้รับค่าตอบแทนเป็นเงิน $20 ต่อชั่วโมง หรือประมาณ 700 บาท เลยทีเดียวครับ
