งานนี้เรียกได้เลยว่า ทำเองใช้กันเองก่อนไม่รอชาวโลกแล้วนะ สำหรับประเทศจีน ที่ประกาศเริ่มเดินหน้าเปิดให้บริการเครือข่าย 5G เพื่อการพาณิชย์สำหรับประชาชนทั่วไปอย่างเป็นทางการแล้วตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา โดยเป็นการเริ่มให้บริการทีเดียวพร้อมกันทั้ง 3 เครือข่ายใหญ่ของรัฐบาลจีนเองเลย ราคาเริ่มต้นสุดย่อมเยาว์แค่ราว ๆ 549 บาทเท่านั้น

หลังจากทดลองระบบล่วงหน้ากันมาพักนึงแล้ว ล่าสุดทางรัฐบาลจีนร่วมกับเครือข่ายมือถือยักษ์ใหญ่ 3 รายอย่าง China Mobile | China Telecom | China Unicom พากันเดินหน้าเริ่มให้บริการบนเครือข่าย 5G อย่างเป็นทางการแล้ววันนี้โดยเริ่มมีโครงข่ายพร้อมให้บริการทันทีกว่า 50 เมืองทั่วประเทศจีนเลยทีเดียว แต่ที่น่าสนใจเป็นพิเศษ ก็คือทั้ง 3 ค่ายพร้อมใจกันเปิดตัวโปรโมชั่นเริ่มต้นสุดคุ้มสำหรับ 5G Plans ใช้อินเทอร์เน็ต Ultra Speed (~700 Mbps) ได้ 30GB ต่อเดือนในราคาเพียง 128 หยวนหรือประมาณ 549 บาทเท่านั้นเอง !

สำหรับศักยภาพของโครงข่าย ณ วันแรกที่ให้บริการนี้ทางรัฐบาลจีนเคลมว่า ทำความเร็วเฉลี่ยได้แรงกว่ายุค 4G ของพวกเขามากถึง 30 เท่า ! โดยทยอยตั้งเสาจนครอบคลุมทุกเมืองหลักไปหมดแล้ว ตามรายงานยกตัวอย่างลำพังแค่ในเมืองเซี่ยงไฮ้ ก็ตั้งเสาสัญญาณ 5G ไปแล้วกว่า 12,000 ต้นใช้ได้เกือบทุกพื้นที่หลักของเมืองกันแล้ว แถมจากรายงานของ CNN ยังเผยอีกว่า ผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ตทั้งหมดในจีนกว่า 850 ล้านคน จะกลายมาเป็นผู้ใช้บริการ 5G กว่า 7% หรือประมาณ 110 ล้านคนภายในปี 2020 ปีเดียว

เปิดตัวทั้งทีต้องแกรนด์ ขึ้นแท่นโครงข่าย 5G ใหญ่ที่สุดในโลก กว่า 50% เป็นอุปกรณ์ Huawei

นอกจากจีนแล้ว ก็มีสหรัฐ​อเมริกา กับ เกาหลีใต้ ที่ได้เปิดเริ่มให้บริการ 5G อย่างเป็นทางการไปบ้างแล้วตั้งแต่ต้นปี แต่ในแง่ขนาดความอลังการของ scale ในการให้บริการนั้นยังห่างไกลจากการเปิดตัวของพี่จีนในวันนี้มาก โดยตามรายงานของสถาบัน Bernstein Research ถึงกับยกให้เป็นการเปิดใช้บริการโครงข่ายโทรคมนาคมที่ใหญ่ติดอันดับโลกกันเลย ซึ่งหากนับเฉพาะ 5G แล้วล่ะก็ ใหญ่แบบไม่มีใครเทียบติดชนิด “ตูมเดียวใช้ได้ 50 เมือง” นี่ไม่ธรรมดาจริง ๆ แหละ

ส่วนหากเพื่อน ๆ จะสงสัยว่ารัฐบาลจีนทำได้ขนาดนี้ได้อย่างไร แน่นอนเลยว่าอุปกรณ์ 5G กว่าครึ่งที่กำลังถูกนำมาใช้กันอยู่นี้ ล้วนแล้วแต่เป็นของ Huawei Technologies ทั้งนั้นด้วยประสิทธิภาพและราคาที่ไม่มีใครสู้ได้เลยบนโลกใบนี้ ณ ตอนนี้ ส่วนที่เหลือนั้น ทางผู้สื่อข่าวของ China Daily รายงานว่าผู้เล่นเบอร์รอง ๆ อย่าง Ericsson | Nokia | ZTE แบ่ง ๆ กันไป

งานนี้ถูกมองว่าเป็นความตั้งใจของรัฐบาลจีนและ Huawei ร่วมกัน เพื่อข่มขวัญทางรัฐบาลสหรัฐ ฯ กันจะ ๆ ไปเลยว่า ถึงแม้จะต้องพบกับแรงกดดันมหาศาลจากนโยบายความมั่นคงสุดแสบของโดนัลด์ ทรัมป์ แต่ Huawei ก็จะยังคงเป็นผู้นำของตลาดอุปกรณ์ 5G ต่อไป โดยล่าสุดยังเผยด้วยว่า Huawei Technologies ได้มีการเซ็นสัญญาให้บริการอุปกรณ์เครือข่าย 5G ไปแล้วกับกว่า 60 ผู้ให้บริการเครือข่ายทั่วโลก ทิ้งห่างคู่แข่งสำคัญอย่าง Nokia และ Ericsson ไปไกล แถมตลาดสมาร์ทโฟนเองนั้น Huawei ก็มีอุปกรณ์ที่พร้อมรองรับ 5G มากที่สุดในตลาดเวลานี้ เรียกว่าพร้อมสุด ๆ แบบไม่ไว้หน้าใครทั้งสิ้น

 

ที่มา: CNN Business