จากการจับกุม Meng Wanzhou รองประธานและ CFO  ของ Huawei ในประเทศแคนาดาเมื่อเดือนที่ผ่านมา โดยสหรัฐฯ กล่าวอ้างว่าว่า Meng Wanzhou พยายามปกปิดความจริงเรื่องที่หัวเว่ยกำลังทำธุรกิจกับอิหร่านซึ่ง ซึ่งฝ่าฝืนมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านของสหรัฐฯ แถมยังมีหลักฐานเพิ่มเติมว่าแอบทำการค้ากับซีเรีย อีกหนึ่งชาติที่มีนโยบายคว่ำบาตรเช่นกัน

จากการสืบส่วนคดีนี้เกี่ยวพันกับบริษัทฯ สองแห่งคือ บริษัท Skycom Tech ในกรุงเตหะราน และ Canicula ในสาธารณรัฐมอริเชียส แต่ Meng ก็ยืนยันว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับบริษัทฯ ดังกล่าวแต่อย่างใด แต่ผู้สื่อข่าวรอยเตอร์ได้พบเอกสารสำคัญในอิหร่านและซีเรียที่มีหลักฐานว่า Skycom Tech ได้ทำการการแต่งตั้งผู้บริหารระดับสูงของ Huawai เพื่อให้บริหารงานบริษัทฯ รวมถึงพบรายชื่อชาวจีนอีก 3 คนลงนามในการทำธุรกรรมกับธนาคารระหว่าง Huawei และ Skycom ในอิหร่านอีกด้วย

นอกจากนี้ยังมีข้อมูลเผยว่า Meng ดำรงตำแหน่งบอร์ดบริหารของ Skycom ในระหว่างเดือน กุมภาพันธ์ 2008- เมษายน 2009 และจากหลักฐานที่พบในฮ่องกง พบว่า Skycom ได้ขายหุ้นให้กับบริษัท Canicula ในปี 2007 และถือหุ้นยาวประมาณ 10 ปี ก่อนจะมีการประกาศเลิกกิจการในปี 2017

Canicula รับรายได้จากการปิดกิจการของ Skycom ไปเป็นจำนวน $132,000 โดยแหล่งข่าวแห่งหนึ่งได้บอกกับรอยเตอร์ว่า Canicula เองนั้นก็ทำการค้าขายในซีเรีย ซึ่งเป็นการละเมิดมาตรการคว่ำบาตรของอเมริกาเช่นกัน สำหรับในเรื่องนี้ทางเจ้าหน้าที่ในสหรัฐฯ เปิดเผยว่าจากการที่ Huawei ใช้ชื่อบริษัท Skycom บังหน้าในการขายอุปกรณ์สิ่อสารให้อิหร่าน ทำให้ธนาคารอนุมัติการทำธุรกรรมกว่าหลายร้อยล้านเหรียญในช่วงที่ผ่านมา

Meng Wanzhou ในขณะนี้ได้รับการประกันตัว และพักอาศัยอยู่ในแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา ซึ่งเธอและครอบครัวมีบ้านอยู่ที่นั่นหลายหลัง  อย่างไรก็ตามในข่าวแจ้งว่ารัฐบาลสหรัฐเองกำลังพยายามทำเรื่องขอส่งผู้ร้ายข้ามแดน เพื่อที่จะได้ดำเนินคดีกับเธอในสหรัฐได้  ซึ่งจากการจับกุม Meng ในครั้งนี้ก่อให้เกิดปฏิกริยาการตอบโต้ขึ้นในจีน ทำให้บริษัทฯ ของอเมริกาหลายแหล่งถูกผลกระทบ อย่างกรณีบริษัทฯ ในจีนห้ามพนักงานใช้ผลิตภัณฑ์ของ Apple และส่งเสริมการซือสินค้าของ  Huawei  นั่นเอง

 

ที่มา phonearena , reuters