หลังจากที่ dtac ได้เปิดให้บริการคลื่น 2300MHz ในชื่อ dtac TURBO (dtac-T) เพื่อความรวดเร็วและไหลลื่นของเน็ตมือถือ แน่นอนว่าหลายๆ คนก็ต้องอยากใช้กันบ้างล่ะ วันนี้เราก็เลยเฟ้นหาเหล่ามือถือที่รองรับ dtac-T มาแนะนำให้ พร้อมกับโปรราคาพิเศษของ dtac อีกด้วยนะ

โดยตอนนี้ dtac กำลังจัดโปรมือถือราคาพิเศษที่ลดสูงสุดถึง 17,950 บาท ว่าแล้วก็ไปดูกันเลยว่ามีรุ่นไหนบ้างที่ร่วมโปรราคาพิเศษจาก dtac

ราคามีการอัพเดทเรื่อยๆ เลยไม่ได้ใส่ไว้ให้ ยังไงกดเข้าไปดูกันเอาเองในเว็บ dtac อีกทีนะ

มือถือราคาประหยัด

  • Galaxy J4
  • Galaxy J7 Core
  • Galaxy J6
  • Galaxy J2 Pro
  • Huawei Y7 Pro 2018
  • Huawei Y9 2018
  • Huawei Y3 2018
  • Wiko View Max
  • Wiko Tommy 3
  • OPPO A83
  • Nokia 8110

สำหรับมือถือระดับนี้จะเหมาะกับผู้ใช้งานที่ไม่ต้องการสเปคเครื่องสูงๆ เอาไว้เล่นเกมหนักๆ หรือเน้นถ่ายภาพซักเท่าไหร่ แต่การใช้งานธรรมดาๆ อย่างเล่นโซเชียล เข้าเว็บ ดูวิดีโอผ่าน YouTube หรือแอปอื่นๆ เล่นเกมแคชวลนิดๆ หน่อยๆ ก็สามารถใช้ได้แบบไม่มีปัญหา ส่วนรุ่นที่น่าสนใจในราคาระดับนี้ก็จะมี

Huawei Y9 2018

มือถือ 4 กล้อง ราคาประหยัด แถมแบตอึด ที่สามารถใช้งานทั่วไปได้แบบครบเครื่อง แถมยังมีกล้องหน้าคู่หลังคู่ใช้ถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอได้เนียนกว่ามือถือกล้องเดี่ยวรุ่นอื่น นอกจากนี้ยังมีแบตสุดอึดขนาด 4000 mAh ที่ใช้งานปกติได้ 2 วัน สบายๆ

 

OPPO A83

เป็นอีก 1 รุ่น ที่มีสเปคครบครัน ใช้งานทั่วไปได้สบายๆ และแน่นอนว่าน่าจะถูกใจสายเซลฟี่ เพราะ OPPO เค้าถือเป็นมือ 1 ในด้านการเซลฟี่อยู่แล้วกับกล้องหน้าขนาด 8MP พร้อมระบบ AI Beauty ที่ถ่ายออกมาได้เป็นธรรมชาติ แถมแบตเตอรี่ก็ใช้ได้สบายๆ 2 วันเช่นกัน

 

Nokia 8110

สำหรับคนที่อยากได้มือถือสำรอง หรือคิดว่าไม่ได้ใช้งานแอปโซเชียล เล่นเกม เข้าเว็บ ถ่ายรูป ฯลฯ อะไรพวกนี้เลย ก็อาจจะลองดูเป็นฟีเจอร์โฟนอย่าง Nokia 8110 ก็น่าจะเพียงพอต่อการใช้งานแล้ว

 

มือถือระดับกลาง

  • Galaxy A6
  • Galaxy J7 Pro
  • Galaxy J7 Plus
  • Galaxy A6+
  • Galaxy A8 Star
  • OPPO F7
  • OPPO F7 128GB
  • OPPO R15 Pro
  • vivo X21
  • vivo Y85
  • vivo V9
  • iPhone 6 32GB
  • iPhone 6s Plus 32GB

มือถือในระดับกลางๆ ก็จะเหมาะกับคนที่อยากได้มือถือสเปคดีขึ้นมาอีก แบบใช้งานได้ลื่นๆ ทุกอย่าง และมีกล้องหน้า + หลัง ที่มีคุณภาพพอฟัดพอเหวี่ยงกับเรือธงบางรุ่น แต่อาจจะมีฟีเจอร์ไม่เจ๋งเท่ามือถือระดับไฮเอนด์ (ซึ่งบางฟีเจอร์มีไว้ก็แทบไม่ได้ใช้อยู่แล้ว) ก็ลองขยับราคาขึ้นมาอีกหน่อยนึงเพื่อสเปคที่ดีกว่าและใช้งานได้ลื่นๆ อีกอย่างน้อยก็เป็นปี 2 ปีล่ะ และสำหรับมือถือในระดับนี้ที่น่าสนใจก็จะมี…

Galaxy A8 Star

เปิดตัวกันไปสดๆ ร้อนๆ เมื่อต้นเดือนเลย สำหรับ Galaxy A8 Star มือถือระดับกลางที่ค่อนไปทางสูง มาพร้อมสเปคที่สามารถใช้งาน และเล่นเกมใน Play Store ได้ทุกเกมแบบลื่นๆ (แต่บางเกมก็ปรับสุดไม่ได้นะ) มาพร้อมกล้องหลังคู่ความละเอียดสูง 16MP + 24MP และกล้องหน้า 24MP แถมด้วยหน้าจอ SuperAMOLED ขนาดยักษ์ 6.3 นิ้ว ความละเอียด FHD+ อีกด้วย

 

Vivo X21 / OPPO R15 Pro

สำหรับ 2 รุ่นนี้เลือกไม่ถูกจริงๆ เพราะสเปคและราคามาแบบสูสีกันสุดๆ โดยทั้งคู่มาพร้อมชิป Snapdragon 660 ที่ใช้งานและเล่นเกมได้แบบลื่นไหล ส่วนเรื่องของกล้องก็ให้ภาพถ่ายที่ดีงามทั้งคู่ เรียกว่ากินกันไม่ลงจริงๆ ต้องมาเลือกดูที่ดีไซน์เอาละกันนะ ว่าใครจะชอบแบบไหน

 

มือถือระดับไฮเอนด์

  • Galaxy S9+ 256GB
  • Galaxy S9 64GB
  • Galaxy S9+ 64GB
  • Galaxy Note 8
  • Huawei P20
  • Huawei P20 Pro
  • iPhone 7 32GB
  • iPhone 7 128GB
  • iPhone 7 Plus 32GB
  • iPhone 7 Plus 128GB
  • iPhone 8 64GB
  • iPhone 8 256GB
  • iPhone 8 Plus 64GB
  • iPhone 8 Plus 256GB
  • iPhone X 64GB
  • iPhone X 256GB

สุดท้ายกับมือถือระดับไฮเอนด์ที่มีราคาตั้งแต่ 2 หมื่นบาทขึ้นไป แน่นอนว่าสเปคของแต่ละรุ่นนั้นจัดเต็มมาแบบสุดๆ เท่าที่เทคโนโลยีมือถือในช่วงปีนั้นจะสามารถทำได้ ซึ่งหลายๆ คนที่เลือกซื้อมือถือระดับนี้ก็มักจะซื้อแล้วสามารถใช้งานได้ยาวๆ อีก 2 – 3 ปีไปเลยก็มี หรือไม่ก็ซื้อเพราะมีฟีเจอร์เจ๋งๆ ที่รุ่นอื่นไม่สามารถทำได้ ส่วนการใช้งานต่างๆ ก็ไม่ต้องห่วงเลยล่ะ เพราะลื่นปรื๊ดๆ แน่นอน ส่วนมือถือในระดับนี้ที่แนะนำก็จะมี

Galaxy S9+

มือถือเรือธงสเปคครบเครื่อง แรงและเร็ว แถมยังมีกล้องหลังคู่ที่สวยงามไม่แพ้ใคร และยังถ่ายวิดีโอแบบ Super Slo-Mo ได้อีก เรื่องความบันเทิงก็จัดให้แบบเต็มเหนี่ยวด้วยหน้าจอ SuperAMOLED ขนาด 6.2 นิ้ว ความละเอียด 2K, ลำโพงคู่สเตอรีโอบน-ล่าง ที่ให้เสียงกระหึ่มไม่ว่าจะฟังเพลงเล่นเกม แถมยังกันน้ำได้ระดับ IP68 อีกต่างหาก

 

Huawei P20 Pro

มือถือสุดเทพกล้อง 3 ตัว เลนส์ Certified by LEICA ที่ตอนนี้ยังไม่มีใครโค่นคะแนนใน DxOMark ลงได้ มาพร้อมชิป Kirin 970 ที่ไม่ต้องห่วงเรื่องประสิทธิภาพเลย เพราะลื่นๆ สูสีกับเรือธงรุ่นอื่นๆ ในตลาดตอนนี้ แถมยังจะได้อัพเดท GPU Turbo รีดประสิทธิภาพในการเล่นเกมอีก

 

iPhone X

มือถือยอดฮิตสเปคครบเครื่องอีก 1 รุ่น ที่สามารถใช้งานได้แบบลื่นๆ ทุกอย่าง ส่วนกล้องหลังก็ไม่ต้องห่วงเพราะถ่ายออกมาได้ดีสูสีกับมือถือเรือธงระดับเดียวกันเลย นอกจากนี้ยังมีระบบรักษาความปลอดภัยของตัวเครื่องด้วยระบบสแกนใบหน้าที่รวดเร็วและปลอดภัยกว่ามือถือรุ่นอื่นๆ เพราะมีเซ็นเซอร์ตรวจจับใบหน้าแบบ 3 มิติ อีกด้วย

 

ราคาของมือถือแต่ละรุ่นสามารถเข้าไปเช็คได้ใน เว็บไซท์ dtac กันเลย ส่วนใครที่มองหาแล้วยังไม่เจอรุ่นที่ถูกใจก็สามารถเข้าไปดูรายชื่อมือถือที่รองรับคลื่น 2300MHz เพิ่มเติมได้จากบทความ รวมรายชื่อโทรศัพท์มือถือที่รับคลื่น 4G 2300MHz ของ dtac ได้เลย

สำหรับลูกค้าดีแทค ก็ยิ่งไม่ต้องกลัวว่าซิมจะดับตามที่ได้ยินมา การให้บริการมือถืออย่างต่อเนื่อง หรือ “ซิมไม่ดับ” คือหน้าที่และความรับผิดชอบร่วมกันของ กสทช. ในฐานะองค์กรกำกับดูแล ซึ่งมีหน้าที่คุ้มครองผู้บริโภค และดีแทคที่ให้บริการมือถือ ที่จะต้องดูแลลูกค้าช่วงเปลี่ยนผ่านและหมดสัมปทานร่วมกันไม่ให้ลูกค้าซิมดับ โดย dtac ได้ยื่นแผนคุ้มครองลูกค้าใช้งานมือถือหลังหมดสัมปทานร่วมกัน ต่อ กสทช.แล้วเมื่อ 7 มิ.ย. ขณะนี้อยู่ในระหว่างพิจารณา

สำหรับลูกค้า 2G ตรวจสอบสิทธิ์เรื่องซิมการ์ดได้ที่ *444# โทรออก เพื่อตรวจสอบสถานะ

ใครที่อยากรู้ว่ามือถือรุ่นไหนรองรับ dtac Turbo ก็กดเข้าไปดูในลิ้งค์ด้านบนได้เลยครับ