หลังจากที่ก่อนหน้านี้ทาง Facebook นั้นถูกรัฐบาลกลางสหรัฐ ฯ ตั้งข้อกล่าวหาในประเด็นการผูกขาดทางการค้ามาตลอด ล่าสุดก็มีประเด็นร้อนส่งท้ายปีเพิ่มขึ้นมาให้ปวดหัวอีกเรื่อง หลังทางคณะกรรมาธิการการค้า หรือ FTC (Federal Trade Commission) ของสหรัฐ ฯ ยื่นเรื่องดำเนินคดีแก่ Facebook เพื่อบังคับให้ขาย Instagram กับ WhatsApp ออกไป เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายลดอำนาจการผูกขาดตลาดธุรกิจ Social Media Platform ทั้งหลายอย่างที่ Facebook ถูกกล่าวหามาตลอดในช่วงหลายปีมานี้

FTC ฟ้องศาล บังคับขายกิจการ – ปรับโครงสร้างหวังลดอำนาจผูกขาดของ Facebook ที่มีทั้ง Instagram และ WhatsApp อยู่ในมือ

คณะกรรมาธิการการค้า (FTC) ได้ทำการยื่นเรื่องฟ้องร้อง Facebook ต่อศาลยุติธรรมกลางของสหรัฐ ฯ ในช่วงวันพุธที่ 9 ธันวาคมที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐ ฯ โดยเรียกร้องให้ศาลมีคำสั่ง Force Sell หรือ “บังคับขาย” Instagram และ WhatsApp ให้เป็นอิสระจากเครือ Facebook Inc. หรือก็คือบังคับขายจนไม่เหลือสถานะความเป็นเจ้าของ หรือผู้ถือหุ้นรายใหญ่อีกต่อไปนั่นเอง

Facebook นั้นคงสภาพความผูกขาดการให้บริการเอาไว้โดยการเข้าซื้อกิจการที่มีลักษณะเป็นคู่แข่งที่มีศักยภาพสูงเอาไว้ โดยเฉพาะกลุ่มบริการ Social Media ที่มีรูปแบบหรือศักยภาพในระดับที่ Facebook ไม่สามารถทำได้ หรือไม่สามารถเทียบเท่าได้ ซึ่งการพิจารณาเข้าซื้อกิจการด้วยเหตุดังกล่าวของ Facebook ย่อมเป็นความพยายามผูกขาด ลดการแข่งขัน – คำแถลงของคณะกรรมาธิการการค้าของรัฐบาลสหรัฐ ฯ

โดยเบื้องต้นหากการฟ้องร้องนี้เป็นผล อาจทำให้ Facebook ต้องมีการปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่เพื่อลดอำนาจผูกขาดเหนือตลาด (Antitrust) ซึ่งหมายรวมถึงการถูกบังคับให้ขายทั้ง Instagram และ WhatsApp ที่ Facebook Inc. เป็นเจ้าของอยู่ออกไปอย่างแน่นอน ทั้ง ๆ ที่ Facebook เองลงทุนไปมหาศาลร่วม 600,000 ล้านบาทนับตั้งแต่ปี 2012 เพื่อเข้าซื้อกิจการทั้ง 2 มาปลุกปั้นและพัฒนาจนประสบความสำเร็จในระดับโลกได้อย่างในปัจจุบัน

ที่น่าสนใจมากขึ้นไปอีกคือ ในคดีนี้ยังได้รับการสนับสนุนอย่างเป็นทางการจากคณะอัยการสูงสุดของ 48 มลรัฐร่วมเข้าชื่อในคำร้องนี้ด้วย หลังจากที่สภาผู้แทนของสหรัฐ ฯ เองก็ล้วนมีความเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า Tech Giants อย่างเช่น Facebook นั้นมีอำนาจเหนือตลาดมากเกินไป ถึงแม้จะเป็นส่วนหนึ่งของการผลักดันให้พวกเขากลายเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีโลกอยู่ในเวลานี้ก็ตาม

ความพยายามครั้งประวัติศาสตร์นี้ ไม่ได้พุ่งเป้าไปที่ Facebook เพียงรายเดียว แต่เป็นการคุ้มครองพื้นที่การสรรค์สร้างนวัตกรรมให้คงอยู่ได้ในสหรัฐ ฯ เพราะนโยบายของ Facebook ตลอดหลายปีมานี้ ไม่ต่างอะไรกับการบดขยี้ บีบคอไม่ให้ผู้เล่นรายใหม่ใน Tech Industry ได้มีโอกาสหายใจได้เลย – Letitia James | อัยการสูงสุดมลรัฐนิวยอร์ค

Facebook แถลงไม่ไว้หน้า ! บอกตอนซื้อถูกกฎหมาย แต่พอประสบความสำเร็จกลับต้องถูกลงโทษ

ฝั่ง CEO หนุ่ม Mark Zuckerberg กับทีมผู้บริหารระดับสูงของ Facebook Inc. ที่ดูเหมือนจะเป็นไม้เบื่อไม้เมากับรัฐบาลสหรัฐ ฯ ในทุก ๆ ความเคลื่อนไหวก็ไม่อยู่เฉย งานนี้ออกโรงชี้แจงต่อสาธารณะว่า การเข้าซื้อกิจการทั้งหมดของพวกเขานั้นถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ โดยเฉพาะ FTC เองคือหน่วยงานที่ตรวจสอบและอนุญาตให้พวกเขาเข้าซื้อ Instagram และ WhatsApp ได้เอง แต่พอแพลตฟอร์มทั้ง 3 (Facebook – Instagram – WhatsApp) เติบโตอย่างก้าวกระโดดและส่งเสริมกันและกันได้เป็นอย่างดีกลับถูกภาครัฐตั้งคำถาม นี่มันกลั่นแกล้งกันชัด ๆ !

หลายปีให้หลังจากที่ FTC เห็นชอบการเข้าซื้อกิจการของพวกเขา อยู่ดี ๆ รัฐบาลก็อยากที่จะยกเรื่องนี้กลับมาทำลาย Ecosystem ที่เราสร้างขึ้นมา โดยไม่สนใจผลกระทบที่อาจเกิดกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในวงกว้างโดยเฉพาะผู้คนที่เลือกใช้บริการของเราทั่วโลกในทุก ๆ วัน – คำแถลงการณ์เบื้องต้นจาก Facebook Inc.

อันที่จริงการดำเนินการครั้งนี้ดูเหมือนจะไม่เซอร์ไพรส์ Facebook มากนักหลังจากที่แหล่งข่าวของ CNBC รายงานว่า Zuckerberg เคยกล่าวในที่ประชุมกับพนักงานของ Facebook Inc. เอาไว้ หลังจากที่เริ่มถูกตั้งคำถามประเด็น Antitrust หรือการผูกขาดทางการค้า โดยเขาบอกว่า “ผมพนันเลยว่าเราจะต้องเจอกับปัญหาคดีความจากภาครัฐ และผมก็พนันได้เลยว่าพวกเราจะชนะคดี (เพราะทุกอย่างที่เป็นประเด็นนั้นได้ทำลงไปผ่านการอนุมัติเห็นชอบจากภาครัฐเอง)”

อ่านเพิ่มเติม: จับประเด็นร้อน เมื่อซีอีโอของ Amazon – Apple – Facebook – Google ถูกเรียกไต่สวนข้อหาผูกขาดการค้า (Antitrust) | DroidSans

 

อ้างอิง: NBC News | Reuters