หลังจาก Qualcomm กับ Apple มีปัญหาการฟ้องร้องเรื่องสิทธิบัตรระดับโลกกันมาสักพัก ก็ได้มีรายงานจาก Electronic Times ของไต้หวันว่าทาง Qualcomm และ Samsung จะไม่จัดส่งชิป 5G ให้กับทาง Apple ซึ่งอาจทำให้ทาง Apple เสียกลุ่มลูกค้าบางส่วนที่ต้องการใช้งาน iPhone รุ่นใหม่ที่รองรับ 5G ไปด้วย

สาเหตุที่ Qualcomm ที่ไม่ขายชิป Snapdragon X50 ที่รองรับ 5G ให้กับ Apple นั้นแน่นอนว่าเป็นเรื่องคดีความที่ฟ้องร้องกันไม่จบไม่สิ้น แต่ของฝั่ง Samsung นั้นมีเหตุผลที่ต่างออกไป โดยอ้างว่า ชิป Exynos 5100 5G นั้นผลิตไม่ทัน แค่ใช้กับสินค้าของตัวเองอย่าง Galaxy S10 5G ก็ยังไม่เพียงพอ แม้ว่าจะเพิ่มกำลังการผลิตได้ก็ตาม และเนื่องจากทางแอปเปิ้ลชอบใช้ประโยชน์ในการเจรจาต่อรองเอาเปรียบซัพพลายเออร์เพื่อให้ได้ราคาดีที่สุด ซึ่งอาจจะหมายถึงการสั่งสินค้าเป็นจำนวนมากๆ ด้วย จึงเป็นเหตุให้ทางซัมซุงเลือกที่จะปฏิเสธไป

เพราะฉะนั้น Apple ก็จะเหลือที่พึ่งเดียวคือ Intel ที่ตอนนี้ยังไม่มีชิป 5G เลยด้วยซ้ำ เพราะกว่าโมเดม XMM 8160 จะผลิตได้ก็น่าจะต้องรอถึงปี 2020 ซึ่งหมายความว่า iPhone รุ่นใหม่จะยังไม่รองรับ 5G

ทางด้าน Huawei ที่เป็นผู้ครอบครองชิป Balong 5000 หรือชิปเซ็ต Kirin ก็มีความลังเลที่จะขายชิปให้กับบริษัทอื่นเช่นกัน (แต่คงขายให้บริษัทอเมริกันอย่าง Apple ไม่ได้แน่ๆ รัฐบาลสหรัฐน่าจะเบรคตัวโก่ง) ในขณะที่ UniSOC หลังจากแยกทางกับ Intel ไปแล้ว ก็กำลังอยู่ในช่วงพัฒนาชิปโมเด็ม 5G แต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะใช้งานได้เมื่อไหร่จึงไม่ใช่ตัวเลือกของ Apple

ดังนั้นจึงเป็นการเปิดทางให้กับ MediaTek ที่จะนำชิป Helio M70 มาใช้งานใน iPhone และสามารถเร่งการจัดส่งอย่างเร็วที่สุดภายใน 6 เดือน

แต่ความเป็นไปได้นี้ก็โดนนักวิเคราะห์ของ UBS ปัดตกไป เมื่อมีรายงานว่าชิปของ MediaTek นั้นไม่ได้มาตรฐานของ Apple และอ้างว่า Samsung ก็ไม่ได้เป็นตัวเลือกของ Apple เช่นกัน ซึ่งรายงานนี้ยังชี้ให้เห็นว่าระยะเวลาของ Intel สำหรับชิปโมเด็ม 5G นั้นอาจจะพัฒนาไม่ทันสำหรับ iPhone รุ่นใหม่ในปี 2020 ด้วยซ้ำ เพราะกำหนดการวางจำหน่าย iPhone ปีละครั้งของ Apple จึงทำให้ iPhone ที่รองรับการเชื่อมต่อ 5G จะสามารถใช้ได้ก็ประมาณปี 2021

ซึ่งผลกระทบของความล่าช้านี้กว่าจะได้เปิดตัว iPhone ที่รองรับเครือข่าย 5G อาจจะทำให้ Apple นั้นลำบากสักหน่อย เพราะน่าจะมีกลุ่มลูกค้าส่วนหนึ่งพากันไปใช้บริการค่ายมือถือที่รองรับเครือข่าย 5G ที่พร้อมใช้งานในปีหน้าแทน แต่อย่างไรก็ตาม Apple ก็ยังมีกลุ่มลูกค้าที่ยังพอใจกับการใช้งาน iPhone รุ่นเก่า และถึงแม้รุ่นใหม่จะมีแค่ 4G ก็ยังคงซื้อมาใช้งานอยู่ดี

 

ที่มา gsmarena