Google Maps น่าจะเรียกได้ว่าเป็นแอปที่เปลี่ยนโลกอีกตัว ที่ทำให้การเดินทางของผู้คนเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง จากที่ต้องมีความยากลำบากกางแผนที่กันให้วุ่นวายย่อลงมาให้อยู่ในมือถือของเรา วันนี้มีอายุครบ 15 ปี แล้วเรียบร้อย พร้อมเปลี่ยนโลโก้ใหม่ให้มีความสดใสมากขึ้น และปล่อยฟีเจอร์ใหม่ให้ได้ใช้งานกันทั้งการนำทางแบบ AR และตัวเลือกการเดินทางที่มากขึ้น
ถึงแม้ว่าตอนนี้แบรนด์มือถือยักษ์ใหญ่อย่าง Huawei จะยังไม่สามารถใช้งาน Google Mobile Services ทำให้มือถือจากแบรนด์นี้ไม่สามารถเข้าถึงแอปหลายๆ อย่างจาก Google รวมถึงแอปนำทางอย่าง Google Maps ได้…แต่ล่าสุด Huawei ก็ได้หาทางออกให้กับตัวเองด้วยการจับมือกับ TomTom บริษัทให้บริการข้อมูลจราจรและแผนที่สัญชาติเนเธอร์แลนด์ เพื่อใช้แอปนำทางและแผนที่สำหรับมือถือ Huawei ในอนาคต
ดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่ชาวไทยเองก็เริ่มจะคุ้นชินกันดีสักพักหนึ่งแล้ว สำหรับ Google ที่จะมีโปรเจคของการเดินทางไปตามท้องถนน และ ซอกมุมต่าง ๆ ของประเทศเพื่อเก็บภาพสำหรับฟีเจอร์ Street View และ Earth ที่เป็นส่วนหนึ่งของบริการ Google Maps แต่วันนี้ทาง Google เองได้ออกมาโชว์ผลงานตลอดทศวรรษที่ผ่านมาว่าต้องเดินทางไปแล้วกว่า 16 ล้านกิโลเมตรเพื่อให้ได้ข้อมูลแผนที่ ๆ สมบูรณ์แบบที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
เดี๋ยวนี้เวลาไปเที่ยงต่างประเทศก็แทบไม่ต้องกลัวหลงทางแล้ว เพราะสมาร์ทโฟนทุกเครื่องต่างมาพร้อมกับแผนที่ออนไลน์แสนสะดวก Google Maps อยากเดินไปไหน อยากแวะที่ไหนก็สะดวกสุดๆ ปักหมุดแล้วเดินตามได้เลยง่ายๆ และล่าสุด Google Maps ก็ได้เพิ่มมีฟีเจอร์ใหม่เพิ่มความสะดวกมากกว่าเดิม เพราะตอนนี้สามารถออกเสียงชื่อเมืองหรือชื่อสถานที่ ที่เราอ่านออกเสียงไม่ถูกได้อีกด้วย
หลังจากที่ Goole เปิดตัวโหมดไม่ระบุตัวตน (Incognito) บนแอพแผนที่ Google Maps ไปเมื่อต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ในวันนี้ทาง Google ได้เปิดให้ผู้ใช้ Android ทุกคนสามารถใช้งานโหมดไม่ระบุตัวบนแอพ Google Maps ได้แล้ว อะไรคือโหมดไม่ระบุตัวตนบนแอพ Google Maps โหมดไม่ระบุตัวตนคือโหมดที่แอพ Google Map จะไม่เก็บประวัติการใช้งานแผนที่ต่างๆ ของคุณ ไม่ว่าจะเป็นประวัติการค้นหาหรือแม้กระทั่งการนำทาง เพิ่มเติมสำหรับคนที่ไม่รู้ ถ้าหากเรามีการ login บัญชีของ Google เข้าใช้งานแอพ Google Maps ไม่ว่าการค้นหา การเดินทางจะถูกเก็บอยู่ในบัญชี Google ของเรา ซึ่งเราสามารถเข้าไปดูประวัติการการใช้งาน Google Maps ได้ผ่าน link https://www.google.com/maps/timeline ซึ่งถ้าคุณเปิดดูอาจจะตกใจว่า Google Maps เก็บข้อมูลของคุณได้ละเอียดยิบย่อยมาก เช่นเก็บข้อมูลในแต่ละวันเราได้มีการเดินทางไปที่ไหน เวลาไหน...
หลังจาก Google ได้นำฟีเจอร์ Street View ที่เราคุ้นเคยกันดีจากการใช้งานในคอม มาแยกเป็นแอป Google Street View ให้ได้ใช้กันในมือถือ Android แต่ตอนนี้การใช้งานฟีเจอร์ดังกล่าวจะยิ่งสะดวกกว่าเดิม เพราะตอนนี้ Google ก็ได้ใส่ฟีเจอร์ Street View มารวมในแอป Google Maps โดยเริ่มทยอยเปิดให้ผู้ใช้ Android ได้ใช้งานกันแล้ว
Google ได้ออกมาประกาศเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่าทางบริษัทได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ใน Google Maps หลังจากเก็บข้อมูลต่างๆ จากผู้ใช้งานเป็นเวลากว่าหลายเดือน ที่จะคาดการณ์ได้ว่ารถเมล์หรือรถไฟฟ้านั้นแออัด หรือมีพื้นที่ว่างในรถหรือขบวนแค่ไหน สำหรับใครที่ต้องสัญจรด้วยรถประจำทางเป็นประจำทุกวัน
เทคโนโลยีนั้นนำพาประโยชน์มากมายมาให้กับเราในชีวิตประจำวัน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามันเองก็ทำให้เราสับสนหัวปั่นได้เหมือนกัน ล่าสุดเลย สำนักข่าว CNN ได้รายงานว่ามีรถเกือบ 100 คัน ไปโผล่ที่ทุ่งโล่งๆ หลังจากวิ่งตามเส้นทางลัดที่แอป Google Maps แนะนำมาให้ เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงสภาพการจราจรที่แออัด
ทุกคนน่าจะรู้จักแอปนำทางและแผนที่อย่าง Google Maps กันดี เพราะติดมากับสมาร์ทโฟนทุกเครื่องอยู่แล้ว โดยการใช้งานปกติของมันก็คือใช้ดูเส้นทาง ดูวิธีการเดินทาง ดูการจราจร ฯลฯ ซึ่งทุกคนน่าจะเคยใช้กันมาบ้างแล้ว.. และล่าสุด Google Maps ได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่เข้ามาให้อีก 3 อย่าง เพื่อให้เหมาะกับการใช้ชีวิตประจำวันของเรามากยิ่งขึ้น ซึ่งบางฟีเจอร์ก็สามารถใช้ได้ในบ้านเราแล้วด้วย
การเดินทางไปให้ถึงที่หมายในยุคสมัยของสมาร์ทโฟนนั้นง่ายดายขึ้นกว่าเดิมมาก แม้แต่สถานที่ที่เราไม่เคยรู้จักหรือไม่เคยไปมาก่อน Google Maps ก็สามารถพาเราไปให้ถึงที่หมายได้ง่ายๆ แถมยังสามารถเลือกการเดินทางได้หลากหลาย จะเป็นรถยนต์ส่วนตัว รถสาธารณะ มอเตอร์ไซค์ การเดินเท้าและล่าสุดกับ การนำทางแบบ AR ที่เริ่มเปิดทดลองไปบางส่วน แต่วันนี้มีการเดินทางแบบใหม่ออกมาเพิ่มเติมอีกหนึ่ง นั่นก็คือการ “เลื้อย” ไปให้ถึงที่หมาย
