เทคโนโลยีนั้นนำพาประโยชน์มากมายมาให้กับเราในชีวิตประจำวัน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามันเองก็ทำให้เราสับสนหัวปั่นได้เหมือนกัน ล่าสุดเลย สำนักข่าว CNN ได้รายงานว่ามีรถเกือบ 100 คัน ไปโผล่ที่ทุ่งโล่งๆ หลังจากวิ่งตามเส้นทางลัดที่แอป Google Maps แนะนำมาให้ เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงสภาพการจราจรที่แออัด
ทุกคนน่าจะรู้จักแอปนำทางและแผนที่อย่าง Google Maps กันดี เพราะติดมากับสมาร์ทโฟนทุกเครื่องอยู่แล้ว โดยการใช้งานปกติของมันก็คือใช้ดูเส้นทาง ดูวิธีการเดินทาง ดูการจราจร ฯลฯ ซึ่งทุกคนน่าจะเคยใช้กันมาบ้างแล้ว.. และล่าสุด Google Maps ได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่เข้ามาให้อีก 3 อย่าง เพื่อให้เหมาะกับการใช้ชีวิตประจำวันของเรามากยิ่งขึ้น ซึ่งบางฟีเจอร์ก็สามารถใช้ได้ในบ้านเราแล้วด้วย
การเดินทางไปให้ถึงที่หมายในยุคสมัยของสมาร์ทโฟนนั้นง่ายดายขึ้นกว่าเดิมมาก แม้แต่สถานที่ที่เราไม่เคยรู้จักหรือไม่เคยไปมาก่อน Google Maps ก็สามารถพาเราไปให้ถึงที่หมายได้ง่ายๆ แถมยังสามารถเลือกการเดินทางได้หลากหลาย จะเป็นรถยนต์ส่วนตัว รถสาธารณะ มอเตอร์ไซค์ การเดินเท้าและล่าสุดกับ การนำทางแบบ AR ที่เริ่มเปิดทดลองไปบางส่วน แต่วันนี้มีการเดินทางแบบใหม่ออกมาเพิ่มเติมอีกหนึ่ง นั่นก็คือการ “เลื้อย” ไปให้ถึงที่หมาย
การเปิด Google Maps เพื่อช่วยนำทางไปยังจุดหมายต่างๆ มันจะพยายามหาเส้นทางที่รถติดน้อยที่สุด และเร็วที่สุดให้กับเรา ซึ่งบางทีเจ้า Google Maps ดันแนะนำทางที่ห้ามรถเข้าบ้าง ห้ามเลี้ยวบ้าง หรือดูท่าทางแล้วรถจะติดกว่าอีกทางบ้าง ฯลฯ แต่ตอนนี้เราสามารถช่วยกันทำให้การนำทางด้วยแอปนี้ดีขึ้นได้ด้วยการช่วยกันตอบคำถามที่จะเด้งขึ้นมาเวลาที่เราไม่ได้ใช้เส้นทางที่แนะนำด้วยนะ
เมื่อช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์เราเพิ่งได้เห็นข่าวว่า Google Maps AR จะเปิดให้ใช้ได้สักที หลักจากที่เปิดตัวไปตั้งแต่เมื่อพฤษภาคมปีที่แล้ว จนหลายคนนึกว่าจะไม่ได้ใช้กันซะแล้ว และคิดว่าเปิดเมื่อไหร่ก็คงต้องรออีกนานกว่าจะได้ใช้ในไทย แต่เหมือนว่าหลาย ๆ อย่างได้เปลี่ยนไป หลังจากที่ปีที่แล้วมีแคมเปญ Google for Thailand เปิดความร่วมมืออย่างเป็นทางการกับภาครัฐ ซึ่ง Google Maps ก็เป็นหนึ่งในบริการที่ประเทศเราสมบูรณ์พร้อม และฟีเจอร์ใหม่อย่าง Google Maps AR ก็มาถึงแล้วด้วยเช่นกัน
ทุกวันนี้เราจะไปไหนมาไหน การ Google หาตำแหน่งร้านค้าหรือสถานที่นั้นๆ และสั่งให้มันนำทางพาไปดูจะเป็นเรื่องปกติกันไปแล้ว แต่ทุกครั้งที่ค้นหาแล้วไม่เจอก็อาจจะทำให้เราไม่อยากไปที่นั่นได้ ซึ่งเป็นการเสียโอกาส เสียลูกค้าไม่น้อย และหลายคนอาจจะไม่รู้ว่าเราสามารถเพิ่มเองได้ง่ายๆจากบริการ Google My Business หรือถ้าเกิดว่าไม่อยากยุ่งยากทำเองก็สามารถเดินไปที่ธนาคารไทยพาณิชย์ให้เจ้าหน้าที่ทำได้เลย
หลังจากที่ Google ได้ประกาศในงาน Google I/O 2018 เมื่อช่วงเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว ว่าจะใส่ฟีเจอร์นำทางด้วย AR มาให้ ซึ่งมันจะเพิ่มความสามารถในการนำทางของ Google Maps ได้ดีกว่าเดิม เพราะเมื่อเราส่องกล้องไปทางไหน ก็จะมีป้ายของสถานที่ หรือลูกศรนำทางขึ้นมาให้ดูแบบ Real Time ไม่หลงทิศกันอีกต่อไป
Google พัฒนาฟีเจอร์แจ้งเตือนการจำกัดความเร็วตามถนน (Speed Limit) รวมถึงการแจ้งเตือนกล้องจับความเร็ว สำหรับแอปนำทางสุดฮิตอย่าง Google Maps มากว่า 2 ปีแล้ว และตอนนี้ก็ได้ฤกษ์เปิดให้บางประเทศได้ทดลองใช้กันซะที ทั้งประเทศในฝั่งยุโรปและฝั่งเอเชีย
หลายคนน่าจะเคยเจอปัญหาการถกเถียงเลือกร้านอาหาร หรือที่เที่ยวในวันหยุด ในหมู่ญาติพี่น้องและเพื่อนพ้องต่างๆ ที่บางทีก็เลือกกันไม่จบไม่สิ้น ไม่มีใครตัดสินใจสักที แล้วบางทียังต้องมานั่งค้นหาอ่านรีวิวจากหลากหลายแหล่งที่แต่ละคนโพสต์ลงในแชทกลุ่มรวมแล้วเป็นสิบๆลิงก์ ซึ่งดูแล้วว่า Google จะเข้าใจปัญหานี้ดี จึงเพิ่มฟีเจอร์ใน Google Maps เปิดให้ผู้ใช้สามารถรวบรวมสถานที่และเปิดโหวตที่ที่อยากจะไปกันได้ง่ายๆไปเลย
ในงาน Google for Thailand ผมเพิ่งได้มีถามคนของ Google เกี่ยวกับเรื่องการใช้งาน Google Maps แบบ Offline ไป ซึ่งตอนนั้นทางคุณ Krish หัวหน้าทีมพัฒนาผลิตภัณฑ์ Google Maps สำหรับกลุ่ม Next Billion Users ก็ได้ออกมาบอกเป็นนัยๆว่า Offiline Maps สำหรับประเทศไทยอาจจะไม่มีได้เพราะเน็ตเวิร์คบ้านเรามันดีอยู่แล้ว แต่มาวันนี้ตัว Google Maps ก็เปิดให้ใช้งานแบบ Offline ได้แล้วซะงั้น
