เป็นข่าวที่หลายคนเห็นแล้วน่าจะต้องมีอุทานว่า “ในที่สุด” เมื่อทางธนาคารกสิกรไทยเตรียมปล่อยอัพเดทโฉมใหม่ของ K PLUS ปรับเปลี่ยนหน้าตาการใช้งานทั้ง UI/UX เพื่อประสบการณ์โดยรวมที่ดีขึ้น พร้อมปรับไอคอนแอปให้ทันสมัยขึ้นอีกจากอักษรพู่กันจีนเป็นฟอนท์ที่ดูทันสมัยดูโมเดิร์นเอาซะมากๆ และเตรียมปล่อยฟีเจอร์ใหม่ให้ใช้อีกมากมาย ซึ่งเตรียมจะจัดงานเปิดตัวขึ้นในสัปดาห์หน้านี้แล้วในวันที่ 10 ต.ค. เตรียมโหลดกัน
สังคมไร้เงินสดเตรียมก้าวข้ามพรมแดน เมื่อทานเอไอเอส และกลุ่มสิงเทล ได้เปิดตัว “VIA” เครือข่ายบริการชำระเงินด้วยมือถือข้ามประเทศ โดยจะเปิดให้สามารถใช้ E-Wallet ของเครือข่ายมือถือในประเทศตัวเอง (ในที่นี้คือ Rabbit LINE Pay) จับจ่ายใช้สอยในต่างประเทศได้โดยไม่ต้องวุ่นวายแลกเงินสด เพียงยิง QR Code ก็พร้อมจ่ายได้ทันที โดยจะเริ่มจากสิงคโปร์เป็นที่แรก และเตรียมขยายไปอีกหลายประเทศในเอเชีย
ก่อนหน้านี้แม้ว่าทางสมาคมธนาคารไทยได้มีการแถลงออกมาถึงสาเหตุที่ระบบการทำธรุกรรมในช่วงวันที่ 31 ส.ค. – 1 ก.ย.ล่มว่าเกิดจากระบบธนาคารกสิกรมีปัญหา โดยมีจำนวนการทำธุรกรรมที่เยอะเกินระบบจะรองรับได้ แต่วันนี้ทางกสิกรได้มีการชี้แจงเพิ่มเติมว่าเหตุการณ์นั้นไม่เกี่ยวจำนวนธุรกรรมที่มาก และเกิดเพียงชั่วเวลาหนึ่งเท่านั้น ปัจจุบันได้ทำการแก้ไขพร้อมวางมาตรการในการป้องกันร่วมกับธนาคารอื่นแล้ว
อย่างที่ทราบกันว่าเมื่อวานนี้ (31 ส.ค.) ช่วงเช้าระบบธนาคารหลายแห่งไม่สามารถทำธุรกรรมได้จนทำให้เกิดความวุ่นวายกันไปทั่ว ซึ่งก็มีความเป็นห่วงว่าเกิดจากอะไรกันแน่ โดยทางสมาคมธนาคารไทยได้เป็นตัวแทนออกมาชี้แจงว่าต้นเหตุเกิดจากปริมาณธุรกรรมที่มีจำนวนมากตามเดิม โดยปัญหานี้ไม่ได้เกิดขึ้นจากการที่มีคนพยายามแฮกระบบแต่อย่างใด ผู้ที่ได้รับผลกระทบแต่ละธนาคารทยอยแก้ไขพร้อมชดเชยให้แล้ว
เมื่อวานนี้เป็นวันที่ธนาคารไทยพาณิชย์แถลงข่าวฟรีค่าธรรมเนียมอย่างเป็นทางการหลังเปิดให้ใช้ไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 26 ที่ผ่านมา ใกล้ๆกับธนาคารกสิกรที่ชิงออกข่าวไปก่อนหน้า สร้างกระแสแชร์กันกระจุยในโลกโซเชียล สื่อและนักวิเคราะห์ทุกสำนักต่างฟันธงว่าธนาคารพาณิชย์อื่นต้องปรับตัวตามเร็วๆนี้ และผ่านไปไม่ถึงวันธนาคารพาณิชย์ใหญ่ต่างก็ประกาศฟรีค่าธรรมเนียมกันตามช่องทางของตัวเองไปเรียบร้อย
เรื่องค่าธรรมเนียมกับธนาคารเป็นเรื่องที่หลายคนเบื่อกันมานมนาน จะทำธุรกรรมแต่ละทีก็ต้องมานั่งกังวลคอยเช็คกันตลอดว่าต้องเสียจุกจิกอะไรหรือไม่ แต่วันนี้ทางธนาคารกสิกรไทยเปิดศักราชใหม่ ประกาศยกเลิกค่าธรรมเนียมต่างๆ ของการโอนเงินต่างธนาคาร โอนเงินข้ามเขต และจ่ายบิลต่างๆ ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมอะไรอีกต่อไป เมื่อทำธุรกรรมผ่าน K PLUS, K PLUS SME, K-Cyber, และ K-Cyber SME
AI ใครว่าไกลตัว เพราะตอนนี้ในประเทศไทยองค์กรหรือหน่วยงานใหญ่ๆ (ระดับเอกชน) เริ่มมีการใช้งานกันมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในสายการเงินการธนาคารที่ถูกพูดถึงกันมาก และล่าสุดทาง KBTG (Kasikorn Business Technology Group) หรือบริษัทลูกของทางกสิกรก็ได้เปิดตัว KADE (K PLUS AI-Driven Experience) เตรียมผสาน AI เข้าไปกับ K PLUS เพื่อช่วยเสริมให้สามารถทำธุรกรรมต่างๆผ่าน K PLUS ได้ง่ายขึ้นกว่าเดิมอีก
เมื่อสัปดาห์ก่อน ทางกสิกรได้มีการจัดงานแถลงข่าวทิศทางธุรกิจและกลยุทธ์ ซึ่งมีข้อมูลน่าสนใจมากมาย พร้อมแจ้งการอัพเดท K PLUS เวอร์ชั่นล่าสุด เพิ่มฟีเจอร์ใหม่สุดเจ๋งที่จะทำให้การใช้จ่ายเงินด้วย QR Payment ง่ายขึ้นกว่าเดิมเพียบ พร้อมทั้งสามารถช้อปสินค้าและบริการแบบ Exclusive หาไม่ได้จากที่ไหนนอกจากในแอปเท่านั้น และที่สำคัญสำหรับคนที่มีความจำเป็นต้องใช้เงินพิเศษ สามารถขอสินเชื่อได้ทันทีผ่านแอป K PLUS ได้เลยอีกด้วย
วันนี้ทางธนาคารกสิกรไทยได้มีการจัดแถลงข่าวทิศทางธุรกิจและกลยุทธ์ รวมถึงธุรกิจโมบายแบงกิ้ง ซึ่งมีการเปิดเผยตัวเลขสถิติหลายอย่าง ซึ่งผมกำลังเขียนสรุปเพิ่มเติมเอาไว้ให้ในอีกบทความนะ แต่ตัวเลขนึงที่นึงที่น่าสนใจและน่าเอามาบอกแยกคือสถิติของการทำธุรกรรมต่างๆผ่านทางธนาคาร ที่ K PLUS มีจำนวนมากมากถึง 3,000 ล้านรายการ ซึ่งเมื่อเทียบกับการเดินเข้าไปทำธุรกรรมผ่านสาขา จะลดลงเหลือเพียง 180 ล้านรายการเท่านั้น แสดงให้เห็นถึงการเติบโตของจำนวนผู้ใช้แอปที่มากขึ้นทุกวัน
ถ้าเพื่อนๆติดตาม droidsans มาตลอดน่าจะพอทราบเรื่องการจ่ายเงินด้วย QR Code กันไปบ้างแล้ว เพราะเราได้เฝ้าติดตามมาโดยตลอดตั้งแต่ช่วงกลางปีที่ผ่านมา และเมื่อไม่กี่วันก่อนทางธนาคารแห่งประเทศไทยก็ได้ประกาศรายชื่อ 5 ธนาคารที่ผ่านการทดสอบตามหลักเกณฑ์ ออกจาก regulatory sandbox พร้อมเปิดให้บริการทั่วไปได้แล้ว เมื่อไหร่ที่แพร่หลายเตรียมจ่ายเงินค่าข้าวแกง วินปากซอย หรือพวงมาลัยข้างถนน แบบไม่ต้องแตะเงินสดกันได้เลย