กูเกิลได้กำหนดให้แอปพลิเคชันสำหรับมือถือ Android ที่ถูกติดตั้งจาก Play Store ทำการอัปเดตตัวเองโดยอัตโนมัติเมื่อเชื่อมต่อกับเครือข่าย Wi-Fi เป็นค่าเริ่มต้น แม้จะเป็นวิธีการที่สะดวก ช่วยให้แอปเป็นเวอร์ชันล่าสุดอยู่เสมอ แต่ในบางครั้งเราอาจไม่ได้ต้องการให้มันเป็นอย่างนั้นเสมอไป โดยสามารถเข้าไปตั้งค่ายกเว้นแอปบางตัวได้
Google เล็งออกกฎข้อบังคับใหม่ ยอมตัดสินใจลดค่าคอมมิชชั่นสำหรับผู้พัฒนาแอปพลิเคชันที่ทำรายได้จากการขายแอป และสินค้าภายในแอปไม่เกิน 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ต่อปี จากเดิม 30% เหลือเพียง 15% เท่านั้น ซึ่งนับว่าเป็นการลดค่าคอมมิชชั่นให้กับผู้พัฒนาแอปพลิเคชั่นรายย่อยใน Play Store ที่มีจำนวนมากถึง 99% เลยทีเดียว
ย้อนกลับไปเมื่อเดือนธันวาคม ได้มีผู้ใช้งานมือถือ Android รายหนึ่ง พบโฆษณาเด้งขึ้นมาผ่านเว็บเบราว์เซอร์ที่ใช้งานอยู่เป็นประจำ จากการตรวจสอบของ Malwarebytes พบว่า สาเหตุมาจากแอป Barcode Scanner ตัวหนึ่ง ที่ได้อัปเดตตัวเองภายในเดือนเดียวกัน และได้ทำตัวเป็นแอดแวร์ (adware)เสียอย่างนั้น
ในที่สุดก็เข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2020 กันแล้ว เวลาช่างผ่านไปเร็วเสียจริง ๆ และด้วยโอกาสนี้ เป็นประจำเหมือนเช่นทุกปี…กับการเฟ้นหาสุดยอดแอป เกม ภาพยนตร์ และหนังสือที่ยอดเยี่ยมที่สุดบน Play Store ภายใต้แคมเปญ Google Play’s Best of 2020 โดยสามารถร่วมโหวตได้แล้ว ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 23 พฤศจิกายน
หลังจากเหตุการณ์มากมายเกี่ยวกับเรื่องคดีความ และการฟ้องร้องระหว่าง 2 บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Epic Games กับ Apple ในหัวข้อเรื่องค่าคอมมิชชั่น 30% ที่เก็บในทุก ๆ การซื้อขายแอปจาก App Store ได้สร้างแรงกระเพื่อมไปทั่วโลกจนทางรัสเซียได้ยื่นร่างกฎหมายเพื่อเปลื่ยน ค่าคอมมิชชั่นเป็น 20% ซึ่งล่าสุดทางกลุ่มผู้พัฒนาเกม / แอปพลิเคชั่นในญี่ปุ่น ก็ได้ออกมาตั้งคำถามเรื่องการให้บริการของ Apple และกฎข้อบังคับเรื่องค่าคอมมิชชั่นในปัจจุบันว่าเหมาะสมกันแล้วหรือไม่
ใน Play Store และ App Store มีแอปมากมายที่ได้ถูกนำมาวางขายในแพลตฟอร์ม แน่นอนว่าเจ้าของอย่าง Google และ Apple ก็จะต้องมีการเก็บค่าคอมมิชชั่นในการขายแอปเหล่านั้นด้วย โดยตอนนี้ค่าคอมมิชชั่นของทั้ง 2 แพลตฟอร์มอยู่ที่ 30% ซึ่งเป็นราคาพื้นฐานที่เหล่านักพัฒนาจะต้องถูกหักออกจากการขายแอปทุกครั้ง (เหล่านักพัฒนาทั้งหลายก็คิดไปในทางเดียวกันว่ามันสูงเกินไป) และตอนนี้ประเทศรัสเซียกำลังร่างกฎหมายลดค่าคอมมิชชั่นจากทั้ง Play Store และ App Store ให้เหลือเพียง 20%
ความขัดแย้งระหว่าง Epic Games และ Apple ที่กำลังเดือดระอุ ล่าสุดดูเหมือนจะเดือดปุด ๆ ขึ้นไปอีก เพราะ Epic ได้มีการประกาศจัดการแข่งขันทัวร์นาเมนต์ในชื่อ #FreeFortnite Cup ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 23 สิงหาคม โดยมีของรางวัลเป็นสกินมนุษย์แอปเปิ้ล หมวกแก๊ปที่มีสีคล้ายโลโก้แอปเปิ้ลสีรุ้ง และอุปกรณ์สำหรับเล่นเกมหลายชนิดจากหลายแบรนด์ดัง ยกเว้น Apple ซึ่งดูเหมือนว่า Epic ได้แสดงออกถึงจุดยืนที่เป็นปฏิปักษ์ต่อ Apple อย่างชัดเจน และพร้อมชนแหลกเลยทีเดียว
จากเหตุการณ์ Epic Games ได้ฟ้องร้องต่อทั้ง Apple และ Google กรณีไม่เห็นด้วยกับการเก็บค่าคอมมิชชั่น 30% ที่กำลังเป็นประเด็นร้อนสุด ๆ ในขณะนี้ ดูเหมือนจะบานปลายไปกันใหญ่ เพราะสำนักงานกฎหมาย Hagens Berman ในสหรัฐอเมริกาได้ออกมาเสนอตัวเพื่อเป็นตัวแทนในการดำเนินคดีแบบกลุ่ม ชวนให้นักพัฒนาแอปฝั่ง Android รวมตัวกันฟ้อง Google โดยเสนอว่า นักพัฒนาแอปอาจได้รับเงินชดเชยหากชนะคดี
เมื่อช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา หน้าตาของ Play Store สโตร์สำหรับดาวน์โหลดแอปและเกมของชาว Android ได้มีการเปลี่ยนแปลง UI และไอคอนบางส่วนเล็กน้อย โดย Google ได้ออกมาบอกว่า พวกเขากำลังทดลองปรับปรุงหน้าตา Play Store ให้เข้าถึงได้ง่ายและเป็นมิตรกับผู้ใช้งานมากยิ่งขึ้น
หลังจากที่แพลตฟอร์มบริการออนไลน์ต่างๆ จากต่างประเทศเริ่มเข้ามาทำตลาดในบ้านเราจนมีผู้ใช้งานเพิ่มมากขึ้น และมีมูลค่ามหาศาล ทำให้ทางที่ประชุม ครม. มีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากแพลตฟอร์มดิจิทัลตัวกลางที่ให้บริการทางจากต่างประเทศ (e-Service) เช่น ดาวน์โหลดหนัง เพลง เกม จองโรงแรม ซื้อสินค้าหรือให้บริการ โดยคาดว่าจะเก็บเงินได้เพิ่มปีละ 3,000 ล้านบาท