ถือว่าเป็นอีกความเคลื่อนไหวสำคัญในด้านกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับ Tech Giants ต่างชาติทั้งหลายที่เข้ามามีบทบาทต่อผู้บริโภคชาวไทย ครั้งนี้เป็นกฎหมายการจัดเก็บภาษีจากการให้บริการของแพลตฟอร์มต่างชาติที่มีรายได้เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี โดยมี Apple – Google – Facebook – Netflix – LINE เข้าคิวเสีย VAT เป็นปีแรก สรรพากรเล็งจัดเก็บรายได้เข้ารัฐกว่า 5,000...
คณะกรรมการธิการยุโรปออกแถลงการณ์รับไม่ได้กับคำตัดสินล่าสุดสำหรับประเด็นข้อหาหลีกเลี่ยงภาษีของ Apple ที่มีสาธารณรัฐไอร์แลนด์เป็นเสมือนผู้สมรู้ร่วมคิดในคดี หลังศาลอุทธรณ์ยุโรปมีคำตัดสินว่า Apple ไม่มีความผิดโดยมีไอร์แลนด์เป็นพยาน โดยล่าสุดคณะกรรมาธิการต่อต้านการผูกขาดการค้าเตรียมทำเรื่องดำเนินการยื่นศาลสูงสุดของยุโรปต่อไป ขอสู้ต่ออีกยกหลังส่อแววสูญเงินภาษีมูลค่าสูงสุดเกือบ 5 แสนล้านบาท
ในช่วงศุกร์ที่ 10 กรกฎาคม ที่ผ่านมา รัฐบาลสหรัฐ ฯ ภายใต้การนำของ Donald Trump เล่นของแรง ออกประกาศตอบโต้ฝรั่งเศสที่ออกกฎหมายเก็บภาษี Digital Tax (e-Service) ด้วยการขึ้นภาษีนำเข้ารวดเดียว 25% สำหรับสินค้าจากประเทศฝรั่งเศสหลากหลายชนิด ซึ่งครอบคลุมสินค้าทำเงินทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็น เครื่องสำอางค์ กระเป๋า เสื้อผ้า และสินค้าแฟชั่นอีกหลายรายการด้วยกัน...
หลังจากที่แพลตฟอร์มบริการออนไลน์ต่างๆ จากต่างประเทศเริ่มเข้ามาทำตลาดในบ้านเราจนมีผู้ใช้งานเพิ่มมากขึ้น และมีมูลค่ามหาศาล ทำให้ทางที่ประชุม ครม. มีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากแพลตฟอร์มดิจิทัลตัวกลางที่ให้บริการทางจากต่างประเทศ (e-Service) เช่น ดาวน์โหลดหนัง เพลง เกม จองโรงแรม ซื้อสินค้าหรือให้บริการ โดยคาดว่าจะเก็บเงินได้เพิ่มปีละ 3,000 ล้านบาท
ปัจจุบันหลายประเทศรวมถึงไทยเรา มีการเพ่งเล็งเหล่าผู้ให้บริการเนื้อหาแบบแบบไม่มีเครือข่ายของตัวเองหรือที่เรียกกันว่า Over-the-Top (OTT) ซึ่งส่วนมากมักจะเป็นบริษัทเทคโนโลยีข้ามชาติชื่อดัง ไม่ว่าจะเป็น Facebook – YouTube – LINE – Netflix หรือ Spotify เพราะบริษัทเหล่านี้ถูกมองว่าเลี่ยงภาษีที่ควรจะจ่ายหลายแสนล้านบาท วันนี้เราจะมาสรุปเรื่องราวเพิ่มเติมให้เพื่อนๆเห็นภาพกัน