งานนี้ต้องเรียกว่าพระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรกจริงๆ สำหรับ Huawei หลังจากที่หลายๆ บริษัทฯที่เคยเป็นคู่ค้าต่างทยอยออกมาแถลงการขานรับนโยบายจากรัฐบาลสหรัฐฯ ด้วยการยุติการทำธุรกิจด้วยแล้ว ยังส่งผลให้หลายประเทศเกิดความไม่มั่นใจในสถานการณ์ แม้ว่าทาง Huawei จะออกมาให้ข่าวว่าเตรียมการรับมือไว้แล้วก็ตาม
Rare Earth กลายเป็นกลุ่มแร่ธาตุที่ดังขึ้นมาแบบข้ามคืน หลังอเมริกาได้เปิดศึกแบน Huawei อย่างดุเดือด จากนั้นแม้ว่ารบ.จีนจะไม่ได้เอ่ยปากอะไรมากนัก แต่แค่ปธน.สีจิ้นผิง ไปเยี่ยมชมเหมืองแร่ Rare Earth ที่เป็นส่วนประกอบสำคัญของการผลิตสินค้าไฮเทคทั้งหลายและสหรัฐก็นำเข้าจากจีนเป็นจำนวนมาก ทำเอาสะท้านจนเกิดการแซวขึ้นมาว่าที่สหรัฐยอมยืดเวลาแบนออกไป 90 วันเพราะเหตุนี้เลย วันนี้เราเลยจะพาไปรู้จักเจ้าแร่ตัวนี้เพิ่มเติมกันสักหน่อย ว่ามันสำคัญอะไรขนาดนั้น
ด้วยข่าวและสถานการณ์อันตึงเครียดระหว่างจีน-สหรัฐที่ออกมาในช่วงนี้ อาจะทำให้หลายคนกังวลเกี่ยวกับการซื้อผลิตภัณฑ์ของหัวเว่ยมาใช้งานด้วยความเข้าใจผิดถึงเนื้อหาบางส่วน ซึ่งเราได้รับการยืนยันว่า ผู้ใช้งานผลิตภัณฑ์สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตในปัจจุบันจะไม่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว หัวเว่ยจะยังคงให้บริการอัพเดตซอฟท์แวร์ด้านความปลอดภัยที่จำเป็นและบริการหลังการขายต่อไป
ถ้าเกิดว่าก่อนหน้านี้ที่ Huawei ถูกระงับ Android License ว่าหนักแล้ว เจอข่าวนี้เข้าไปเรียกว่าล้มตึงกันเป็นแถบ เมื่อบริษัทเจ้าของชุดคำสั่งที่ใช้กันแทบจะทุก CPU ของอุปกรณ์พกพาทั่วโลกอย่าง ARM ได้มีการส่งจดหมายเวียนภายในให้ยุติการทำธุรกิจร่วมกับ Huawei ตามคำสั่งของอเมริกาแล้วโดยมีผลบังคับใช้ทันที ทำให้ Huawei ไม่สามารถพัฒนาชิปเซต Kirin และอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับ ARM ต่อไปในอนาคตได้อีก
หลังจากรัฐบาลสหรัฐอเมริกาได้ทำการแบน Huawei จากการทำการค้ากับบริษัทอเมริกาไปเมื่อไม่กี่วันก่อน ซึ่งปรากฏว่าผลกระทบนั้นเกิดเป็นวงกว้างและกลายเป็นเรื่องใหญ่ในโลกอินเตอร์เน็ต ล่าสุดกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐอเมริกาเลยตัดสินใจให้เวลา Huawei อีก 90 วัน ด้วยการผ่อนผันให้สามารถซื้อสินค้าจากบริษัทในอเมริกาได้ แต่เพื่อนำไปใช้ในการดูแลรักษาระบบเครือข่าย และการอัพเดทสมาร์ทโฟนเท่านั้น แต่ยังห้ามไม่ให้นำไปผลิตสินค้าใหม่
หลังจากที่ Huawei และแบรนด์ลูกอื่นๆ อีกกว่า 68 บริษัท รวมไปถึง Honor เอง ถูกสหรัฐฯ ขึ้นชื่ออยู่ในบัญชีดำ (Entity List) ทำให้ไม่สามารถทำธุรกิจกับ Google หรือนำเอา Android Service ไปใช้งานได้ ทำให้เกิดความไม่สบายใจต่อผู้ใช้ Huawei หลายคน และรอฟังข่าวสารรวมถึงมาตรการรองรับจากทางค่าย ล่าสุด Huawei Mobile ประเทศมาเลเซีย ได้ออกมาประกาศย้ำแล้วว่าพร้อมจะสนับสนุนโทรศัพท์ภายใต้แบรนด์ Huawei และ Honor ทุกรุ่นที่ได้ออกวางจำหน่ายทั่วโลกต่อไป
หลังจากที่ทาง Huawei และแบรนด์ลูกอื่นๆ อีกกว่า 68 บริษัท (รวมไปถึง Honor) ไม่สามารถทำธุรกิจกับ Google และนำ Android ไปใช้งานได้เพราะทางการสหรัฐขึ้นชื่ออยู่ในบัญชีดำ (Entity List) ทำให้หลายคนต่างเป็นห่วงว่ามือถือแบรนด์จีนค่ายอื่นจะโดนหางเลขไปด้วยหรือไม่ เราจึงสอบถามได้ยังค่ายต่างๆ และคำตอบที่ได้คือไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด ดังนั้นนอกจาก Huawei แล้ว แบรนด์อื่นรอด!
หลังจากมีข่าวว่ารัฐบาลสหรัฐสั่ง Google ปิดกั้นการเข้าถึง Android ของ Huawei ไปแล้ว แต่ดูเหมือนชะตากรรมจะยังไม่จบแค่นั้น เพราะล่าสุดมีรายงานว่าบริษัทยักษ์ใหญ่อื่นๆ ในอเมริกาก็เหมือนจะได้รับคำสั่งออกมาว่าห้ามส่งสินค้าให้กับ Huawei ไม่ว่าจะเป็น Intel, Qualcomm และ Broadcomm ซึ่งทั้งหมดก็อยู่ในวงการเทคโนโลยีล้วนๆ และเกี่ยวข้องกับธุรกิจหลักของ Huawei ทั้งสิ้น
ตามที่รอยเตอร์ได้รายงานข่าวเรื่อง Huawei ถูกระงับการเข้าถึง Android License ทำให้ไม่สามารถรวมบริการต่างๆของ Google รวมถึง Play Store, Google Account, และแอปต่างๆ เข้าไปในโทรศัพท์ได้ ซึ่งข้อมูลนี้มาจากแหล่งข่าว ยังไม่ใช่การแถลงอย่างเป็นทางการจากฝ่ายใด แต่ล่าสุดตัว @Android เองได้ออกมาพูดผ่านทาง Twitter แล้วว่าทางทีมต้องทำตามที่รัฐบาลสั่ง แต่บริการต่างๆอย่าง Google Play และความปลอดภัยที่ได้จาก Google Play Protect จะยังคงอยู่เหมือนเดิมในอุปกรณ์ Huawei ที่วางจำหน่ายในปัจจุบัน
เมื่อช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เราได้เห็นข่าวเรื่องสหรัฐออกประกาศฉุกเฉินที่ออกมาห้ามบริษัทต่างๆในประเทศใช้อุปกรณ์สื่อสารโทรคมนาคมจากบริษัทต่างชาติ ซึ่งหลายฝ่ายก็รู้ว่าเป็นการทำเพื่อยกระดับสงครามการค้ากับจีนและหัวเว่ย แต่ยังไม่มีการสรุปผลที่แน่ชัดออกมาว่ามีอะไรที่จะได้รับผลกระทบบ้าง จนวันนี้ต้องพากันตื่นตระหนกเมื่อทางสำนักข่าวต่างประเทศได้ให้ข้อมูลว่าหัวเว่ยอาจจะไม่ได้ใช้งาน Android ที่มี Google เป็นแกนหลักอีกต่อไป ส่งผลให้การอัพเดทแพทช์ความปลอดภัยต่างๆอาจล่าช้า รวมถึงรุ่นใหม่ๆก็อาจจะชวดได้ใช้ Google Services ทั้งหมดอีกด้วย