ในช่วงที่ผ่านมา หลายประเทศทั่วโลกที่มีความแพร่หลายทางเครือข่ายอินเทอร์เน็ต (เช่นเดียวกับประเทศไทยของเรา) มักจะถูกมิจฉาชีพหรือแฮกเกอร์โจมตีทางไซเบอร์กันอย่างต่อเนื่อง ทำให้มหาอำนาจทางเทคโนโลยีอย่างสหรัฐ ฯ ยิ่งไม่อาจอยู่นิ่ง ล่าสุดประกาศจัดตั้งความร่วมมือพิเศษแบบนานาชาติ เพื่อต่อสู้กับภัยคุกคามทางไซเบอร์ประเภท Ransomware โดยเผยว่าจะมีสมาชิกจาก 30 ประเทศร่วมลงนามภายในเดือนตุลาคมนี้ทันทีเป็นกลุ่มแรก เพื่อร่วมดำเนินการจัดการปัญหานี้เป็นการด่วน

ในช่วงสุดสัปดาห์ของแรกเดือนตุลาคม ทางตัวแทนรัฐบาลสหรัฐ ฯ หรือ The Biden Administration ได้มีการประกาศจัดตั้งความร่วมมือพิเศษแบบนานาชาติครั้งใหม่ขึ้น โดยเป็นการจัดตั้งคณะกรรมการเพื่อร่วมหารือและวางแผนจัดการกับปัญหาภัยคุกคามไซเบอร์ชนิดยอดฮิตในปัจจุบันอย่าง “Ransomware” ซึ่งกลายเป็นปัญหาที่หลายประเทศทั่วโลกต้องพบเจอกันอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับประเทศกลุ่มที่มีเครือข่ายอินเทอร์เน็ตใช้งานอย่างแพร่หลายในระบบบริการและโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของประเทศ

ในด้านของสหรัฐ ฯ เองทั้งหน่วยงานภาครัฐ เอกชนรายใหญ่ และผู้ให้บริการสาธารณะต่างรายงานไปยังรัฐบาลของพวกเขาว่าพบความพยายามในการโจมตีระบบอยู่ตลอดเวลา ทำให้เกิดความกังวลเป็นอย่างมากถึงแม้โครงสร้างด้านความปลอดภัยของระบบของสหรัฐจะถือว่าอยู่ในมาตรฐานที่ค่อนข้างสูง แต่ก็ไม่วายพลาดโดนเจาะระบบเข้าให้เหมือนกัน โดยเฉพาะในกรณีช่วงกลางปีที่ผ่านมานี้เองที่ทางผู้ให้บริการท่อส่งน้ำมันรายใหญ่ของสหรัฐ ฯ อย่าง The Colonial Pipeline ถึงกับเป็นอัมพาตหยุดให้บริการไปร่วมสัปดาห์เพราะเหตุ Ransomware Attack ที่คาราคาซังกว่า 4 วันทำการ กระทบห่วงโซ่อุปทานน้ำมันฝั่งตะวันออกของสหรัฐไปกว่า 45% เลยทีเดียว

กรณีปัญหาของ Ransomware นี้เอง ประเทศไทยเราก็ไม่น้อยหน้า เพราะในช่วงปีที่ผ่านมามีทั้ง โรงพยาบาลสระบุรีโดนแฮกเมื่อช่วงปลายปีก่อนริษัทในเครือประกันภัย AXA ช่วงกลางปีนี้ หรือช่วงพีค ๆ ก็สด ๆ ร้อน ๆ กันไปร่ายยาวตั้งแต่ Bangkok Airways และอีกหลายเหตุการณ์ตลอดช่วงเดือน สิงหา – กันยายนที่ผ่านมานี้เอง จะเห็นว่าประเด็นปัญหาการโจมตีประเภทนี้ สร้างความเสียหายทางสังคมและเศรษฐกิจได้ไม่มีที่สิ้นสุดมาก ๆ จึงเป็นที่มาให้ทางพี่ใหญ่ทั้งในด้านการเมือง เศรษฐกิจ และเทคโนโลยีของโลกอย่างสหรัฐ ฯ นั้นอยู่เฉยไม่ได้เร่งประกาศความร่วมมือดังกล่าว

สรุปเหตุการณ์ “โรงพยาบาลและบริษัทในไทยถูกแฮก” ข้อมูลคนไข้-ลูกค้า โผล่ขายว่อนดาร์กเว็บ

“การจัดตั้งความร่วมมือนี้จะช่วยเร่งรัดความร่วมมือนานาชาติในการต่อสู้กับอาชญากรรมทางไซเบอร์ ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาด้านมาตรฐานความปลอดภัย มาตรการรับมือ และหลักเกณฑ์ทางกฎหมายให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน ซึ่งอาจรวมไปถึงความพยายามจัดการที่มาที่ไปอย่างผิดกฎหมายของสกุลเงิน Cryptocurrency ทั้งหลายที่มีความเกี่ยวพันธ์กับปัญหานี้ด้วย” – คำแถลงจาก Jake Sullivan | ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติ สหรัฐ ฯ

โดยเบื้องต้นทาง The Biden Administration ได้ประกาศเป้าหมายแรกเป็นที่เรียบร้อยว่า ภายในเดือนตุลาคมนี้พวกเขาจะสามารถรวบรวมประเทศสมาชิกกลุ่มแรกเพื่อร่วมต่อสู้กับอาชกรรมไซเบอร์ข้ามชาติชนิด Ransomware ให้ได้อย่างน้อย 30 ประเทศด้วยกัน พร้อมจะเริ่มนัดประชุมหารือสมัยแรกเพื่อเริ่มต้นความร่วมมือดังกล่าวเป็นการด่วน งานนี้สื่อหลายสำนักต่างเพ่งเล็งไปที่ชาติมหาอำนาจอีก 2 ประเทศอย่างรัสเซียกับจีนว่าจะเข้าร่วมหรือถูกเชื้อเชิญให้เข้าร่วมอยู่ในรายชื่อ 30 ประเทศแรกนี้หรือไม่ หลังจาก 2 ชาติดังกล่าวมักตกเป็นข่าวพัวพันกับอาชญากรไซเบอร์อยู่เนือง ๆ ไม่ว่าจะเป็นทางตรงหรือทางอ้อมก็ตาม

 

อ้างอิง: Engadget | CNN Politics