สำนักข่าว Bloomberg อ้างอิงข้อมูลจากแหล่งข่าววงใน อ้างว่ารัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ กำลังพิจารณาขึ้นบัญชีดำ (Entity List) บริษัทเซมิคอนดักเตอร์จีนที่มีความเกี่ยวข้องกับ HUAWEI เพิ่มเติมอีก 4 แห่ง เพื่อสกัดและลดทอนความพยายามในการพัฒนาเทคโนโลยีด้านปัญญาประดิษฐ์และเซมิคอนดักเตอร์ของจีน หลัง HUAWEI พบความก้าวหน้าครั้งสำคัญเมื่อปีที่แล้ว จากการผลิตชิป Kirin 9000s และนำไปใช้งานในมือถือ Mate 60 series
ปีที่แล้ว HUAWEI เปิดตัวมือถือตระกูล Mate 60 series ออกมาทั้งหมด 4 รุ่น เริ่มจาก Mate 60 และ Mate 60 Pro ในเดือนสิงหาคม จากนั้นจึงคลอด Mate 60 Pro+ ตัวท็อป กับ Mate 60 RS Ultimate รุ่นพิเศษตามออกมาสมทบในเดือนกันยายน โดยเป็นการวางจำหน่ายแบบเงียบ ๆ ผ่านเว็บไซต์และหน้าร้านโดยไม่มีการจัดงานแถลงข่าวใด ๆ
Mate 60 series ทุกรุ่นใช้ชิปตัวเดียวกันคือ Kirin 9000s ที่ยังเป็นปริศนามาจนวันนี้ว่า HUAWEI ผลิตออกมาได้อย่างไร ทั้งที่โดนคว่ำบาตรจากสหรัฐฯ ไม่ให้เข้าถึงเครื่องจักรผลิตชิปขั้นสูงได้อยู่ ซึ่งจะเห็นได้ว่า HUAWEI เองก็พยายามปิดบังรายละเอียดเกี่ยวกับ Kirin 9000s อย่างเต็มที่ โดยไม่มีการเอ่ยถึงชิปรุ่นนี้เลยแม้แต่ประโยคเดียว ไม่ว่าจะเป็นบนเว็บไซต์ทางการหรือในการโปรโมตสินค้าตามช่องทางต่าง ๆ ตลอดจนถึงการเลี่ยงตอบคำถามจากสื่อทุกสำนัก
- ผลทดสอบชี้ Kirin 9000 ยังเหนือกว่า Kirin 9000s ทั้งความแรง GPU และอัตราการกินแบต
- รัฐบาลสหรัฐฯ ตั้งข้อสงสัย HUAWEI อาจละเมิดมาตรการคว่ำบาตร เพื่อผลิตชิป 7 นาโนเมตร
- HUAWEI เลี่ยงตอบคำถามสื่อเรื่องชิป Kirin 9000s ระบุ ยังผลิตโมเดม 5G ไม่ได้ ถ้าสหรัฐฯ ไม่ปลดแบน
- หุ้นกลุ่มผู้ผลิตชิปจีนพุ่งหลัง HUAWEI Mate 60 Pro เปิดตัว เพราะนักลงทุนคาดว่า HUAWEI อาจผลิตชิป 5G ได้เองแล้ว
Qingdao Si’En, SwaySure และ Shenzhen Pensun Technology คือบริษัทเซมิคอนดักเตอร์จีน 3 แห่ง ที่เตรียมจะโดนขึ้นบัญชีดำจากสหรัฐฯ โดย 3 บริษัทนี้ เป็นบริษัทที่ Semiconductor Industry Association หรือ SIA เคยออกรายงานตอนปี 2023 ว่าเป็นบริษัทที่ HUAWEI กำลังเข้าซื้อหุ้น หรือกำลังสร้างแบบลับ ๆ โดยปกปิดความเกี่ยวข้องกับบริษัทตน เพื่อเป็นฉากบังหน้าในการละเมิดมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ หลังได้รับเงินสนับสนุนประมาณ 3 หมื่นล้านดอลลาร์จากรัฐบาลจีน
นอกจากนี้ก็ยังมีบริษัทผลิตหน่วยความจำ ChangXin Memory Technologies อีกแห่ง ที่อยู่ในข่ายสุ่มเสี่ยงเช่นกัน
ยังไม่ชัดเจนว่ารัฐบาลสหรัฐฯ จะทำการตัดสินใจขั้นสุดท้าย (จัดการขึ้นบัญชีดำบริษัทข้างต้น) เมื่อใด แต่ Bloomberg วิเคราะห์ว่าความตึงเครียดระหว่างทั้งสองฝ่ายน่าจะเป็นตัวแปรสำคัญในการตัดสินใจ
ที่มา : Bloomberg
จากที่เคยคิดอยากจะลองใช่ iPhone แต่ สิ่งที่ อเมริกา พยายามสกัดจีนแบบนี้ เชียร์ ค่ายจีน 100% ครับ
ไม่ชอบ iPhone ก็อย่าไปใช้ครับ ของกาก กั๊กของ อะไรก็ว่าไป ไม่ใช่อ้างอเมริกาแบน