เราน่าจะเคยได้เห็นส่วนแบ่งยอดขายสมาร์ทโฟนที่แอนดรอยด์กินไปเกือบ 80% ของทั่วโลกไปบ้างแล้ว แต่ว่าหากมองในเรื่องของเชิงธุรกิจแล้ว Android กลับแพ้ Apple แบบหลุดลุ่ย เพราะ Apple เป็นแบรนด์ที่สามารถทำกำไรได้สูงสุด กินส่วนแบ่งกำไรที่เกิดขึ้นในอุตสากรรมมือถือไปถึง 93% ในไตรมาสล่าสุด กล่าวคือถ้าทั้งวงการขายมือถือไปมีกำไร 1000 ล้านเหรียญ Apple ฟาดไปราวๆ 930 ล้านเหรียญ ส่วนที่เหลืออยู่ กำไรกระจิ๊ดริด - เท่าทุน - หรือขาดทุน!!
อะไรยากๆ นี่พีจีนทำได้ ยิ่งอะไรที่เหนือความคาดหมาย พี่จีนก็ทำได้ไม่มีปัญหา เมื่อล่าสุดพบว่ามีโรงงานปั่น App ที่รับจ้างปั่นยอดดาวน์โหลดและปั้มดาวให้ได้เกรดสูงๆ โดยมีพนักงานนั่งทำงานหน้า iPhone 5c เป็นตับๆ เท่าที่นับได้จากภาพนี้รวมกัน 3 แถวก็เหยียบ 100 เครื่องเข้าไปแล้ว!
ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2012 เป็นต้นมา Apple ค่ายคอมพิวเตอร์ที่มาเอาดีทางด้านสมาร์ทโฟนกับทหารเอก iPhone ได้สูญเสียดินแดนในสหรัฐให้กับ Googel และกองทัพหุ่นเขียว Android ไปเป็นครั้งแรก จากนั้น Apple ก็ได้พยายามสู้รบปรบมือกับ Android มาโดยตลอด ส่งทั้ง iPhone 5/5s/5c ออกมา แต่ก็โดนกองทัพหุ่นยนตร์ตีแตกพ่ายกลับไปทุกทีจนในที่สุดเมื่อสิ้นบุญของพระเจ้า สตีฟ จ๊อบส์ ทางมหาอุปราช ทิม คุก เห็นว่าทหารและขุนพลเอกของฝั่ง Android นั้นมีแต่ตัวใหญ่ๆ กำยำล่ำสัน 5-6 นิ้วขึ้นไปทั้งนั้น การจะเอาทหารตัวเล็กๆ ไปสู้คงจะทำอะไรไม่ได้ ก็ได้ถือโอกาสนี้ พลิกบิดธรรมเนียมประเพณี iPhone มือเดียว ที่สืบทอดต่อกันมาช้านานมาเป็น iPhone 6 และ iPhone 6 Plus ในทันที และหมากเกมนี้ก็ส่งผลให้ Apple สามารถยึดครองดินแดนที่สูญเสียให้กับ Android...
จะมีใครรู้บ้างว่า จริงๆแล้วแรกเริ่มเดิมที Nexus 6 จะมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือมาด้วย โดยตำแหน่งของเซ็นเซอร์จะอยู่ตรงรอยบุ๋มทางด้านหลัง ตำแหน่งปัจจุบันของโลโก้ Motorola นั่นเอง แต่ความสามารถนี้ต้องถูกยกเลิกไปเพราะ Apple โดยตั้งแต่ปี 2011 Motorola ได้ทำงานร่วมกับบริษัท AuthenTec ซึ่งเป็นผู้นำอันดับหนึ่งในตลาดของเทคโนโลยีการสแกนลายนิ้วมือ เพื่อหวังจะนำมาใส่ในอุปกรณ์ของ Motorola เอง แต่แล้ว AuthenTec ถูก Apple ซื้อบริษัทไปในปี 2012 ด้วยมูลค่าถึง 356 ล้านเหรียญ เพื่อนำเทคโนโลยีไปทำเป็นเซ็นเซอร์ Touch ID ของ iPhone ทำให้ Motorola ต้องหมดสิทธิ์ใช้งานไปโดยปริยาย
ถ้าเอ่ยถึงเรื่องของนวัตกรรม สิทธิบัตร และการฟ้องร้องนั้น คงไม่มีใครไม่นึกถึงแบรนด์ผลไม้รายใหญ่อย่าง Apple แน่นอน และล่าสุดก็มีข่าวว่า Apple ได้ไปจดสิทธิบัตรใหม่เกี่ยวกับการทำงานของปุ่ม Home หรือปุ่ม Touch ID ของ iPhone ไว้เป็นที่เรียบร้อย โดยหน้าที่ใหม่ของปุ่ม Home นั้นก็คือการทำงานเป็น จอยเกม Analogue
ช่วงนี้ข่าว iPhone 6s เริ่มหลุดออกมาจากจีนมากขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุดก็เรื่มลือกันแล้วว่า iPhone 6s นั้นจะมีการปรับสเปคในบางส่วน แต่จะยังไม่มีการปรับรูปลักษณ์หรือหน้าตา เพราะปกติแล้วทาง Apple ก็จะมีการปรับดีไซน์ใหม่ในทุกๆ 2 รุ่นที่วางจำหน่ายอยู่แล้วการเปลี่ยแปลงอย่างแรกของ iPhone 6s คือจะมีการเพิ่ม RAM ให้เป็น 2GB จากเดิมที่ใช้ RAM 1GB มาตั้งแต่สมัย iPhone 5 ยังไม่มีการเพิ่ม แต่เท่านั้นยังไม่พอ เพราะ Apple อาจจะจัดหนักเปลี่ยนไปใช้ RAM LPDDR4 แทน LPDDR3 ในปัจจุบันอีกด้วย
ข้อมูลนี้ถูกเปิดเผยโดยสำนักข่าว Sina News ของประเทศจีน ระบุว่าพบ "มนุษย์ประหลาด" ที่ตามร่างกายเต็มไปด้วยโทรศัพท์มือถือชื่อดัง Apple iPhone ซึ่งนับได้กว่า 94 เครื่อง! โดยเครื่องส่วนใหญ่เป็น iPhone รุ่นสีขาว ส่วนรุ่น "สีดำ" นั้นพบว่าอยู่ตำแหน่งเดียวกับส่วนสำคัญอย่างหนึ่งในร่างกายของมนุษย์ นี่ถือว่าเป็นการค้นพบครั้งประวัติศาสตร์ของประเทศจีนและของโลกเลยทีเดียวเชียว...จบข่าว เอ้ย! อย่าเพิ่งจบ เนื้อข่าวที่อ่านมาแค่เอาฮา ส่วนสาระนั้นหนาอยู่หลังเบรกครับผม
ในปี 2015 นี้ มีการคาดกันว่า Apple จะเปิดตัว iPad รุ่นใหม่ หน้าจอใหญ่กว่าเดิม โดยอาจจะมาในชื่อ iPad Pro หรือ iPad Air Plus ซึ่งนอกจากเรื่องหน้าจอที่จะใหญ่ขึ้นเกินกว่า 10 นิ้วแล้ว ยังมีอีกฟีเจอร์นึงที่หลายคนคาดว่าจะได้เห็นบน iPad Pro ตัวนี้ นั่นก็คือลำโพงคู่สเตอริโอนั่นเอง โดยมีข่าวลือว่า Apple จะเจาะช่องลำโพงเพิ่มอีก 1 ช่อง ที่บริเวณด้านบนของตัวเครื่องซึ่งภาพหลุดของชิ้นส่วน iPad ใหม่ที่อ้างว่ามาจากพนักงาน Foxconn นั้นก็เผยให้เห็นถึงช่องลำโพงที่ถูกเจาะอยู่ด้านบน ใกล้ๆ กับปุ่ม sleep/wake
ดูท่า Apple จะไม่ได้มองว่า "นิ้วของคนเราเป็นสุดยอดสไตลัส" อีกต่อไป (แซว) เมื่อล่าสุด กรมดูแลสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้าของสหรัฐ (USPTO) ได้อนุมัติสิทธิบัตรล่าสุดของ Apple เกี่ยวกับปากกาสไตลัสที่สามารถ จด วาด เขียน บนพื้นผิวไหนๆ ก็ได้ แล้วส่งข้อมูลกลับมายัง iPhone หรือ iPad เพื่อนำไปใช้งานต่อ
บอกตรงๆ ว่านี่เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ผมเคยเห็นการขึ้นราคามือถือหลังจากขายไปแล้ว คือจะ Nokia, Samsung, Sony หรือ HTC ก็ไม่เคยเห็นปรากฏการณ์นี้มาก่อน และแน่นอนว่าก็คงไม่มีใครที่จะทำอะไรแบบนี้ได้ นอกจาก Apple เจ้าเดียวเท่านั้น เมื่อล่าสุดราคา iPhone 6 ในรัสเซียปรับราคาขึ้นจาก 39,990 รูเบิ้ล เป็น 53,990 รูเบิ้ล เฉยเลย และไม่ใช่ว่าของขาดแล้วมีการโก่งราคานะครับ แต่ Apple นี่แหละที่ขึ้นราคาเองเลย