เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา จีนพบผู้ป่วย COVID-19 รายใหม่ 60 เคสในเซินเจิ้น จึงได้ออกมาตรการล็อกดาวน์เต็มรูปแบบ พร้อมทั้งปูพรมตรวจหาเชื้อแก่ประชาชน 17 ล้าน 5 แสนรายที่อาศัยอยู่ในเมือง ส่งผลให้ภาคอุตสาหกรรมและธุรกิจต่าง ๆ ที่ไม่ได้รับการยกเว้นต้องหยุดชะงักลงทั้งหมด ไม่เว้นแม้กระทั่ง Foxconn ที่เป็นซัปพลายเออร์รายใหญ่ของ Apple และ Samsung ด้วย
Foxconn บริษัทประกอบชิ้นส่วนชั้นนำของโลก เตรียมร่วมทุนกับ PTT หรือ ปตท. สร้างโรงงานรถยนต์ไฟฟ้าพลังงานสะอาดในประเทศไทยในปี 2022 ที่จะถึงนี้ ขยายธุรกิจอุตสาหกรรมยานยนต์ ตั้งเป้าดำเนินการผลิตในปี 2023 หรืออีกสองปีข้างหน้า
Foxconn และ TSMC สองบริษัทยักษ์ใหญ่ของวงการเทคโนโลยีสัญชาติไต้หวัน ได้ติดต่อกับ BioNTech ขอซื้อวัคซีนโควิดที่พวกเขาได้พัฒนาร่วมกับ Pzifer และนำไปมอบให้กับรัฐบาลไต้หวันเป็นจำนวน 10 ล้านโดส เพื่อนำไปฉีดให้กับประชาชนในไต้หวันต่อไป โดยจำนวนเงินทั้งหมดจากการจัดหาวัคซีนของทั้งของ Tech Giants นี้จะอยู่ที่บริษัทละ 175 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 5.7 พันล้านบาท
โรงงาน Foxconn ในประเทศอินเดีย ที่รับหน้าที่ผลิต iPhone 12 ให้กับ Apple โดนพิษโรคระบาดเล่นงานซะแล้ว หลังมีรายงานว่า พนักงานกว่าร้อยคน ติดเชื้อโควิด ทำให้กำลังผลิตหายไปเยอะเกินกว่าครึ่ง
ก่อนหน้านี้สำนักข่าว Reuters เพิ่งออกมารายงานว่า Apple ได้ร้องขอให้ Foxconn ย้ายฐานไลน์การผลิต MacBook และ iPad ของพวกเขาจากจีนไปประเทศเวียดนาม เนื่องจากเกรงว่าจะได้รับผลกระทบจากข้อพิพาทสงครามการค้า (Trade War) ระหว่างสหรัฐฯ และจีน ล่าสุด Foxconn ก็ประกาศตอบรับคำขอของพวกเขาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ล่าสุดมีข่าววงในออกมาเปิดเผยว่า Apple ได้เตรียมขอให้ Foxconn ย้ายฐานการผลิตอุปกรณ์บางส่วนของพวกเขาอย่าง iPad และ MacBook จากประเทศจีน เพื่อลดการพึ่งพาจากยักษ์ใหญ่แดนมังกร หลังกังวลว่าผลพวงจากสงครามการค้า (Trade War) อาจส่งผลกระทบในด้านลบต่อบริษัทไม่ทางใดทางหนึ่ง
ก่อนหน้านี้ได้มีข้อมูลออกมาแล้วว่า Apple ได้เตรียมเดินสายพานการผลิต iPhone 9 เป็นจำนวนมาก ในเดือนกุมภาพันธ์ เพื่อเตรียมวางจำหน่ายภายในเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้ แต่หลังจากที่มีการระบาดอย่างรุนแรงของไวรัสโคโรนาในประเทศจีน อาจส่งผลกระทบให้การผลิตมือถือดังกล่าวล่าช้าออกไปจากกำหนดเดิม
งานนี้เรียกว่าต้องดิ้นรนหาทางหนีทีไล่กันยกใหญ่ สำหรับบรรดาบริษัทเทคฯข้ามชาติที่มีการดำเนินกิจการประเภทโรงงานผลิตอยู่ในประเทศจีนทั้งหลาย โดยเฉพาะถ้าหากมีสหรัฐเป็นจุดหมายปลายทางของการบริโภค หลังจากที่ประธานาธิบดี Donald Trump ได้มีการประกาศขึ้นกำแพงภาษีนำเข้าจากจีนครั้งล่าสุดในสินค้ากลุ่มเทคฯเพิ่มขึ้นไปอีก โดยรอบนี้ปัญหาตกเป็นของ Tech Giants สัญชาติอเมริกันเองที่ต้องตัดสินใจเร่งขยับฐานการผลิตไปยังไต้หวันและประเทศกลุ่มอาเซียนแทน
ตามที่เราทราบกันว่ายอดขายมือถือของหลายๆ ค่ายในปีนี้อาจะไปไม่ถึงเป้าที่วางไว้เนื่องจากตลาดมือถือชะลอตัวลง โดยเฉพาะ iPhone ที่พบกับวิกฤติที่ค่อนข้างจะหนักสุด ทำให้นอกจากยอดขายไม่ถึงเป้าแล้ว ยังต้องลดจำนวนการผลิตลงหลายครั้ง อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
สมัยนี้พวกกล้องที่สามารถดูภาพผ่านเน็ตประเภท IP Camera มีมากมายหลายยี่ห้อไปหมด ซึ่งแต่ละรุ่นแต่ละแบรนด์ก็มีข้อดีข้อด้อย รวมถึงฟีเจอร์ต่างกันออกไป แถมแต่ละรุ่นก็ยังใช้แอปคนละตัวกันด้วย นั่นคือถ้าเรามีกล้องแบบนี้ 3 รุ่น 3 แบรนด์ เราก็ต้องมีแอปติดตั้งในมือถือถึง 3 แอป 😓 แแต่ตอนนี้ Sony, Nikon, Foxconn และค่ายอื่นๆ กำลังร่วมกันพัฒนาแพลทฟอร์มสำหรับกล้องอัจฉริยะให้สามารถใช้งานร่วมกันได้