สืบเนื่องจากเหตุการณ์เว็บไซต์ธนาคารปลอม หลอกเอาข้อมูลส่วนตัวและรหัสผ่าน ระบาดหนักในช่วงนี้ SCB (ธนาคารไทยพาณิชย์) จึงได้ออกมาประกาศมาตรการยกระดับความปลอดภัยให้แก่ลูกค้า โดยจะระงับการให้บริการเปลี่ยนแปลงอุปกรณ์ (device) ที่ใช้กับแอปพลิเคชั่น SCB EASY ด้วยตนเองเป็นการชั่วคราว
หลังจากเป็นกระแสช่วงกลางปี ที่ทำให้หลายคนรอใช้บริการส่งอาหารใหม่จากไทยเจ้านี้กันอยู่นานสองนาน วันนี้ทางทีม Robinhood ก็ได้เริ่มเปิดให้ดาวน์โหลดใช้บริการแล้วเรียบร้อย ซึ่งตัวแอปพัฒนาเสร็จแล้วสักพักแต่ยังไม่เปิดให้ใช้ เพราะต้องการปรับปรุงเพิ่มเติมหลังรับฟีดแบคจากร้านอาหารและเหล่าไรเดอร์ พัฒนามาถึง 85 เวอร์ชั่น ก่อนที่จะมาถึงวันนี้
เมื่อวันที่ 22 สิงหาคมที่ผ่านมา ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) รายงานว่า ทางธนาคารได้ตรวจพบว่ามีมิจฉาชีพนำบัตรเดบิตของลูกค้าไปใช้ทำธุรกรรมบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ (e-commerce) โดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อป้องกันความเสียหายที่เกิดขึ้น ธนาคารจึงได้ปิดการให้บริการบัตรเดบิตสำหรับการทำธุรกรรมอีคอมเมิร์ซของลูกค้าบางส่วนชั่วคราว และเมื่อตรวจสอบและแก้ไขเรียบร้อยแล้วก็จะแจ้งให้ลูกค้าทราบต่อไป
หลังจากที่เราได้เสนอข่าวแอป Robinhood บริการส่งอาหารน้องใหม่ ที่กำลังจะเปิดให้บริการในเดือนหน้านี้ และมีคนให้ความสนใจอย่างล้นหลาม ด้วยแนวทางที่แตกต่างจากเจ้าอื่นชัดเจน ไม่คิด GP, ไม่คิดค่าสมัคร, โอนเงินให้ร้านไว วันนี้เราได้มีโอกาสเข้าไปพูดคุยกับทีมผู้พัฒนาบริการนี้แบบเจาะลึก ตอบเกือบทุกคำถามที่หลายคนสงสัยกัน
ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา พวกเราต้องเจอกับวิกฤตการณ์โควิด-19 ทำให้ต้องกักตัวอยู่บ้าน และธุรกิจส่งอาหารก็มีความเฟื่องฟูกันอย่างมาก แต่ละวันมีการกดสั่งกันเพิ่มขึ้นจนรับส่งกันไม่ทัน และก็มีความเสียดายกันว่าแพลตฟอร์มรับส่งอาหารเหล่านั้นกลับไม่มีเจ้าไหนเป็นของไทย รวมถึงการคิดค่าธรรมเนียมต่างๆ ที่หลายคนไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่นัก แต่วันนี้เรามีตัวเลือกใหม่แล้วกับแอป Robinhood
จากสถานการณ์ COVID-19 นี้ เรียกได้ว่าเป็นการบังคับให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภคให้เข้าสู่ยุคดิจิทัลกันอย่างรวดเร็ว โดยในเรื่องของการเงินการธนาคารก็เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่ได้รับอานิสงส์เรื่องนี้ไปเต็มๆ โดยทาง SCB ได้มีการเปิดเผยถึงตัวเลขผู้ใช้บริการในช่องทางแอป SCB Easy ที่เพิ่มขึ้นมามากกว่า 200,000 ราย รวมมียอดทำธุรกรรมเฉลี่ย 135 ล้านรายการ/เดือน แถมมีการบริจาคผ่านช่องทางแอปสูงขึ้นถึง 10 เท่า
วันนี้ทางธนาคารไทยพาณิชย์ มีการแถลงข่าวแนะนำบริษัทในกลุ่ม SCB 1OX แยกธุรกิจด้านการลงทุนในดิจิทัลเทคโนโลยีออกมา เพื่อหาการเติบโตในรูปแบบใหม่นอกเหนือจากตัวธนาคารเอง ที่ปัจจุบันอุตสาหรกรรมถูก disrupt อยู่ตลอดและสร้างการเจริญเติบโตแบบก้าวกระโดดได้ยากกว่า ตั้งเป้าขึ้นแท่นผู้นำในอาเซียนด้านการลงทุนดิจิทัลเทคโนโลยีภายใน 5 ปี
เรียกว่ามากันครบทั้ง 4 แบงค์ใหญ่ PLANET SCB, Krungthai Travel Card, TMB All Free, และ Journey จาก KBANK ที่ต่างปล่อยบัตรเดบิตลงตลาดมาช่วงชิงเค้กการใช้จ่ายเงินในต่างประเทศกันอย่างดุเดือด แต่ละบัตรก็จะมีจุดดีจุดเด่นที่ต่างกันออกไป จนดูในรายละเอียดแล้วไม่มีความเหมือนกันเลยก็ว่าได้ มีความยิบย่อยค่อนข้างสูง วันนี้เราเลยจะเอามาเปรียบเทียบให้ทราบกันครับ (*Updated 7 Nov : เพิ่มบัตร YouTrip)
ปล่อยตัวเต็มของ Android 10 กันไปเมื่อคืนที่ผ่านมา หลายคนที่ใช้สมาร์ทโฟน Pixel และยี่ห้ออื่นๆที่เข้าร่วมโครงการก็ได้รับอัพเดทกันไปอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ดีการใช้แอนดรอยด์เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดอาจจะไม่ได้มีแต่ผลดีสักเท่าไหร่นัก เมื่อแอปยอดนิยมอย่างธนาคารกลับไม่ได้ปรับตัวแอปให้รองรับตาม และทำให้มีปัญหาไม่สามารถใช้งานได้กันไปเลย
ปกติแล้วเวลาจะไปเที่ยวต่างประเทศทีก็ต้องแลกเงินที ซึ่งต้องพกเงินสดไปเป็นปึกๆ ทำให้เสี่ยงก่อให้เกิดความไม่ปลอดภัยต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นทำหาย โดนขโมย หรือแม้แต่ตอนแลกเงินกลับคืนก็เสียส่วนต่างที่ค่อนข้างเยอะ ครั้นจะใช้บัตรเครดิตทั่วไปก็เสียค่าชาร์จ 2.5% แต่ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปเมื่อคุณใช้บัตรเดบิตตัวใหม่ PLANET SCB ที่สามารถแลกเงินต่างประเทศไว้ในบัตรในเรทสุดคุ้ม แถมรูดไม่เสียค่าชาร์จ 2.5% ด้วย
