ในช่วงครึ่งปีของ 2025 ที่ผ่านมา เราคงจะทราบกันดีว่าตลาดของ RAM ไม่ว่าจะเป็นมือถือหรือคอมพิวเตอร์ค่อนข้างร้อนระอุ เหตุเพราะบริษัทผู้ผลิตหน่วยความจำ (RAM) อย่างเช่น Samsung ไปเน้นไลน์การผลิตหน่วยความจำประสิทธิภาพสูง (HBM) สำหรับ AI Servers เป็นส่วนใหญ่ จนทำให้การผลิตชิป DRAM ต้องลดลง และทำให้ราคาของ RAM ในท้องตลาดก็ปรับตัวพุ่งขึ้น
ราคา RAM DDR5 ที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องกำลังส่งผลกระทบต่อวงการพีซีทั่วโลก โดยรายงานจากสื่อต่างประเทศระบุว่า ยอดขายเมนบอร์ดลดลงกว่า 50% เมื่อผู้ใช้จำนวนมากตัดสินใจชะลอการอัปเกรดเครื่องใหม่ ส่วนหนึ่งเพราะผู้ที่ใช้ระบบ DDR4 เดิม หากต้องการย้ายมาแพลตฟอร์มรุ่นใหม่ก็จำเป็นต้องซื้อทั้งเมนบอร์ดและแรม DDR5 ที่มีราคาสูงผิดปกติ ทำให้หลายคนเลือก “พักก่อน” จนตลาดฮาร์ดแวร์ชะลอตัวลงอย่างเห็นได้ชัด และอาจลามไปกระทบยอดขายซีพียูในระยะถัดไปด้วย
Micron ผู้ผลิตหน่วยความจำรายใหญ่ของโลกประกาศยุติการทำตลาดแบรนด์ Crucial อย่างเป็นทางการ หลังให้บริการสินค้า RAM และ SSD สำหรับผู้บริโภคมายาวนานถึง 29 ปี โดยบริษัทจะถอนตัวจากตลาดคอนซูเมอร์ทั้งหมด และหันไปโฟกัสธุรกิจหน่วยความจำสำหรับศูนย์ข้อมูลและองค์กรที่เติบโตอย่างรวดเร็วแทน
ราคาแรมพุ่งสูง 3-4 เท่าภายในเวลาไม่กี่เดือน จนตลาดพีซีทั่วโลกสะเทือนหนัก เพราะผู้ผลิตหันไปทุ่มกำลังการผลิตให้ HBM สำหรับงาน AI ทำให้ DRAM และ NAND ขาดตลาดอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ DDR5 และ SSD หลายรุ่นขึ้นราคาแบบก้าวกระโดด ยิ่งไปกว่านั้น ยังเริ่มมีเหตุการณ์ผู้ใช้ถูกขโมยแรมระหว่างขนส่งเกิดขึ้นจริง เช่น กรณีในสหราชอาณาจักรที่สั่งซื้อแรมแล้วได้เพียงซองเปล่า สะท้อนปัญหาที่ลุกลามทั้งด้านราคาและความปลอดภัยของผู้ซื้อในช่วงวิกฤตครั้งนี้
ราคาหน่วยความจำ DDR4 กำลังพุ่งแรงแบบผิดคาด แซงหน้า DDR5 ที่ประสิทธิภาพดีกว่าด้วยซ้ำ สาเหตุหลักมาจากหลายโรงงานทั่วโลกเริ่มทยอยเลิกผลิต DDR4 และหันไปโฟกัสที่ DDR5 ทำให้ของเริ่มขาดตลาด ขณะที่ความต้องการยังมี ส่งผลให้ราคาทะยานไม่หยุด ชุดความจำบางรุ่นราคาขึ้นถึง 40% ภายในสัปดาห์เดียว นักวิเคราะห์เตือนว่าหากมีมาตรการภาษีเพิ่มเติมจากสหรัฐฯ อาจเกิดภาวะ Panic Buy และดันราคา DDR4 ให้แพงกว่า DDR5 ถึง 3 เท่าได้ในอนาคตอันใกล้
การเลือกแรมต้องคำนึงถึงหลายปัจจัย ทั้งขนาด ความเร็วบัส (MHz), ค่า Timing และรุ่น (DDR4 หรือ DDR5) รวมถึงความเข้ากันได้กับซีพียูและเมนบอร์ดของ Intel หรือ AMD เพราะหากเลือกผิดอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพหรือใช้งานไม่ได้นอกจากนี้แบรนด์และฟีเจอร์เสริม เช่น XMP และ EXPO ก็มีผลต่อความเสถียรและประสิทธิภาพของแรม หากกำลังมองหาแรมสำหรับอัปเกรดหรือประกอบคอมพิวเตอร์ ปี 2025 มีตัวเลือกที่หลากหลายให้เลือกตามการใช้งาน ทั้งสำหรับทำงานและเล่นเกม
มีรายงานจาก Digitimes ว่าผู้ผลิตหน่วยความจำแรมรายใหญ่ เช่น Samsung, SK Hynix และ Micron มีแผนที่จะหยุดการผลิต DDR3 และ DDR4 ภายในปี 2025 นี้ โดยจะหันไปผลิตแรม DDR5 และ High-Bandwidth Memory (HBM) เพื่อรองรับความต้องการแรม DDR5 โดยเฉพาะในตลาดเซิร์ฟเวอร์ขั้นสูงและระบบ AI
ล่าสุดมีรายงานเกี่ยวกับ iPhone ที่ระบุถึงการเปลี่ยนแปลงภายในที่น่าสนใจกับ iPhone 18 Series ที่จะเปิดตัวในปี 2026 กล่าวว่า iPhone ในปี 2026 นั้น จะมาพร้อมกับระบบแรมใหม่ ที่จะทำให้การประมวลผล Apple Intelligence ในอุปกรณ์นั้นทำได้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม
RAM LPDDR6 หน่วยความจำเทคโนโลยีใหม่คาดว่าจะได้เปิดตัวในช่วงไตรมาส 3 ปี 2024 โดย RAM มาตรฐานใหม่คาดว่าจะเพิ่มจำนวนแบนด์วิดท์ และความเร็วในการถ่ายข้อมูลให้มากกว่าในรุ่นก่อน เพื่อเน้นใช้ในการประมวลผล AI โดยเฉพาะ ซึ่งตอนนี้ Samsung และ SK Hynix ผู้ผลิตรายใหญ่ก็ได้เร่งงานเพื่อให้ทันใช้กับ Snapdragon 8 Gen 4 ที่ต้องการใช้แรงประมวลผลจาก RAM ที่มากขึ้นนั่นเอง
ชาวพีซีเพิ่งจะตื่นเต้นกับแรม DDR5 ไปไม่นาน (และยังไม่ทันได้ใช้) แต่รู้หรือไม่ว่ามันจะไม่ใช่ของใหม่สุดในยุคอีกต่อไป เพราะตอนนี้กำลังจะมีแรมประหยัดพลังงาน (LP = Low Power) รุ่นใหม่ออกมาตีคู่ โดยค่าย SK hynix เจ้าพ่อแห่งชิป NAND Flash ได้ประกาศเปิดตัวแรมชนิด LPDDR5T เป็นเจ้าแรก โดยตัว T ท้ายชื่อนี้ย่อมากจากคำว่า Turbo สื่อที่ความเร็วที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด