หลังจากมีข่าวว่ารัฐบาลสหรัฐฯ นำโดยประธานาธิบดี Donald Trump ได้เซ็นคำสั่งแบนแอปสัญชาติจีนอย่าง TikTok และ WeChat มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 20 กันยายนที่จะถึงนี้ ล่าสุดนักวิเคราะห์สาย Apple ชื่อดัง ได้ออกมาให้ความเห็นว่า การแบนแอปจีนในสหรัฐฯ แบบนี้ อาจส่งผลกระทบต่อยอดขาย iPhone แบบเต็มๆ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ก่อนหน้านี้ Donald Trump ปธน.ของประเทศสหรัฐ ฯ ได้ออกมาประกาศว่า เขาเตรียมแบนแอป TikTok ทันทีในวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยล่าสุดตัวเขาเองได้เซ็นคำสั่งแบนแอปสายบันเทิงนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว รอบนี้พ่วง WeChat จาก TenCent เข้าไปอีกหนึ่งแอป มีผลตั้งแต่วันที่ 20 กันยายนที่จะถึงนี้เป็นต้นไป ด้าน Instagram ดูเหมือนว่าจะไม่รอช้า เปิดตัว Reels ฟีเจอร์ย่อยในแอปที่บอกเลยว่าแทบจะโคลน TikTok ทั้งหมด หวังเสียบขึ้นมาแทนทันที
ในช่วงศุกร์ที่ 10 กรกฎาคม ที่ผ่านมา รัฐบาลสหรัฐ ฯ ภายใต้การนำของ Donald Trump เล่นของแรง ออกประกาศตอบโต้ฝรั่งเศสที่ออกกฎหมายเก็บภาษี Digital Tax (e-Service) ด้วยการขึ้นภาษีนำเข้ารวดเดียว 25% สำหรับสินค้าจากประเทศฝรั่งเศสหลากหลายชนิด ซึ่งครอบคลุมสินค้าทำเงินทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็น เครื่องสำอางค์ กระเป๋า เสื้อผ้า และสินค้าแฟชั่นอีกหลายรายการด้วยกัน โดยมีระยะเวลาก่อนบังคับใช้จริง 180 วัน ให้ฝรั่งเศสตัดสินใจยกเลิกกฎหมาย Digital Tax หลัง Tech Giants สัญชาติสหรัฐ ฯ กระทบเต็ม ๆ
หลังจากมีข่าวว่ารัฐบาลสหรัฐฯ เตรียมออกมาตรการไม่ให้บริษัทผลิตชิปเซ็ตชื่อดังจากไต้หวันอย่าง TSMC ส่งออกชิ้นส่วนให้กับ HiSilicon ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Huawei ล่าสุด The Global Times ก็รายงานว่า รัฐบาลจีนเตรียมออกมาตรการเอาคืนบ้างแล้ว โดยรอบนี้ พวกเขาเตรียมเปิด “บัญชีหน่วยงานที่ไม่น่าเชื่อถือ” (Unreliable Entity List) เพื่อแบนบริษัทสัญชาติอเมริกันไม่ให้เข้ามาทำธุรกิจในจีนบ้าง
ผู้ก่อตั้งและหนึ่งใน CEO ของ Huawei อย่าง Ren Zhengfei ระบุว่า ได้มีการคาดการณ์ว่ารัฐบาลสหรัฐฯ อาจเล่นงานพวกเขาอีกรอบ หลังจากบริษัทได้ถูกแบนห้ามทำการค้าขายกับบริษัทสัญชาติอเมริกัน ทำให้ไม่สามารถใช้งาน Google Mobile Services ได้เมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่ผ่านมา พร้อมบอกว่า ถึงอย่างไร Huawei ก็จะผ่านพ้นไปได้อยู่ดี
ย้อนกลับไปเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ได้มีข่าวช็อควงการสมาร์ทโฟนที่รัฐบาลสหรัฐ ฯ ประกาศใส่ชื่อ Huawei เข้าไปไว้ในบัญชีดำ (Entity List) มีผลบังคับให้พวกเขาไม่สามารถทำธุรกิจใดๆ กับบริษัทในประเทศสัญชาติสหรัฐ ฯ ได้ เรียกได้ว่าการออกมาเคลื่อนไหวดังกล่าวนี้ส่งผลกระทบไปถึงค่ายมือถือเพื่อนบ้านของ Huawei ไปตามๆ กัน เพราะเกรงว่าจะโดนหางเลขด้วย ทว่าสุดท้ายก็รอดตัว ไม่โดนเอี่ยวไปด้วย อย่างไรก็ดีล่าสุด ผู้ก่อตั้ง Huawei ออกมายืนยันเองว่าพวกเขาไม่สนโทษแบนนี้อีกต่อไปแล้ว
จนถึงตอนนี้ Huawei ยังหาทางออกในการเจรจาคืนดีกับรัฐบาลสหรัฐ ฯ ไม่ได้ซักที ทำให้สมาร์ทโฟนรุ่นต่อๆ ไปยังคงไม่สามารถใช้งานบริการของ Google ได้…แต่ล่าสุดก็ได้มีข่าวลือออกมาว่า Huawei เตรียมเปิดตัวมือถือเรือธงรุ่นล่าสุดอย่าง Huawei P40 และ P40 Pro ในช่วงต้นปี 2020 แม้ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าตอนนั้นจะคืนดีกับสหรัฐอเมริกาได้รึยัง
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ปธน. ของสหรัฐฯ Donald Trump ได้มีโอกาสนั่งกินข้าวเย็นพร้อมเสวนาเรื่องต่างๆ กับ Tim Cook ซีอีโอคนดังของ Apple ซึ่งหลังจากนั้น Trump ก็ออกมาให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวหลายเจ้า ว่า Tim มีความกังวลว่าปัญหาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับประเทศจีน จะทำให้บริษัทคู่แข่งอย่าง Samsung ได้รับผลประโยชน์จากเรื่องนี้มากกว่า Apple ซะอีก
หลังจากที่ Huawei ได้ออกมายอมรับว่าสงครามการค้า Trade War ที่ทางบริษัทนั้นกำลังเผชิญหน้ากับรัฐบาลสหรัฐฯ ได้ทำร้ายยอดขายสมาร์ทโฟนของทางค่ายเป็นอย่างมาก แต่ถึงแม้ว่าตัวเลขในส่วนนั้นจะลดลง ทว่าทางผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Huawei ได้ออกมาประกาศว่าทางบริษัทน่าจะสามารถทำยอดส่งออกสมาร์ทโฟนภายในปีนี้ได้สูงถึง 270 ล้านเครื่อง
เป็นที่ทราบกันดีว่าประธานาธิบดี Donald Trump ได้ออกมาประกาศไฟเขียวในวันที่ 29 มิถุนายนในการประชุม G20 ที่โอซากาครั้งที่ผ่านมา ให้ Huaweiนั้นสามารถกลับมาทำการค้าขายกับบริษัทสัญชาติสหรัฐฯ ได้ ซึ่งการทำธุรกิจร่วมกันดังกล่าวนั้นจะต้องไม่กระทบต่อภัยความมั่นคงของประเทศสหรัฐฯ ทว่าจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีข้อมูลเพิ่มเติมอะไรออกมาจากฝั่งรัฐบาลสหรัฐฯ ในเรื่องของกฎระเบียบว่าสินค้าประเภทไหนเข้าข่ายหรือไม่ ล่าสุดกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐก็ได้ออกมาอธิบายเรื่องนี้ให้ชัดเจนขึ้นแล้ว
