สั่งอาหารผ่านแอปน่าจะเป็นเรื่องปกติ ของหลายคนไปแล้ว แต่บางทีอยากจะกินอาหารร้านดัง ก็อยู่ไกลไปหน่อย ค่าส่งก็แพง อยากจะสั่งทีละหลายร้านหลายเมนูก็เปลือง ซึ่งเหมือนว่า Grab จะรู้ปัญหานี่ดี จึงได้เปิดบริการใหม่ GrabKitchen ทำครัวกลางให้เหล่าร้านดังมาขยายสาขาที่กลางเมืองสำหรับทำส่งเพียงอย่างเดียว พร้อมเปิดให้ mix & match เมนูที่อยู่ในครัวเดียวกัน ให้ส่งพร้อมกันได้โดยไม่ต้องจ่ายเพิ่ม
GrabKitchen คืออะไร?
บริการนี้ในฝั่งของผู้ประกอบการ จะเหมือนเป็นศูนย์อาหารที่ทาง Grab ได้เปิดขึ้นมาเพื่อให้ร้านต่าง ๆ เข้ามาอยู่ด้วยกันในพื้นที่ แต่จะไม่มีโต๊ะเก้าอี้สำหรับให้คนเดินเข้ามาทานกันได้เหมือนปกติ เพราะจะมีแต่ครัวทำอาหารออกมาบรรจุสำหรับให้ Grab Rider รับออกไปส่งให้ผู้ใช้เท่านั้น ซึ่งปัจจุบันทาง Grab ได้เปิดที่แรก ณ ตลาดสามย่าน ใจกลางกรุงเทพ ซึ่งรัศมีการส่งอาหารในระยะ 8 กิโลเมตร จะครอบคลุมไปทั่วเขตสำคัญ และย่านธุรกิจการค้าเกือบทั้งหมดเลยทีเดียว
GrabKitchen ตอบโจทย์ Pain Point ของทุกฝ่าย
- Grab Rider : ลดปัญหาการหาที่จอด แต่ต่อคิว โดย GrabKitchen จะมีการจัดสรรที่จอดรถเอาไว้ให้เรียบร้อย พร้อมกับร้านอาหารก็จะมีระบบที่ทำมาเพื่อการสั่งอาหารโดยเฉพาะ
- Grab User : ได้ร้านอาหารดังที่ปกติอยู่ไกล มาสั่งได้ในระยะทางใกล้ขึ้น และสามารถสั่งเมนูจากร้านอื่นใน Kitchen เดียวกัน โดยไม่ต้องเปิดออเดอร์ใหม่ให้เสียค่าส่งหลายรอบ
- Grab Partner : สามารถขยายธุรกิจถึงลูกค้า โดยไม่ต้องลงทุนเพิ่มเป็นจำนวนมาก โดยทาง Grab จะเป็นคนจัดเตรียมสถานที่และอุปกรณ์ต่างๆเอาไว้ให้ จัดเตรียมเพิ่มเติมไม่มากก็พร้อมขยายสาขาได้ทันที โดยมีฐานลูกค้าจำนวนมากรอสั่งอาหารเลย
ปัจจุบัน GrabKitchen ได้เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการแล้ว หลังเปิดแบบ Soft Launch มาได้ราวๆ 1 เดือนแล้ว ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีมากจากผู้ใช้ โดยร้านใน GrabKitchen นี้จะเปิดให้บริการตั้งแต่ 08.00 – 22.00 น. ทุกวัน ซึ่งประเทศไทยเป็นประเทศที่ 2 ต่อจากอินโดนีเซียที่เปิดไปก่อนหน้า และได้รับการตอบรับที่ดีไม่แพ้กัน ขยายครัวไปแล้วร่วม 18 แห่ง
ร้านอาหารใน GrabKitchen สามย่าน ปัจจุบันมี 12 ร้าน ได้แก่
- บราวน์คาเฟ่
- เอลวิสสุกี้
- ป.เจริญชัย ไก่ตอน
- ตำป๊อกป๊อก
- อองตอง ข้าวซอย
- ปูไข่ดองของกู
- เคเคบับ
- เจ๊เกียง โจ๊กกองปราบ
- หมูทอดถนนประมวญ
- ก๋วยเตี๋ยวต้มยำแปดริ้ว
- โตเกียวโบวล์
- ตามสั่งสิ้นคิด
*8-12 เป็นร้านอาหารเจ้าดังจากเครือเซ็นทรัล
ทั้ง 12 ร้านนี้ทาง Grab บอกว่าเป็นการเลือกจากการใช้ Big Data ที่ตัวบริษัทมีเป็นหลัก โดยร้านจะไม่ได้มีการหมุนเวียนแต่อย่างใด แต่ในอนาคตก็จะเปิดกว้างรับร้านที่หลากหลายมากขึ้น ซึ่งหลังจากเปิดตัวบริการ GrabKitchen และได้รับการตอบรับจากทั้งร้านค้าและผู้ใช้เป็นอย่างดี ก็มีร้านอาหารร้านอื่นที่อยากจะเข้ามาอยู่ใน GrabKitcher กันเป็นจำนวนมาก ทางบริษัทก็กำลังจะขยายหรือเปิดตำแหน่งใหม่เพิ่มเติม แต่ก็มีความยากในเรื่องการหาสถานที่ที่ตอบโจทย์ความต้องการ และต้องไม่ทับกับพาร์ทเนอร์รายอื่นที่มีการเปิดธุรกิจบริเวณนั้นอยู่แล้วอีกด้วย
ร้านใดที่สนใจสามารถติดต่อกับทาง Grab เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมได้ ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ทาง Grab ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดมากนัก บอกเพียงจะมีเรื่องส่วนแบ่งที่อาจจะสูงกว่าร้านอาหารทั่วไป รวมถึงดีลของแต่ร้านอาจจะต่างกันออกไปด้วย
ซ้าย : คุณธรินทร์ ธนียวัน กรรมการผู้จัดการใหญ่ Grab ประเทศไทย
เริ่มเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ เปิดให้เลือกได้ว่าจะรับช้อมส้อมพลาสติกหรือไม่
สั่งอาหารแต่ละครั้งเราจะสร้างขยะพลาสติกขึ้นมาเป็นจำนวนมาก นับแบบคร่าวๆ ไม่ว่าจะเป็น ช้อน ส้อม กล่องบรรจุ พลาสติกหุ้ม ซองน้ำจิ้ม และถุงพลาสติกที่ใส่ของทั้งหมดนี้ ซึ่งทาง Grab ก็เล็งเห็นถึงปัญหาเช่นกัน เบื้องต้นได้มีการเปลี่ยนจากถุงพลาสติกเป็นถุงกระดาษบ้างแล้ว และเตรียมเปิดให้ผู้ใช้สามารถ Opt-out เลือกไม่รับช้อนส้อมพลาสติกได้ในอนาคต รวมถึงบรรจุภัณฑ์ใส่อาหารก็อาจจะเปลี่ยนให้ใช้เป็นกระดาษหรือวัสดุอื่นที่ย่อยสลายได้ง่ายต่อไป โดยทั้งหมดนี้จะยังอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ทั้งหมดอยู่
สงสัยคงต้องรวมหลายร้านมาก ๆๆ เลยนะนั้น 🙂 🙂