ต้องบอกว่ามาแรงมากสำหรับ Netflix แหล่งรวมความบันเทิงที่ครบครันไม่ว่าจะเป็นหนัง ซีรีย์ รวมถึงรายการอื่นๆ ที่ได้รับความนิยมจากสายตรีมวีดีโอจากทั่วทุกมุมโลก ล่าสุดประกาศเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ เอาไว้ตกเพื่อนๆ หลอกล่อให้มาดูหนังด้วยการแชร์ปกหนังผ่าน IG ได้แล้ว
อัปเดตข่าวดีกันหน่อยสำหรับผู้ที่ใช้มือถือรุ่นเรืองธงของ Huawei อย่าง Mate 20 Pro และ P20 Pro ที่ปกติก็ได้ผ่านการรับรอง Widevine L1 สามารถสตรีมวิดีโอจากบริการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Netflix, Amazon , YouTube และอื่นๆ ในความละเอียด HD ได้อยู่แล้ว ล่าสุดคงต้องเฮกันดังๆ เพราะทั้งสองรุ่นผ่านการรับรองการสตรีมแบบ HDR เพิ่มเติมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ตอนนี้ทุกสิ่งอย่างย้ายมาอยู่บนมือถือไปหมด โดยเฉพาะสายเอนเตอร์เทน ทั้งใช้ดูหนัง ดูซีรีส์ ฟังเพลงออนไลน์สารพัด ซึ่งการใช้งานพวกนั้นมันก็ต้องใช้เน็ตมือถือล้วนๆ บางคนแพ็คเน็ตมีจำกัด ก็ต้องมานั่งกังวลกันอีกว่าดูซีรีส์แค่ 2-3 ตอนมันจะทำให้เราติด FUP จนเน็ตอืดไปทั้งเดือนเลยหรือไม่ วันนี้เราก็เลยขอแชร์ข้อมูลคร่าวๆ ของการใช้งาน Data ต่อการดูหนัง + ฟังเพลง ใน 1 ชม. ของแต่ละแอป ว่ามันจะสูบเน็ตมือถือของเราไปเท่าไหร่
ความสะดวกสบายของ Netflix คือเราสามารถดูหนังหรือซีรี่ย์ด้วยสมาร์ทโฟนที่ไหนเมื่อไร่ก็ได้ แต่ไม่ใช่สมาร์ทโฟนทุกรุ่นจะสามารถรับชมได้แบบ HD หรือ HDR เพราะยังมีหลายองประกอบ เช่นหน้าจอของเครื่องจะต้องรองรับความละเอียดตั้งแต่ 720p ขึ้นไป, ต้องสมัครแพ็คเกจ HD และดาวน์โหลดสปีดของเน็ตต้องแรงกว่า 5Mbps และยังมีเรื่องของ DRM หรือ Winevine อีก โดยล่าสุด Netflix ได้มีการเพิ่มรายชื่อสมาร์ทโฟนใหม่ที่รองรับการชมแบบ HD หรือ HDR แล้ว
Netflix อาจจะเป็นบริการสตรีมมิ่งที่มีภาพลักษณ์ที่โดดเด่นในเรื่องของการทำระบบให้มีการแนะนำหนังและซีรีส์ใหม่ๆ ให้เหมาะกับผู้ใช้งานแต่ละคน แต่นั่นไม่ใช่แค่อย่างเดียวเท่านั้นที่ทำให้ Netflix โดดเด่นแตกต่างจากคู่แข่งในตลาดการดูหนังออนไลน์ วันนี้ผมได้ร่วมเข้าฟังคุณ Todd Yellin รองประธานฝ่ายผลิตภัณฑ์ของ Netflix และนำมาเล่าให้ฟังกันครับว่า Netflix มีกระบวนท่าอะไรบ้างที่ทำให้ผุ้ใช้มีประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะกับแอปพลิเคชันในมือถือ
ภายในงาน See What’s Next Asia ทาง Netflix ได้สานต่อความสำเร็จหลังจับมือร่วมกับผู้ผลิตคอนเทนต์จากผู้สร้างหนังและซีรีส์ในแถบเอเชีย ด้วยการประกาศรายชื่อคอนเทนต์ใหม่ออกมาเป็นจำนวนหลายเรื่อง โดยจำนวนหนึ่งในนั้นก็มีซีรีส์ Netflix Original ที่เป็นผลงานจากคนไทยถึง 2 เรื่องด้วยกันคือ “เคว้ง” และ “อุบัติกาฬ”
วันนี้ทาง Netflix ในจัดงาน See What’s Next Asia ซึ่งเป็นการจัดงานสื่อมวลชนในแถบภูมิภาคเอเชียเป็นครั้งแรกที่สิงคโปร์ และมีการแถลงข่าวเปิดตัวภาพยนตร์และซีรีส์ใหม่ออกมาเป็นจำนวนมาก และในครั้งนี้ก็เป็นครั้งแรกของทาง Netflix เลยด้วยที่ได้ประกาศนำภาพยนตร์ภายใต้ Netflix เข้าฉายจอเงินในโรงภาพยนตร์ในสิ้นเดือนพฤศจิกายนนี้
มือถือราคาประหยัดแต่อัดสเปคมาให้แบบเต็มที่อย่าง Pocophone ได้สร้างความฮือฮาจนตลาดแตกกันไปรอบนึงแล้ว แต่เจอปัญหาว่า ไม่รองรับบริการ Streaming อย่าง Netflix ที่ความละเอียด HD หรือสูงกว่าได้ ก็ทำเอาคอหนังซีรีส์หลายๆ คน เกิดการชะงักและรอดูท่าทีก่อนว่ามันจะเป็นยังไงต่อ.. ล่าสุด ปัญหานี้ก็กำลังจะได้รับการแก้ไขจาก Xiaomi ให้คอซีรีส์ทั้งหลายได้ดู Netflix แบบภาพคมชัดกันซะที
Widevine DRM หรือ Widevine Digital Right Management น่าจะเริ่มเป็นที่รู้จักกันมากขึ้นเรื่อยๆ หลังจากที่มีการพบว่า Pocophone และมือถือจีนอีกหลายรุ่นหลายยี่ห้อ (vivo, OPPO, Xiaomi) ไม่สามารถดู Netflix ที่ความละเอียดสูงได้ เนื่องจากติด DRM ที่เป็นตัวป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์ ทำให้เกิดความหงุดหงิดสำหรับคนที่อยากดูหนังดูซีรีย์แบบเต็มความละเอียดพอสมควร วันนี้เลยจะมาอธิบายเพิ่มเติมอีกหน่อยถึง Widevide DRM และการได้สิทธิ์ L1 มาใช้งานนั้น ต้องเสียอะไรเท่าไหร่
เป็นประเด็นและเกิดความสงสัยกันมากมายถึงการรองรับ Widevine DRM L1 เพื่อดู Netflix ที่ความละเอียดสูง หลังจากพบกันว่ามือถือจีนหลายรุ่นไม่รองรับทำให้ต้องดู Netflix ที่ระดับ SD เท่านั้น ซึ่งหลายคนก็สงสัยและอยากรู้ว่ามือถือที่ตัวเองใช้อยู่ หรือเล็งที่จะซื้ออยู่นั้นรองรับตัวนี้หรือไม่ วันนี้เราเลยจะขอรวบรวมข้อมูลที่เพื่อนๆแจ้งมาว่าเครื่องไหนรองรับ Widevine DRM ที่ Level อะไรกันบ้างเอาไว้ใช้อ้างอิงนะครับ
