ปัญหาจาก Facebook มาอีกแล้ว คราวนี้เป็นเรื่องใหญ่เกี่ยวกับรหัสผ่านของบัญชีผู้ใช้งานที่โดนเข้าถึงได้ โดยวันพฤหัสที่ผ่านมีการรายงานข่าวเรื่องความปลอดภัยทางไซเบอร์เกี่ยวกับ Facebook ที่ได้ยืนยันแล้วว่าได้จัดเก็บรหัสผ่านของบัญชีผู้ใช้งานเป็นแบบ Plaintext มาหลายปีแล้ว ซึ่งตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบแก้ไขและแจ้งกลับไปยังผู้ใช้งานกว่าร้อยล้านบัญชี
เมื่อเช้าวานนี้ (13 มี.ค.) พวกเราได้ประสบปัญหา Google และบริการอื่นๆในเครืออย่าง Gmail ใช้งานไม่ได้กันไปถ้วนหน้า สร้างความเดือดร้อนแก่คนที่อยู่ใน ecosystem กันไม่น้อย และอาจจะมีแผนเปลี่ยนไปใช้ของเจ้าอื่นกันอยู่บ้าง แต่พอตกดึกมาถึงกับมึน เพราะหลายคนเจอปัญหา Facebook และบริการอื่นๆในเครืออย่าง Instagram และ Messenger ออกอาการโหลดไม่ขึ้น โพสต์ไม่ไป ภาพไม่มากัน หรือเรียกง่ายๆว่าพังล่มไปเรียบร้อย ซึ่งบริการอื่น ๆ ในอเมริกาต่างก็ออกอาการไม่ต่างกันอีกด้วย
เมื่อช่วงกลางเดือนมกราคม เราได้ยินข่าวว่า Facebook เตรียมจะเพิ่มฟีเจอร์ให้ Messenger สามารถเปิด Dark Mode ปรับสีตัวแอปให้มืดลง เพื่อการประหยัดพลังงาน และสบายตามากขึ้นเมื่อทำการเล่นเวลากลางคืน ซึ่ง ณ ตอนนั้นใครอยากใช้ ถึงกับต้อง root ตัวเครื่องเพื่อทดสอบกันเลย แต่มาตอนนี้หลายคนก็ได้รับฟีเจอร์นี้ไปใช้กันแล้ว โดยมีทริกเล็กน้อย เพียงแค่ส่งอีโมติคอน พระจันทร์ (🌙) หากันเท่านั้น
ตอนนี้หลายคนน่าจะรู้จักฟีเจอร์ Unsend ดึงข้อความที่เคยพิมพ์ส่งไป กันพอสมควรแล้วจากที่ LINE ได้เปิดให้ใช้ไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยล่าสุดทาง Facebook ก็เปิดให้แอป Messenger ของตนเอง ซึ่งได้รับความนิยมไม่แพ้ LINE สามารถใช้ฟีเจอร์นี้ได้เช่นกันแล้ว โดยปัจจุบันกำลังทยอยอัพเดทให้ได้ใช้งานการกันเริ่มจากที่อเมริกาก่อน และน่าจะเข้าไทยภายหลัง
ตอนนี้การใช้งาน Dark Mode กำลังมาแรงเลยล่ะ เห็นได้จากแอปหลายๆ แอป รวมถึง UI ของมือถือหลายๆ รุ่น เริ่มทยอยใส่โหมดดังกล่าวเข้ามาให้ใช้กัน เนื่องจากความที่มันมีสีดำๆ หม่นๆ สบายตา แถมยังช่วยประหยัดแบตได้อีกต่างหาก และตอนนี้แอปแชทสุดฮิตอย่าง Facebook Messenger ก็กำลังจะมีโหมดนี้ให้ใช้ด้วยเหมือนกัน
มาอัพเดทข่าวให้ไปกดอัพเดทแอปกันสักเล็กน้อยกับ Facebook Messenger ที่ปล่อยฟีเจอร์ใหม่ของเค้า เก่าของคนอื่น แต่ชื่นมื่นที่ในที่สุดก็มีใช้ นั่นก็คือ การตอบกลับ (Reply) ข้อความที่ต้องการจะเขียนถึง ทำให้พูดคุยข้ามหัวข้อกันไปมาในกลุ่มใหญ่ได้สะดวกและง่ายขึ้นกว่าเดิม รู้ว่าสิ่งที่เขียนถึงต้องการจะคุยกับใคร ในข้อความไหน ไม่ต้องเข้าใจผิด หรืองงว่าเรากำลังคุยกันเรื่องเดียวกันอยู่รึเปล่าอีกต่อไปครับ
ดูเหมือนปีนี้จะเป็นปีที่ไม่ค่อยดีเท่าไรของ Facebook ในเรื่องการเก็บข้อมูลส่วนตัวที่เป็นความลับของผู้ใช้ เมื่อสัปดาห์ก่อนก็พึ่งมีข่าวออกมาว่าข้อมูลของผู้ใช้ Facebook กว่า 14 ล้านคนทั้ง Username, เพศ, ศาสนา, วันเกิด, อุปกรณ์ที่ใช้ในการเล่น Facebook, เว็บไซต์, เพจที่ติดตามและอื่นๆอีกเยอะนั้นถูกขโมยออกไปโดยแฮคเกอร์ ซึ่งทำให้กลุ่มผู้ลงทุนมีความคิดที่จะถอด Mark Zuckerberg ออกจากตำแหน่งแล้ว
เจ็บกันมานักต่อนักแล้ว…เวลาที่เราใช้แอปแชทต่างๆ คุยกับหลายๆ คน ในเวลาไล่เลี่ยกันแล้วดันเบลอคุยผิดกลุ่ม หรือซวยหนักสุดๆ ก็ดันส่งข้อความหวานๆ ให้ผิดคน กลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตขึ้นมาอีก จะลบทิ้งก็ดันลบได้แต่จากฝั่งของเรา ทางฝั่งที่ส่งไปยังอยู่เหมือนเดิม แต่ต่อไปนี้เรื่องราวแบบนี้จะหมดไป…เพราะ Facebook Messenger เตรียมเปิดให้ใช้ฟีเจอร์ Unsend Message ลบข้อความทั้งฝ่ายส่งและฝ่ายรับได้แล้ว
Facebook หันมาบุกตลาดฮาร์ดแวร์ด้วยการเปิดตัว Portal ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อใช้สำหรับ video calling โดยเฉพาะ มีจอขนาดใหญ่หน้าตาคล้ายแท็บเล็ตที่ถูกยึดกับขาตั้งไว้ แบ่งออกเป็น 2 รุ่นย่อยคือ Portal มาพร้อมกับหน้าจอ 10 นิ้วความละเอียด 1,280 x 800 พิกเซลและ Portal+ ที่มีหน้าจออัพขนาดเป็น 15 นิ้วความละเอียด 1,920 x 1,080 พิกเซลสามารถหมุนปรับจอเป็นแนวตั้งหรือแนวนอนได้
เมื่อบ่ายวานนี้ผู้ใช้ Facebook จำนวนมากเจอปัญหาใช้งานอยู่ดีๆก็เด้งออกมาให้ล็อคอิน ใส่ username – password ใหม่แบบงงๆ พอตกดึกมาปัญหาไขกระจ่าง เมื่อทาง Facebook ออกมาบอกว่าเกือบ 50 ล้านบัญชีโดนแฮก ตั้งแต่เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ทำให้ทางบริษัทต้องทำการ Logout ทุกบัญชีที่อาจได้รับผลกระทบเพื่อเป็นการล้อมคอกก่อนวัวหาย โดยแฮกเกอร์น่าจะใช้ช่องโหว่จากฟีเจอร์ View As ในการเจาะระบบเข้ามา
