จากสถานการณ์โควิด-19 ทั่วโลก แม้ว่าภาพรวมเหมือนจะดีขึ้น แต่ยังไม่มีใครบอกได้ว่าเจ้าโรคระบาดนี้จะอยู่กับพวกเราไปอีกนานแค่ไหน Facebook และ Google จึงไม่รอช้าชิงประกาศว่า พนักงานส่วนใหญ่ของพวกเขาทั่วโลกจะสามารถทำงานจากที่บ้าน (Work from home) ได้ยาว ๆ จน 2021 กันก่อนเลย โดยหลังจากนี้จะทยอยออกประกาศเพิ่มเติมในเรื่องการสนับสนุนพนักงานของพวกเขาอย่างเต็มที่ต่อไปกับการใช้ชีวิตแบบ New Normal ที่ไม่ใช่แค่เรื่องของการทำงานจากที่บ้านอย่างเดียวเท่านั้น

Facebook เผยผลประกอบการสำหรับไตรมาสแรกของปี 2020 ที่แม้ได้รับผลกระทบจาก Covid-19 โดยเฉพาะรายได้ค่าโฆษณา ที่เหล่าผู้ประกอบการทั่วโลกที่ต่างใช้จ่ายระมัดระวังกันมากขึ้น แต่ Facebook กลับมีรายได้ที่เพิ่มขึ้นกว่า 18% จากปี 2019 มีการใช้งานเพิ่มขึ้นในทุกแพลตฟอร์มทั้ง Facebook, Instagram, Whatsapp จากมาตรการ Lockdown ทั่วโลก ผู้ใช้จึงมีปฎิสัมพันธ์กับบริการพวกเขานานขึ้นอีก เพราะบริการเหล่านี้ช่วยเชื่อมต่อผู้คนและสังคมเข้าด้วยกันบนโลกออนไลน์นั่นเอง

Google ในฐานะเจ้าของแพลตฟอร์มอีเมลรายใหญ่ของโลก ออกโรงเตือนผู้บริโภคให้ระมัดระวังการรับข้อมูลข่าวสารผ่านทางอีเมลในเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับโรคระบาด Covid-19 กันให้มากเป็นพิเศษในช่วงนี้ หลังจากค้นพบว่าระบบของ Gmail นั้นต้องทำการบล็อคอีเมลสแปมในระบบที่มุ่งหลอกลวงดึงข้อมูลส่วนบุคคลไปจากผู้ใช้งานด้วยวิธีการ Phishing Attack ทั้งหลายกว่า 18 ล้านฉบับต่อวันเลยทีเดียว

หากพูดถึง E-Commerce สัญชาติจีนที่ชื่อ Pinduoduo (อ่านว่า พินตัวตัว) นักช็อปออนไลน์บ้านเราอาจไม่คุ้นหูเท่ากับ Alibaba หรือ JD แต่ความน่าสนใจของผู้เล่นหน้าใหม่ของจีนรายนี้ อยู่ตรงกลยุทธ์ที่เรียกว่า Social Shopping ซึ่งทำให้พวกเขากลายเป็นที่รักของนักช็อปออนไลน์ชาวจีนได้ในระยะเวลาอันสั้นขึ้นแท่น Top 3 ของจีนอย่างรวดเร็ว จน DroidSans อยากพาไปเจาะจุดเด็ด เคล็ดลับสุดปัง กับ ไอเดียการสร้างยอดขายกระฉูดผ่านแชทกลุ่มโดยอาศัยสภาวะ “แกซื้อ – ชั้นก็ซื้อ”

Google ในฐานะผู้ให้บริการด้านข้อมูลแหล่งใหญ่ที่สุดของโลก ไม่ยอมอยู่เฉยเลือกใช้ข้อมูลที่มีอยู่ให้เป็นประโยชน์ต่อสาธารณชนอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดออกรายงานสถานการณ์การเคลื่อนไหวประชาชาติ หรือ Community Mobility Reports ซึ่งใช้ Google Location History มารวบรวมเป็นรายงานสรุปเพื่อวัดผลมาตรการรัฐของแต่ละประเทศ ในการรับมือโรคระบาด Covid-19 ว่าออกมาตรการกันมาแล้วได้ผลดีเท่าที่ควรหรือไม่ สำหรับประเทศไทย พบว่ามีการเดินทางด้วยระบบสาธารณะลดลง 61% เข้าออฟฟิศทำงานลดลง 21% และอยู่บ้านกันเพิ่มขึ้น 16%

ก่อนหน้านี้ Google และ Uber นั้นเคยมีคดีความเกี่ยวกับการขโมยเทคโนโลยนีและทรัพยากรมนุษย์กันในโปรเจคยานยนต์ไร้คนขับของทั้งบริษัทก่อนจะตกลงกันได้ในช่วงปี 2018 โดย Uber นั้นยอมยกหุ้นบางส่วนให้ Google เป็นการตอบแทนไป แต่ล่าสุดปรากฎว่าเรื่องจะยังไม่จบหลังจากอดีตวิศวกรระดับบริหารของ Uber (ซึ่งย้ายมาจาก Google อีกที) ถูก Google เรียกเงินค่าเสียหายเป็นเงินสูงถึงเกือบ 6 พันล้านบาท และ Uber ก็เตรียมตัดหางปล่อยวัด

ใกล้เข้ามาแล้วสำหรับวันที่ 1 เมษายนของปี ที่จะมีการเล่นมุกข่าวปลอม อำกันเล่นเป็นจริงเป็นจังสุด ๆ กับมุกตลก April Fools’ Day ทั้งหลาย ซึ่งก็ฮิตเล่นกันไปทั่วโลกมานานหลายปีแล้ว ซึ่งในสถานการณ์การต่อสู้กับโรคระบาด Covid-19 นั้น ข่าวสารนับเป็นเรื่องที่สำคัญเป็นอันดับแรก ๆ สำหรับประชาชน และทุกภาคส่วน งานนี้ Google ซึ่งปกตินับเป็นองค์กรที่ชื่นชอบกับการเล่นสนุกในเทศกาล April Fools’ เป็นอย่างมาก ถึงกับต้องเร่งออกประกาศให้ทุกฝ่ายงดเล่นสนุกกับมุกตลกนี้ เพื่อเน้นย้ำความสำคัญของการเป็นเสมือนสื่อเบอร์ 1 ของโลกในปัจจุบัน

นับเป็นความสำเร็จเล็ก ๆ ในสถานการณ์สุดวิกฤติ ที่สภาวะทางเศรษฐกิจจากโรคระบาด Covid-19 ดึงให้ยอดขายสมาร์ทโฟนทั่วโลกตกต่ำลงพร้อม ๆ กันไปอีกระลอก แต่ฝั่งแบรนด์สมาร์ทโฟนสุดคุ้มอย่าง Xiaomi ยังพอมีข่าวดีอยู่บ้าง หลังจากที่ยอดขายในเดือนกุมภาพันธ์ 2020 ที่เพิ่งผ่านมานั้น ทำยอดขายส่งมอบสมาร์ทโฟนต่อเดือนได้มากกว่า Huawei เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ โดยส่วนหนึ่งอาศัยปัจจัยด้านลบของทาง Huawei เองด้วย ที่เร่งถีบส่ง Xiaomi ขึ้นสู่ตำแหน่ง ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนอันดับ 3 ของโลกท่ามกลางวิกฤติได้ไวกว่าที่คาด

จากสถานการณ์ไวรัส Covid-19 ที่ไม่สู้ดีชนิดที่โดนกันหมดไม่ว่าจะไทยหรือจะเทศ ยิ่งช่วงเวลานี้ที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอนรายวัน แต่มีสิ่งเดียวที่แน่นอนแล้วนั่นคือ ชีวิตประจำวันของผู้คนจำนวนมากกำลังจะเปลี่ยนไปไม่เหมือนเคย นั่นคือ แต่ละคนกำลังจะมีเวลาอยู่กับตัวเองที่บ้านของเราเองมากขึ้นแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน บรรดามหาวิทยาลัยชั้นนำของโลกกลุ่ม Ivy League ของสหรัฐอเมริกาจึงเกิดไอเดีย ร่วมมือกันแจกคอร์สเรียนออนไลน์ให้ทุกคนเข้าถึงได้กันอย่างฟรี ๆ กว่า 500 คอร์สเรียนในหลากหลายสาขาวิชาและความสนใจ เรียกว่าให้หาความรู้ใส่ตัวกันได้อย่างเต็มที่หากต้องอยู่กับตัวเองกันไปอีกสักพักใหญ่ ๆ

โดยปกตินั้นบรรดาผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็คทรอกนิกส์แทบทุกแบรนด์ จะมีคำแนะนำในการใช้งานผลิตภัณฑ์ เช่น สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรือ คอมพิวเตอร์ โดยเฉพาะส่วนพื้นผิวและหน้าจอว่า ไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ในการทำความสะอาดเพราะอาจทำให้อุปกรณ์ของเราเป็นรอยได้ง่ายขึ้น แต่สำหรับสถานการณ์โรคระบาดในปัจจุบันนั้น คิดว่าเราต้องห่วงสุขภาพตัวเองกันก่อน แนะนำอย่างยิ่งให้ใช้แอลกอฮอล์ทำความสะอาดอุปกรณ์ไปเถอะ ขนาด Apple ยังถึงกับต้องออกคำแนะนำใหม่ในการทำความสะอาดอุปกรณ์ ให้ใช้แอลกอฮอล์ได้กันเลยทีเดียว